ทองคำโลก ATH ทะลุ 4,500 ครั้งแรก! 'เงิน-ทองแดง-แพลทินัม' ทุบสถิติใหม่ด้วย

ราคา "ทองคำโลก" ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่อีกครั้งในวันนี้ (24 ธ.ค. 68) และทะลุระดับ 4,500 ดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรก โดยราคาทองสปอต (Spot gold) ทะยานขึ้นไปทำสถิติ 4,525.77 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะย่อตัวลงมาเคลื่อนไหวที่ 4,511.91 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 10.20 น. วันนี้ตามเวลาสิงคโปร์ หรือบวกไปประมาณ 0.6% 

เมื่อคืนที่ผ่านมา สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าในตลาดโคเม็กซ์สหรัฐ งวดส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 36.30 ดอลลาร์ หรือ 0.81% ปิดที่ 4,505.70 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ และปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ และเวเนซุเอลา ซึ่งหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ราคาทองคำในตลาดสปอตปรับขึ้นเกือบ 1% ต่อเนื่องเป็น "วันที่สามติดต่อกัน" กรณีความขัดแย้งในเวเนซุเอลาที่สหรัฐปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมัน ยิ่งเพิ่มแรงหนุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และนักลงทุนยังเดิมพันว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่ออีกในปีหน้า หลังจากลดติดต่อกันมาแล้วสามครั้ง ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อโลหะมีค่าที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

นอกจากราคาทองคำแล้ว โลหะมีค่าอีกหลายตัวก็เดินหน้าทุบสถิติใหม่เช่นกัน นำโดย "แร่เงิน" ซึ่งหลังจากทำ ATH พุ่งทะลุ 70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้เป็นครั้งแรกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา วันนี้ ราคาแร่เงินตลาดสปอตทำสถิติใหม่ต่อเนื่องอีกครั้งโดยพุ่งขึ้น 1.2% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 72.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และกำลังมุ่งหน้าสู่การปรับขึ้นรายปี "เกือบ 150%" ซึ่งถือเป็นผลงานรายปีที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ขณะที่ราคา "แพลทินัม" (Platinum) พุ่งขึ้น 3.3% มาอยู่ที่ 2,351.05 ดอลลาร์ หลังจากทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 2,377.50 ดอลลาร์ เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนราคาแพลเลเดียม (Palladium) ปรับขึ้นเกือบ 2% มาอยู่ที่ 1,897.11 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี

ส่วนราคาทองแดง (Copper) ปรับขึ้นไปสูงสุด 0.8% ไปแตะระดับ 12,156.50 ดอลลาร์ต่อตันในวันนี้ หลังจากเพิ่งทำสถิติสูงสุดตลอดกาลเอาไว้เมื่อวันจันทร์ แต่ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 10.37 น. วันนี้ตามเวลาเซี่ยงไฮ้ ราคาย่อตัวลงมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 12,109.50 ดอลลาร์ต่อตัน โดยราคาทองแดงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตลอดเดือนธ.ค. จนทะลุระดับ 12,000 ดอลลาร์ต่อตันได้เป็นครั้งแรก ท่ามกลางความกังวลว่าอุปทานในตลาดโลกจะตึงตัวมากขึ้นในปี 2026

อิลยา สปิวัก หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจมหภาคโลกของบริษัท Tastylive กล่าวว่า "โลหะมีค่า" กำลังถูกมองในเชิง “ธีมการเก็งกำไร” มากขึ้น ในยุคที่โลกเต็มไปด้วยความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ และโลกาภิวัตน์ถดถอย

"โลหะมีค่ากลายเป็นเรื่องของการเก็งกำไรมากขึ้น โดยมีแนวคิดว่าในยุคที่โลกาภิวัตน์ถดถอยลง นักลงทุนจำเป็นต้องมีสินทรัพย์ที่สามารถทำหน้าที่เป็น 'ตัวกลางที่เป็นกลาง' โดยปราศจากความเสี่ยงด้านอธิปไตย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ และจีนยังคงดำเนินอยู่" สปิวัก กล่าว

สปิวัก ระบุ เพิ่มเติมว่า สภาพคล่องในตลาดช่วงปลายปีที่เบาบาง ได้ขยายความผันผวนของราคาล่าสุดให้รุนแรงขึ้น แต่ธีมขาขึ้นของตลาดมีแนวโน้มจะคงอยู่ต่อไป โดยทองคำมีเป้าหมายที่ระดับ "5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์" ภายในช่วง 6 ถึง 12 เดือนข้างหน้า ขณะที่ราคาเงินอาจขยับเข้าใกล้ระดับ 80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อกลไกตลาดตอบสนองต่อระดับราคาทางจิตวิทยาที่สำคัญ

ทั้งนี้ ราคาทองคำพุ่งขึ้นแล้วมากกว่า 70% ในปีนี้ ถือเป็นการปรับขึ้นรายปีที่มากที่สุดในรอบ 46 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1979 เป็นต้นมา โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ การเข้าซื้อทองคำสำรองของธนาคารกลางทั่วโลก กระแสการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ และเงินไหลเข้าในกองทุน ETF ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีหน้า

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์