Report & Corporate News (27 กันยายน 2565)

Report & Corporate News (27 กันยายน 2565)

ผลการดำเนินงานของ VIBHA ใน 2H22 ยังไม่ได้โดดเด่นมากนัก, ORI มีแผนในการนำบริษัทย่อยของแต่ละกลุ่มธุรกิจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อขยายการลงทุนในอนาคต

VIBHA

Upgraded

HOLD

TP: 2.50 บาท

เรามองผลการดำเนินงานของ VIBHA ใน 2H22 ยังคงไม่ได้โดดเด่นมากนักจากสัดส่วนรายได้จากรายการที่มาจากโควิด19 ลดลง ถึงแม้ว่าโรงพยาบาลใหม่ CMR จะได้รับประโยชน์จากการเป็นที่รู้จักมากขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด19 ที่ผ่านมา ตัวเลขโครงการใหม่ (greenfield project) โดยเฉพาะ VBR จะกดดันรายได้จากส่วนของผู้ถือหุ้น (equity income) ในไตรมาสหน้า ทั้งนี้ อัพไซต์จำกัด ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น ถือ ราคาเป้าหมาย: 2.50 บาท จากราคาเป้าหมายก่อนหน้าที่ 2.40 บาท

ORI

บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) มีแผนในการนำบริษัทย่อยของแต่ละกลุ่มธุรกิจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อขยายการลงทุนในอนาคต โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อให้บริษัทในแต่ละกลุ่มธุรกิจสามารถระดมทุนได้เองผ่านการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)และสามารถระดมทุนด้วยเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ รวมถึงเป็นการส่งเสริมชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของกลุ่มธุรกิจนั้น ๆ ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มฐานลูกค้า เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มโอกาสในการแสวงหาบุคลากรและพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในธุรกิจนั้น ๆ ภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในเบื้องต้น ภายในปี 65-68 บริษัทฯ มีแผนที่จะนำบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด และ บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามลำดับ (ทั้งนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของแต่ละกลุ่มบริษัท) (อินโฟเควสท์)

ICN

บมจ.อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส (ICN) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาจ้างโครงการจัดหาระบบและอุปกรณ์ 5G Smart City สำหรับพื้นที่ EEC เพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการเมือง และส่งเสริมความเป็นเมืองน่าอยู่ จากบมจ. โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) มูลค่างานรวม 315,115,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีระยะเวลาดำเนินงานให้แล้วเสร็จภายใน 19 ก.พ.66 และรับประกัน 5 ปี(อินโฟเควสท์)

PTTGC

บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ลงนามในสัญญาเงินกู้กับธนาคารพาณิชย์ วงเงินกู้รวมประมาณ 27,000 ล้านบาท จำนวน 6 ราย ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LHBANK) ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) และธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) การจัดหาเงินกู้ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อชำระคืนเงินกู้เดิม และใช้ในการดำเนินงานทั่วไปของบริษัทฯ (อินโฟเควสท์)