BEM - มีปัจจัยกระตุ้นรออยู่ข้างหน้า (2 ก.ย. 2565)

BEM - มีปัจจัยกระตุ้นรออยู่ข้างหน้า (2 ก.ย. 2565)

เรายังคงคำแนะนำซื้อ BEM และประเมินราคาเป้าหมายที่ 10.50 บาท ปริมาณการเดินทางกำลังกลับเข้าสู่ระดับก่อน COVID ระบาด

โดยยอดผู้ใช้รถไฟฟ้าใต้ดินในเดือนกรกฎาคมยังคงพุ่งสูงขึ้นอีก 19% จากจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยใน 2Q21 และเพิ่มขึ้นถึง 300% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว เรามองว่าโมเมนตัมการเติบโตจะดำเนินต่อไปเนื่องจากศูนย์ประชุมสิริกิติ์จะกลับมาเปิดอีกครั้งในเดือนกันยายนนี้ นอกจากนี้ จะมีการประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มในปลายปีนี้ ซึ่งเราเชื่อว่า BEM มีโอกาสชนะสูง และการชนะประมูลโครงการนี้จะทำให้ราคาเป้าหมายของเราเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอีกอย่างน้อย 1 บาท/หุ้น

 

การเดินทาง 3Q22 น่าจะฟื้นตัวต่อเนื่องจาก 2Q22 โดยเฉพาะรถไฟฟ้าใต้ดิน

เรายังคงมองว่าปริมาณการเดินทางทั้งในส่วนของทางด่วน และรถไฟฟ้าใต้ดินของ BEM กำลังฟื้นตัวขึ้น ซึ่งเท่าที่ผ่านมา ปริมาณการจราจรบนทางด่วนฟื้นตัวได้ดีกว่ารถไฟฟ้าใต้ดิน โดยปริมาณการจราจรอยู่ที่ประมาณ 1.1 ล้านคัน ต่ำกว่าระดับก่อน COVID ประมาณ 10% ในขณะเดียวกัน เรามองว่า upside อยู่ที่รถไฟฟ้า ซึ่งจำนวนผู้โดยสารยังต่ำกว่าระดับก่อน COVID ถึงประมาณ 27% ทั้งนี้ ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นเดือนแรกใน 3Q22  ปริมาณการจราจรของทางด่วนอยู่ที่ 275,000 เที่ยว/วันเพิ่มขึ้น 19% จากค่าเฉลี่ยใน 2Q22 และเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ ในเดือนกันยายน จะมีการกลับมาเปิด “ศูนย์ประชุมสิริกิติ์” อีกครั้งในวันที่ 12 กันยายน 2022 ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นยอดผู้ใช้รถไฟฟ้าใต้ดิน  

 

 

 

คงประมาณการกำไรปี 2022 เอาไว้เท่าเดิม โดยคาดว่า 2H22 จะดีกว่าใน 1H22

เรายังคงประมาณการกำไรเอาไว้เท่าเดิมที่ 2.6 พันล้านบาท (+167% yoy) เพราะเราคาดว่าโมเมนตัมของกำไรที่ดีขึ้นใน 2Q22 จะดำเนินต่อไปใน 2H22 และในปีหน้า  โดยปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญจะมาจากปริมาณการจราจรที่ฟื้นตัวขึ้น ทั้งในส่วนของทางด่วน และรถไฟฟ้า ทั้งนี้ แม้ว่าการจราจรใน 2Q22 จะฟื้นตัวขึ้นอย่างมากจาก 1Q22 แต่ทั้งปริมาณรถใช้ทางด่วน และผู้โดยสารรถไฟฟ้ายังต่ำกว่าระดับก่อน COVID ระบาดเมื่อปี 2019 นอกจากนี้ เรายังมองว่าหาก BEM ชนะประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มจะทำให้ประมาณการกำไรของเรามี upside เพิ่มอีก ซึ่งจะมีการประกาศผลการประมูลในเดือนธันวาคม 2022

 

คงคำแนะนำซื้อ และคงราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 10.50 บาท

เราคิดว่าราคาเป้าหมายของเรายังเหมาะสม เพราะเรายังคงคาดว่ากำไรของ BEM มีแนวโน้มจะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ เพียงแต่จะล่าช้าจากปี 2022 ไปเป็นปี 2023 ในขณะที่ BEM ยังคงเป็นหุ้นที่น่าสนใจในธีมการฟื้นตัวของกำไร ถึงแม้ว่ราคาหุ้นจะขยับขึ้นมาแล้วในช่วงที่ผ่านมา แต่เรามองว่ายังมีช่องที่อาจจะ re-rate ได้อีก โดยเรามองว่าการชนะประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มจะเป็น upside ของ BEM ซึ่งจะทำให้ราคเป้าหมายของเราเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 บาท/หุ้น