การเปลี่ยนดุลการเมืองสหรัฐฯ เป็นบวกกับภาพรวมการลงทุน

การเปลี่ยนดุลการเมืองสหรัฐฯ เป็นบวกกับภาพรวมการลงทุน

สถิติที่สำคัญเกี่ยวกับการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ 1) สถิติตั้งแต่ปี ค.ศ.1970 หุ้นสหรัฐ มักผันผวนสูงขึ้นในช่วงก่อนเลือกตั้ง (ส.ค.-ต.ค.) 2) ปีที่มีการเลือกตั้งกลางเทอม (ปีที่ 2 ของสมัยประธานาธิปดี) มักเป็นปีที่หุ้นสหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนแย่สุด

เฉลี่ย 3.2% 3) หลังการเลือกตั้งกลางเทอม ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มักให้ผลตอบแทนที่ดี เฉลี่ย 20.1% 4) พรรครีพับริกัน มักมีนโยบายที่เป็นมิตรกับนักลงทุนมากกว่า ทำให้หลังเลือกตั้งกลางเทอมตลาดหุ้นมักจะขึ้นมากกว่า ทั้งค่าเฉลี่ยผลตอบแทน 12 เดือน (Republican +17.5% vs Democrat +13.7%) และที่ค่าเฉลี่ย 24 เดือน (Republican +36.3% vs Democrat +22.1%) แม้หุ้นสหรัฐฯ จะยังมีความท้าทายจากความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย แต่มีโอกาสได้รับ Honey moon period ในช่วง 3-6 เดือนหลังการเลือกตั้ง ซึ่งจะหนุนกับบรรยากาศลงทุนโดยรวม

 

GULF เข้าซื้อ THCOM ทั้งหมด จาก INTUCH คณะกรรมการ GULF อนุมัติให้บริษัทย่อยเข้าซื้อหุ้นTHCOM จาก INTUCH จำนวน 450.87 ล้านหุ้น (41.13%) ในราคาหุ้นละ 9.92 บาท เป็นเงิน 4,472.64 ล้านบาท ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จ GULF จะมีภาระในการทำคำเสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมดของ THCOM อีกจำนวน 645.23 ล้านหุ้น (58.87%) เป็นเงิน 6,400.69 ล้านบาท เรามองระยะสั้นดีลนี้เป็นบวกกับหุ้น INTUCH > GULF > THCOM ตามลำดับ / INTUCH การขายหุ้น THCOM ทำให้มีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษและจ่ายปันผลสูงขึ้น / GULF แม้การเข้าซื้อเป็นข่าวดี แต่กำไรของ THCOM คิดเป็นเพียง 2% ของกำไรปี 2566 ของบริษัทเท่านั้น / THCOM ราคาเสนอซื้อที่ต่ำกว่ากระดาน จะจำกัดความเคลื่อนไหวของหุ้นในระยะสั้น (แม่ในระยะยาวอาจมี synergy ให้หุ้นปรับขึ้นได้ก็ตาม)
 

 

 

 

กลุ่มปิโตรเคมี – “สาย PET น่าสนใจ” แม้ภาพรวมกลุ่มปิโตรเคมีในระยะสั้นจะได้รับผลกระทบจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอ และนโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่จีน แต่ราคาหุ้นได้ปรับตัวสะท้อนความเสี่ยงไปพอสมควร ทำให้มีโอกาสฟื้นตัว ซึ่งเรามองIVL และ PTL ที่เป็นผู้ผลิตสาย PET น่าสนใจ จากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่ทรงตัวในระดับสูง ธุรกิจเส้นใยที่ได้รับอานิสงค์จาก high season หน้าหนาว และอุปทานใหม่ที่จะเข้ามาในปี 2566 มีน้อย ขณะที่ PTTGC และ IRPC จะมีการปิดซ่อมบำรุงหน่วยผลิตในไตรมาส 4/65 ขณะที่มีความเสี่ยงสถานการณ์อุปทานที่จะเพิ่มในปี 2566 สูงกว่า // เมื่อมองความเสี่ยงในช่วง 3 เดือนข้างหน้า โดยรวม IVL และ PTL เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในการเก็งกำไร

