'หุ้นกู้ผิดนัดชำระ’ ปี 66 พุ่งแตะ 2.4 หมื่นล้าน โบรกชี้สถานการณ์น่าห่วง

'หุ้นกู้ผิดนัดชำระ’ ปี 66 พุ่งแตะ 2.4 หมื่นล้าน โบรกชี้สถานการณ์น่าห่วง

ยอด “หุ้นกู้ผิดนัดชำระหนี้” ปี 2566 พุ่งแตะ 2.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเฉียดเท่าตัวจากปีก่อนหน้า เผยส่วนใหญ่เป็นหุ้นกู้ STARK ที่มีมูลค่ากว่า 9.19 พันล้านบาท

สถานการณ์ “หุ้นกู้ผิดนัดชำระหนี้” เป็นประเด็นที่ผู้ลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเวลานี้เริ่มเห็นหลายบริษัทเริ่มออกอาการไม่ดี โดยในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา มีถึง 2 บริษัท ที่ไม่สามารถชำระคืนหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยได้สำเร็จ จนตกอยู่ในสถานะของการผิดนัดชำระหนี้

ปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทยังไม่สามารถส่งงบการเงินประจำปี 2565 ได้ตามกำหนด ทำให้หุ้นกู้จำนวน 5 ชุด มูลค่ารวม 9,198.4 ล้านบาท กลายเป็นผู้กู้ที่ผิดนัดชำระหนี้ในทันที ทำให้ STARK ต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 31 พ.ค.2566 เพื่อขอยกเว้นเหตุแห่งการผิดนัดชำระหนี้  

ล่าสุด ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเช่นเดียวกันว่า บริษัทไม่สามารถชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย ของหุ้นกู้รุ่น CHO212A ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2566 จำนวน 34.99 ล้านบาท เนื่องจากติดปัญหาเรื่องสภาพคล่องและยังมีกระแสเงินสดหมุนเวียนไม่เพียงพอ จนต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 15 มิ.ย.2566 เพื่อขอยกเว้นเหตุแห่งการผิดนัดชำระหนี้เช่นกัน

สถานการณ์เหล่านี้ กำลังบ่งชี้ว่า สถานการณ์ “หุ้นกู้” ในประเทศไทย เริ่มตกอยู่ในภาวะยากลำบาก “กรุงเทพธุรกิจ” พาไปสำรวจว่า ปัจจุบันมูลค่า “หุ้นกู้ที่มีปัญหา” คงค้างอยู่เท่าไร

 

จากข้อมูลของ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) นับเฉพาะที่ขึ้นทะเบียนกับ ThaiBMA (ตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบัน) มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 110,356 ล้านบาท เทียบกับสิ้นปี 2565 ซึ่งมีจำนวน 99,421 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,935 ล้านบาท

โดยหุ้นกู้ที่มีปัญหาเหล่านี้ แบ่งเป็น หุ้นกู้ที่เกิดจากการผิดนัดชำระดอกเบี้ย มูลค่า 24,869 ล้านบาท เทียบกับสิ้นปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 13,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,329 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ แยกออกเป็น

บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL จำนวน 1,722 ล้านบาท

บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO จำนวน 409 ล้านบาท

บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK จำนวน 9,198 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีหุ้นกู้ที่มีปัญหาโดยอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้อีกจำนวน 13,549 ล้านบาท เทียบกับสิ้นปี 2565 อยู่ที่ 14,273 ล้านบาท ลดลง 814 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ก็มีหุ้นกู้ที่มีกำหนดนัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้อีกจำนวน 420 ล้านบาท ส่วนหุ้นกู้ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ มีมูลค่ารวม 71,608 ล้านบาท ซึ่งเป็นหุ้นกู้ของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า การผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ของ ช ทวี หรือ CHO เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นสัญญาณไม่ดีต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นกู้ โดยเฉพาะบริษัทขนาดกลาง-เล็ก ที่อนาคตจะออกหุ้นกู้ลำบากมากขึ้น  เพราะนักลงทุนจะเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน