วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (1 พ.ย. 65)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (1 พ.ย. 65)

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังตัวเลขเศรษฐกิจจีน-ยุโรปอ่อนแอ ท่ามกลางการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ในจีน

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมัน

- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส และ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวลดลง หลังสำนักงานสถิติจีน (NBS)  เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคการผลิตของจีน (PMI) เดือน ต.ค. 65 ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 49.2 ซึ่งต่ำกว่า 50 แสดงถึงกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรมที่ซบเซาลง และคาดว่าจะส่งผลต่อปริมาณการใช้น้ำมันภายในประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในจีนที่ยังคงรุนแรง หลังพบตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่อง ล่าสุดรัฐบาลจีนประกาศล๊อกดาวน์และให้ประชาชนในเซี่ยงไฮ้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด

- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหภาพยุโรป เดือน ต.ค. 65 ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 10.7 % Y-o-Y สูงกว่าที่คาดที่ระดับ 10.2 % แม้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะดำเนินนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดผ่านการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75 % สู่ระดับ 1.5 % ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

- ปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐ ฯ ปรับเพิ่มขึ้น 0.9 % M-o-M มาอยู่ที่ระดับ 11.98 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ส.ค. 65 ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 63 
 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในอินเดียปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากปริมาณการนำเข้าน้ำมันเบนซินของออสเตรเลียที่ปรับเพิ่มขึ้น 18.3 % สู่ระดับ 4.62 ล้านบาร์เรลในเดือน ส.ค. 65


ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลของเกาหลีใต้เดือน ก.ย. 65 ปรับลดลง 17.04 % สู่ระดับ 16.97 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงกังวลอุปทานตึงตัวจากผลกระทบของเหตุการณ์ไฟไหม้โรงกลั่นในมาเลเซีย
 

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (1 พ.ย. 65)