อ่อนตัว ซื้อเก็งกำไร ASIAN TFG JMART (2 ก.ย. 2565)

อ่อนตัว ซื้อเก็งกำไร ASIAN TFG JMART (2 ก.ย. 2565)

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1,630 / 1,640 จุด แนวรับ 1,614 (EMA 10 / 25 วัน) / 1,608 จุด (EMA 50 วัน) แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ASIAN TFG JMART ทางเทคนิค มีสัญญาณขายตัดขาดทุน หากดัชนีฯ หลุดแนวรับสำคัญ 1,614 จุด (EMA 200 วัน)

โมเมนตัมลบ คือ ผลกระทบจากจีนออกมาตรการล็อกดาวน์เมืองใหญ่ เฉินตู เสฉวน ซึ่งเป็นฐานผลิตชิปและรถยนต์ ไฮไลท์วันนี้ คือ USA รายงานจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราว่างงาน และค่าจ้างเฉลี่ย รายชั่วโมงเดือน ส.ค.; EU รายงานดัชนีผู้ผลิตเดือน ก.ค. คาด +2.5% MoM, +35.8% YoY (Vs เดือน มิ.ย. +1.1% MoM, +35.8% YoY)

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC JMART TCAP JMT CENTEL BEM AOT WHA KKP CPN MINT KTB BDMS FORTH (ขาย THANI)

+ Daily Recommendations: ASIAN (รับค่าเงินบำทอ่อนค่า ขณะที่แนวโน้มกำไรปี 2022E ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง รวมถึงประเด็นบวกจากการ Spin-off บริษัทลูกเข้าตลาดหลักทรัพย์) TFG (รับอานิสงส์จากราคาหมูและไก่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง) JMART (ราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับขึ้นในช่วงใกล้วันเปิดตัว iPhone 14)

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับสูงขึ้นของ Bond Yield: KBANK TTB BLA TIPH

+ หุ้นกลุ่มได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาท: TFG ASIAN BH BDMS

+ หุ้นกลุ่ม Smart Phone รับอานิสงส์งานเปิดตัว iPhone 14: COM7 CPW SPVI JMART SIS SYNEX

 

ปัจจัยบวก

+ USA: แรงซื้อคืนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ หนุนดัชนีฯ DJIA และ S&P500 ฟื้นตัว โดย นักลงทุนยังคงรอคอยตัวเลขการจ้างงาน ทั้งการจ้างงานนอกภาคการเกษตรและอัตราการว่างงานที่จะประกาศคืนนี้ หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด จะเป็นโมเมนตัมบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ (คาดเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยน้อยลง)

 

ปัจจัยลบ

- Fund Flow: นักลงทุนต่างชาติเริ่มต้นเดือน ก.ย. ด้วยการกลับมาขายหุ้นไทย -3,263.85 ล้านบาท (Vs เดือน ส.ค. +57,251 ล้านบาท) และเปิด Short SET50 Index Futures –14,689 สัญญา (Vs เดือน ส.ค. +144,969 สัญญา)

 

- China: นครเฉิงตู มณฑลเสฉวน เมืองขนาดใหญ่ของจีน (สัดส่วน 1.7% ของ GDP) ถูกสั่งล็อกดาวน์ประชำชน 21 ล้านคน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. ส่งผลกระทบต่อฐานการผลิตของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ FoxxConn, INTEL และกลุ่มยานยนต์ อาทิ Toyota โฟล์กสวาเกน ขณะที่เมืองกวางโจว ทางตอนใต้ของจีน ประกาศใช้มาตรการควบคุม COVID-19 เช่นเดียวกันเมืองเสิ่นเจิ้น อาทิ ห้ามรับประทานอาหารภายในร้าน เป็นต้น

 

ประเด็นสำคัญ

- Opportunity Day: SAPPE SENAJ TPIPL RT BBIK และ JDF

- USA: รายงานจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค. คาด +290k (Vs เดือน ก.ค. 528k) อัตราว่างงานเดือน ส.ค. คาดที่ 3.5% และค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมง คาดว่าจะเพิ่มขึ้น +0.3% MoM (Vs เดือน ก.ค. 0.5% MoM)

- USA: คำสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน ก.ค. คาด +0.2% MoM (Vs เดือน มิ.ย. +2% MoM)

- EU: PPI เดือน ก.ค. คาด +2.5% MoM, +35.8% YoY (Vs เดือน มิ.ย. +1.1% MoM, +35.8% YoY)

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยปิดร่วงแรง: ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในทิศทางลดลงตลอดการซื้อขาย โดยลดลงไปต่ำสุดรอบ 7 วันทำการที่ 1,617.75 จุด -21.18 จุด ก่อนขึ้นมาปิดตลาดที่ 1,621.95 จุด -16.98 จุด วอลุ่มซื้อขาย 7.94 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ -2.61% บรรจุภัณฑ์ -1.67% เงินทุนและหลักทรัพย์ -1.51% พาณิชย์ -1.47% พลังงานและสาธารณูปโภค -1.43% หุ้นบวก >4% GUNKUL PLUS TASCO SMK UMS AYUD LDC CEYE TVI CRANE CMO หุ้นลบ >4% KCC HANA AMATA FSMART JAS PRINC TH TSR BGT SITHAI