 

กลุ่มโรงแรม – ผู้บริหาร MINT ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการท่องเที่ยวในประเทศ ผ่านข้อเสนอหลายมาตรการ ทั้งการให้โรงแรมสามารถเก็บเงินจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ, การผ่อนภาษีที่ดินและที่เกี่ยวข้องเป็นหลายงวด, การขยายเวลายกผลขาดทุนจากการดำเนินงานมาลดหย่อนภาษี เพิ่มเป็น 10 ปี จากปกติ 5 ปี, การสร้างความเป็นธรรมในการแข่งขันกับแพลตฟอร์มจองห้องพักต่างๆ ฯลฯ เรามองข้อเรียกร้องดังกล่าวเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงแรม ทั้ง MINT, ERW, CENTEL, VRANDA เป็นต้น โดยมอง MINT ที่ underperform ในกลุ่มโรงแรมใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา (YTD: MINT -3% vs CENTEL +53% และ ERW +45%) ค่อนข้างน่าสนใจ
 

 

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัว แนวต้าน 1,630 จุด โดยมีแนวรับ 1,614 และ 1,605 จุด ตามลำดับ กลยุทธ์ในภาพใหญ่ไม่เปลี่ยน คือ รอเลือกซื้อกลุ่มหุ้นเปิดเมือง ระยะสั้นกลุ่มที่ลงเยอะ (อาทิ ไฟแนนซ์) มีโอกาสเป็นเป้าหมายเก็งกำไร ส่วนอสังหาริมทรัพย์ ข่าวรัฐบาลถอนร่างขายที่ดินให้ต่างชาติกระทบระยะสั้น แต่เป็นโอกาสซื้อจากงบเข้า high season //หุ้นแนะนำ: MINT*, IVL*, TNR*, PTL*

แนวรับ: 1,605-1,614 / แนวต้าน : 1,630 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

ประเด็นการลงทุน

Sentix เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนยูโรโซนสูงกว่าคาด – ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดยปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -30.9 ในเดือนพ.ย. จากระดับ -38.3 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -35.0

เยอรมนีเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นมากเกินคาด – เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%

บ.ชิปยักษ์ใหญ่จีนเตรียมขาย IPO 2.5 พันล้านดอลล์ในตลาดเซี่ยงไฮ้ – ฮั่ว ฮง เซมิคอนดักเตอร์จำกัด (Hua Hong Semiconductor Ltd ) บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของจีนได้รับการอนุมัติ IPO มูลค่า 1.8 หมื่นล้านหยวน (2.5 พันล้านดอลลาร์) ในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ 

เงินเฟ้อไทย ต.ค. 5.98% - ต่ำกว่าคาดที่ 6.00% ลดลงจากงวดก่อนหน้าที่ 6.41%

กรมที่ดิน ยืนยัน มท.ขอถอนมติ ครม.เปิดทางต่างชาติซื้อที่ดิน – เนื่องจากมีการวิพากษ์วิจารณ์ 

NCL ซื้อกิจการ บล.เอเชีย เวลท์ ร่วมกับพันธมิตร – ในสัดส่วน 60% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ในราคารวมทั้งสิ้น 372,000,000 บาท หรือหุ้นละ 13.9356 บาท โดยซื้อจากบริษัท เอเชีย เวลท์ โฮลดิ้ง จำกัด (AWH)

 

ประเด็นติดตาม: 8 พ.ย. – US Midterm Election / 9 พ.ย. – US Crude Oil Inventories / 10 พ.ย. – US CPI / 15 พ.ย. – US PPI / 16 พ.ย. – US Retail Sales / 17 พ.ย. – EU CPI, US Building Permits

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)