คาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวดีกว่าสหรัฐฯ คล้ายการถดถอยปี ค.ศ.2001

ซึ่งสัญญาณหลายอย่างยังสนับสนุนความเห็นเรา ไม่ว่าจะเป็น 1) ท่าทีของธนาคารกลางทั่วโลกที่เริ่มลดระดับการใช้นโยบายการเงินตึงตัว หรือเริ่มชะลอระดับการขึ้นดอกเบี้ย ทั่ง ธนาคารกลางออสเตรเลีย, แคนาดา และธนาคารกลางยุโรป 2) แม้สหรัฐฯ รายงาน GDP ไตรมาส 3/65 ที่ 2.6% (ดีกว่าคาดที่ 2.4%) แต่นักลงทุนไม่ได้ปรับเพิ่มมุมมองเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยสูงสุด ล่าสุด implied terminal rate อยู่ที่เพียง 4.74% เมื่อเทียบกับที่เคยขึ้นไปถึง 4.95% ในช่วงหลังรายงานเงินเฟ้อ ก.ย. ที่ 8.2% (เมื่อ 13 ต.ค.) 3) ผลของมาตรการแบนเซมิคอนดัคเตอร์รอบใหม่ จะทำให้การปรับลดประมาณการของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเกิดต่อไปอีกระยะ การลดความต้องการจ้างงาน ทำให้ตลาดแรงงานน่าจะเข้าสู่สมดุลเร็วกว่าเดิม ทำให้เฟดน่าจะไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง 

 

คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวคล้ายการถดถอยจากปัญหา “ฟองสบู่ดอทคอม” ค.ศ 2001 ในการถดถอยรอบดังกล่าว ค่าเงินสหรัฐฯ ทำจุดสูงสุดในระกว่างช่วงเวลาที่เกิดเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตาม หุ้นสหรัฐฯยังคงปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเวลานานจากการแตกของฟองสบู่หุ้นเทคโนโลยี ขณะที่หุ้นไทยเริ่มฟื้นตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง สาเหตุสำคัญที่ทำให้หุ้นไทยเคลื่อนไหวดีกว่า เกิดจากการที่การถดถอยดังกล่าวไม่ได้เกิดปัญหาลุกลามมายังไทย ขณะที่ประเทศมีเศรษฐกิจภายในที่เริ่มฟื้นตัวจากวิกฤติต้มยำกุ้ง เรามองการถดถอยรอบนี้ ที่เกิดจากยุโรป และอาจจะรวมถึงสหรัฐฯ อาจกระทบบ้างต่อหุ้นในกลุ่มที่อิงเศรษฐกิจโลก แต่จะมีผลลุกลาม ในระดับจำกัดต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยและอาเซียน ทำให้หุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวดีกว่าสหรัฐฯ ในช่วง 6-9 เดือนข้างหน้า คล้ายสถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
 

 

 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 2) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 3) มาตรการสนับสนุน EV ได้แก่ EA, GPSC, PIMO  4) กลุ่มไฟฟ้าแผน PDP ใหม่ ละประมูลพลังงานทดแทน 5,200MW  บวกกับ EGCO, RATCH, GULF, BCPG,  GUNKUL, SSP 5) เก็งกำไรทางเทคนิค CRC, RATCH, SC, TH, TLI, BAM, EA, CK, MBK, SAMART, ARIN, MC, TKN, SCGP, KISS, TC, KAMART, FLOYD, PROS, TVDH 

ภาพรวมกลยุทธ์: ยังเป็นการเลือกเก็งกำไรรายตัว ขณะที่ภาพรวม SET Index อยู่ระหว่างสร้างฐาน เพื่อผ่านโซนแนวต้าน 1,590-1,620 จุด กลยุทธ์ในภาพใหญ่ไม่เปลี่ยน คือ รอเลือกซื้อกลุ่มหุ้นเปิดเมือง ระยะสั้นกลุ่มที่ลงเยอะ (อาทิ ไฟแนนซ์ อสังหาริมทรัพย์) มีโอกาสเป็นเป้าหมายเก็งกำไร ส่วนกลุ่มพลังงานสามารถเก็ง PTTEP ตามแนวรับ ส่วนหุ้นโรงกลั่นกำไรไตรมาส 3 ชะลอหนัก เก็งกำไรระมัดระวัง (ถ้าจะเลือก ชอบ SPRC) //หุ้นแนะนำ: GUNKUL*, ASW*, BCPG*. TVDH*

แนวรับ: 1,579-1,592 / แนวต้าน : 1,612 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

ประเด็นการลงทุน

สหรัฐเผย GDP +2.6% ใน Q3/65 สูงกว่าคาดการณ์ – เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.6% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.3%

สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด - ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.6%

สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด – เพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 217,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 223,000 ราย

ECB ประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด – ทั้งนี้ ECB มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสู่ระดับ 1.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2552 จากเดิมที่ระดับ 0.75%

เครดิตสวิสขาดทุนอ่วม 4 พันล้านฟรังก์ใน Q3/65 พร้อมประกาศปรับโครงสร้าง - ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขาดทุนเพียง 413 ล้านฟรังก์สวิส สะท้อนการด้อยค่าของสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี มูลค่า 3.7 พันล้านฟรังก์สวิส

แมคโดนัลด์ เผยกำไรสูงกว่าคาดไตรมาส 3 – EPS 2.68 $/หุ้น vs Consensus 2.58 $/หุ้น ขณะที่รายได้ 5.87 พันล้านดอลลาร์ vs คาด 5.69 พันล้านดอลลาร์

ศาลปกครองสูงสุดยืนตามศาลชั้นต้นให้ TRUE ไม่ต้องจ่ายชดใช้ 1.2 พันลบ. - ที่ให้บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ชดใช้เงินตามสัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุนเพื่อขยายบริการโทรศัพท์ให้แก่ บมจ.ทีโอที

OR ร่วงกังวลกระทรวงมหาดไทยเก็บภาษี – ภาษีที่ดิน ถนน-ลาน-รั้ว ในปั้มน้ำมัน

AutoX ประกาศขึ้นท็อบ 3 จำนำทะเบียนใน 3 ปี – AutoX ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SCB ตั้งเป้าปล่อยกู้กว่า 7 หมื่นล้านบาท ขึ้นอันดับ 3 ภายในปี 68 ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดฯปี 70 พร้อมแข่ง SAWAD-MTC-TIDLOR 

KBANK เริ่มประมูลขายหุ้นบางส่วนใน KASSET อีกสองสัปดาห์ – กลุ่มอมุนดิ หรือ Amundi SA ถูกคาดจะเป็นผู้ชนะการเข้าซื้อหุ้น มีผู้สนใจ 5-6 ราย ย้ำเป็นการขายหุ้นบางส่วนหรืออาจมากกว่า 50% เพื่อต้องการให้พันธมิตรช่วยเสริมแกร่งกับธุรกิจ

JWD เปลี่ยนชื่อหุ้นเป็น SJWD – หลังควบรวม SCGL คาดชัดเจน Q1/2566

หุ้นที่มีโอกาสเข้าเกณฑ์ Cash Balance – ได้แก่ AMARC

 

ประเด็นติดตาม: 28 ต.ค. – US Core PCE Price Index, US Pending Home Sales / 31 ต.ค. – EU CPI / 1 พ.ย. – US ISM Manufacturing PMI, US JOLTs Job Openings / 2 พ.ย. - Fed Interest Rate Decision / 3 พ.ย. – US ISM Non-Manufacturing PMI / 4 พ.ย. - Nonfarm Payrolls, US Unemployment Rate

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)