วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (25 พ.ค. 66)

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 19 พ.ค. 66 ปรับตัวลดลงถึง 12.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 455.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับขึ้น 8 แสนบาร์เรล บ่งชี้อุปสงค์ที่ยังคงแข็งแกร่ง

+ นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปคพลัส ในวันที่ 4 มิ.ย. 66 หลังเจ้าชายอับดูลาซิส บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย ออกมาเตือนเกี่ยวกับโอกาสที่กลุ่มโอเปคพลัสจะลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม และอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น ทำให้นักลงทุนขายราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเพราะคาดว่าราคาน้ำมันจะปรับลดลง จะต้องปิดการซื้อขายในตลาดในราคาที่ขาดทุน

- คณะตัวแทนของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ รวมถึงสมาชิกรีพับลิกัน สิ้นสุดการเจรจาขยายเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่ยังคงไม่มีความคืบหน้าใดๆ ซึ่งอาจจะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิ.ย. นี้ และส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจ
 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงประจำปีของโรงกลั่นหลายแห่งในญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าอุปสงค์จะยังคงอ่อนตัวก็ตาม

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในหลายพื้นที่ในภูมิภาคยังคงทรงตัว ท่ามกลางอุปทานที่หดตัวจากการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