ARROW คาด 2H22 อัตรากำไรขั้นต้นฟื้น (7 ต.ค. 2565)

ARROW คาด 2H22 อัตรากำไรขั้นต้นฟื้น (7 ต.ค. 2565)

บริษัทมีรายได้งวด 2Q22 เท่ากับ 334.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.4%QoQ และ +18.3%YoY ส่วนใหญ่เกิดจากลูกค้ามีความต้องการใช้สินค้าเพิ่มขึ้น หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนจากภาครัฐและเอกชนกลับมาอีกครั้ง

ในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 16.2% ลดลงจาก 19.5% ในไตรมาสก่อน และ 39.3% ใน 2Q21 เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบเหล็กปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ช่วง 2H21 จนถึงปัจจุบัน ขณะที่การปรับราคาขายสินค้าและบริการบางรายการทำได้ช้ากว่าเล็กน้อย ขณะที่ %SG&A ทำได้ 9.9% ปรับตัวดีขึ้นจาก 10.9% ในไตรมาสก่อน และ 14.8% ใน 2Q21 จากค่าใช้จ่ายสำรองการจ่ายโดยใช้หุ้นเป็นเกณฑ์จากโครงการ ESOP ของบริษัท และหนี้สงสัยจะสูญลดลง ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 1Q22 เท่ากับ 30.3 ล้านบาท เติบโต +132.5%QoQ แต่ชะลอตัว -29.2%YoY
 
 

-    คาดอัตรากำไรขึ้นต้นจะฟื้นตัวขั้นในช่วงครึ่งปีหลัง

 

กำไรสุทธิงวด 1H22 คิดเป็น 38.2% ของประมาณการทั้งปีของเรา เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอกว่าคาด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบเหล็กปรับตัวสูงขึ้น เราจึงปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นปี 22 จาก 22.0% เป็น 21.0% (บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นปี 22 ให้อยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 20%) ได้ประมาณการกำไรสุทธิใหม่เท่ากับ 107.7 ล้านบาท (-8.5% จากประมาณการเดิม) โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 23 ที่ 127.3 ล้านบาท +18.2%YoY โดยเราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในช่วง 2H22-23 จะปรับตัวดีขึ้น  เนื่องจากบริษัทได้มีการเจรจากับลูกค้าบางส่วนเพื่อที่จะยกเลิกคำสั่งซื้อล่วงหน้า เพื่อลดผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบเหล็กที่ผันผวน ทั้งนี้เรายังคงประมาณการรายได้ปี 22-23 เท่ากับ 1,206.8 ล้านบาท และ 1,303.3 ล้านบาท เติบโต +19.0%YoY และ +8.0%YoY 
 

-  ปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 23 เท่ากับ 8.00 บาท แนะนำเป็น “ซื้อ”

เราประเมินราคาเหมาะสมอิง PER ที่ 16 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี) ภายใต้สมมติฐานประมาณการปี 23 ได้ราคาเหมาะสมเท่ากับ 8.00 บาท ยังมี Upside จากราคาปัจจุบัน เราจึงแนะนำ “ซื้อ” พร้อมคาดหวังอัตราปันผลราว 4-5% ต่อปี


ความเสี่ยง

i)    การบังคับใช้มาตรการ AD ในสินค้าเหล็กอาบสังกะสี 
ii)    ราคาวัตถุดิบเหล็กผันผวน 
iii)   การลงทุนภาครัฐล่าช้ากว่าแผน