 

 

 

 

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดคละ ส่วนหุ้นยุโรปปิดลบ: DJIA +0.46% S&P500 +0.30% NASDAQ -0.26% โดยลดช่วงลบ จากแรงช้อนซื้อช่วงท้ายตลาดกลุ่ม Defensive เช่น Health Care กลุ่มสาธารณูปโภค นำขึ้นโดยเมอร์ค แอนด์ โค +2.1% United Health +0.91% P&G +1.54% แต่นำลงโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามการปิดลดลงของราคาน้ำมันดิบโลก (Halliburton -3.95%) และผู้ผลิตชิป รับข่าวรัฐบาลเตรียมห้ามส่งออกชิปให้จีน เพื่อลดความเสี่ยงที่กองทัพจีนจะนำไปใช้ (NVIDIA -7.67%) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเป็นวันที่ 5 CAC40 -1.48% DAX -1.60% FTSE -1.86% และแตะระดับต่ำสุดรอบ 7 สัปดาห์ หุ้นทุกกลุ่มปรับลดลง จากความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกของอีซีบี และอัตราเงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์

- ราคาน้ำมันดิบและทองคำปิดลบ: WTI -USD2.94 ปิดที่ USD86.61/บาร์เรล Brent -USD3.28 ปิดที่ USD92.36/บาร์เรล เป็นผลจากการกังวลอุปสงค์น้ำมันโลกลดลง หลังจีนสั่งล็อกดาวน์เมืองใหญ่หลายแห่ง เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของ COVID-19 จะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง ส่วนราคาทองคำร่วงต่อเป็นวันที่ 5 -USD16.90 ปิดที่ USD1,709.30/ออนซ์ จากการแข็งค่าของเงิน USD +0.9% และยิลด์พันธบัตร 2 ปี ของสหรัฐฯ แตะ 3.52% สูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2007

 

ประเด็นสำคัญ

+ China: สภาแห่งรัฐจีน เผยว่าจะมีการประกาศรายละเอียดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในต้นเดือน ก.ย. เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ โดยหน่วยงานของรัฐจะต้องเตรียมแผนงานใหม่ ๆ สำหรับการใช้เงิน 3 แสนล้านหยวน โดยเฉพาะโครงการที่เพิ่งเริ่มต้นไปเมื่อ 1H22 อาทิ โครงการสร้างถนน การพัฒนาพื้นที่ดั้งเดิม ยานยนต์ รวมถึงสนับสนุนการเพิ่มยอดขายของภาคการผลิตและ SMEs ผ่านการสนับสนุนด้านเครื่องมือและการอบรม ขณะที่ธนาคารพาณิชย์จะต้องนำเสนอการปล่อยสินเชื่อระยะกลางถึงยาว เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างโครงการสำคัญ ๆ และการซื้อเครื่องจักร รวมถึงการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ในการสร้างโครงการให้แล้วเสร็จ

- China: นครเฉิงตู มณฑลเสฉวน เมืองขนาดใหญ่ของจีน (สัดส่วน 1.7% ของ GDP) ถูกสั่งล็อกดาวน์ประชาชน 21 ล้านคน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. และเป็นการล็อกดาวน์เมืองขนาดใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของ COVID-19 หลังจากพบผู้ติดเชื้อ 157 คน เมื่อวันที่ 31 ส.ค. โดยถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในภาคตะวันตกของจีน หลังจากที่แทบไม่เคยได้รับผลกระทบจาก COVID-19 มาก่อน และส่งผลกระทบต่อฐานการผลิตของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ ฟ็อกซ์คอน์ เทคโนโลยี กรุ๊ป อินเทล คอร์ป และบริษัทต่างชาติอื่น ๆ และกลุ่มยานยนต์ อาทิ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป และโฟล์กสวาเกน

- USA: เอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 51.5 ในเดือน ส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2020 จากระดับ 52.2 ในเดือน ก.ค. แต่สูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 51.3 โดยดัชนี PMI ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของคำสั่งซื้อใหม่ ซึ่งร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และการชะลอตัวของการจ้างงาน แม้ว่าความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจดีดตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน

- USA: กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 232,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 245,000 ราย อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวอยู่สูงกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในสหรัฐฯ ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 26,000 ราย สู่ระดับ 1.44 ล้านราย

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: CPN COM7 CENTEL AOT

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: ASIAN TFG JMART

Derivatives: แนะรอเปิด Long S50U22 เมื่ออ่อนตัวแนวรับ