'หุ้นไทย' (24 พ.ค.) บวก 1.67 จุด อานิสงส์ MOU ก้าวไกล ส่วนต่างชาติขายต่อเนื่อง

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทย” วันนี้ (24 พ.ค.) ปิดตลาดอยู่ที่ 1,536.51 จุด เพิ่มขึ้น 1.67 จุด หรือ 0.11% โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย ผันผวนในทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทั้งวัน ซึ่งดัชนีฯ ทำจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,529.45 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,542.91 จุด มูลค่าซื้อขาย 44,643.80 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1. CPALL มูลค่า 2,771.92 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 63.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.61%

2. BDMS มูลค่า 1,795.27 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 28.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดก่อนหน้า

3. KBANK มูลค่า 1,540.51 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 136.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.12%

4. DELTA มูลค่า 1,415.12 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 88.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.15%

5. PTTEP มูลค่า 1,223.50 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 150.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.01% 

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ นักกลยุทธ์การลงทุน กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด กล่าวว่า วันนี้ดัชนีฯ ปรับตัวเป็นบวกจากความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล โดยในบันทึกข้อตกลงร่วมกันของพรรคร่วมทั้งหมด ไม่มีประเด็นที่นักลงทุนกังวลมากนัก จะมีก็เพียงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และการปรับโครงสร้างพลังงาน ดังนั้นเมื่อมีความชัดเจน นักลงทุนจึงซื้อกลับ

อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยเกือบ 4 พันล้านบาท เนื่องจากยังกังวลเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ รวมทั้งความเสี่ยงที่อาจเกิดการรัฐประหาร

ส่วนวันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.) ดัชนีฯ มีแนวโน้มเป็นลบบางๆ ด้วยแนวรับ 1,535 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550 จุด โดยประเด็นที่ต้องจับตา

1. การขึ้นดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
2. ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) กลางเดือนหน้า
3. การขยับเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐ

ด้านคำแนะนำในการลงทุน ควรพิจารณาหุ้นที่ได้อานิสงส์จากการลงนามจัดตั้งรัฐบาล หรือ MOU เช่น กลุ่มการเงิน และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่ไม่กระทบเลยคือโรงพยาบาล

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์