หุ้นกู้ผิดนัดชำระดอกเบี้ยพุ่งหมื่นล้าน จับตา 4 บริษัทอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้

หุ้นกู้ผิดนัดชำระดอกเบี้ยพุ่งหมื่นล้าน จับตา 4 บริษัทอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้

“สมาคมตราสารหนี้ไทย” เผย หุ้นกู้เอกชนผิดนัดชำระดอกเบี้ยเพิ่ม “หมื่นล้าน” ส่งผลหุ้นกู้มีปัญหา แตะ 1.1 แสนล้าน ล่าสุด “ช ทวี” ผิดนัดชำระเงินต้น-ดอกเบี้ย 33.83 ล้าน “ผู้แทนถือหุ้นกู้” จ่อเรียกประชุมด่วนหาแนวทางแก้ไข จับตา 4 บริษัท อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) รายงานมูลค่าคงค้างหุ้นกู้เอกชนที่มีปัญหา (เฉพาะที่ขึ้นทะเบียนกับสมาคมสะสมตั้งแต่ปี 2560) ณ 19 พ.ค.2566 มีมูลค่ารวม 110,356 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,935 ล้านบาท  จากสิ้นปี 2565 อยู่ที่  99,421 ล้านบาท  แบ่งเป็นหุ้นกู้ที่เกิดจากการผิดนัดชำระดอกเบี้ย มูลค่า 24,869 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 11,329 ล้านบาท จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 13,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,329 ล้านบาท 

โดยเป็นการผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุุ้นกู้ของ บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (ALL) 1,722 ล้านบาท , CHO 409 ล้านบาท เป็นหุ้นกู้ที่ประสบปัญหาและเคยยืดหนี้อยู่ โดยอยู่ระหว่างเตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ มูลค่า 33.83 ล้านบาท และ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) 9,198 ล้านบาท  ยังไม่ถึงกำหนดชำระโดยพลัน (Call Default)ในทันที

นอกจากนี้ ยังมีหุ้นกู้ที่มีปัญหาจากบริษัทต้องเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ อีก 13,459 ล้านบาท ลดลง 814 ล้านบาท จากสิ้นปีก่อนที่ 14,273 ล้านบาท โดยเป็นการลดลงจากหุ้นกู้ ALL 112 ล้านบาท , บมจ.จี แคปปิตอล (GCAP) 150 ล้านบาท , บจก.สยามนุวัตร (SNW) 360 ล้านบาท

ขณะเดียวกันยังมีหุ้นกู้ที่มีกำหนดนัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ (ที่ต้องมีการลงมติเสียงข้างมากไม่น้อยกว่า 75%) 420 ล้านบาท เป็นการเพิ่มขึ้น ของหุ้นกู้ ALL ส่วนหุ้นกู้ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ 71,608 ล้านบาท เป็นหุ้นกู้ของ บมจ.การบินไทย (THAI)

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ ThaiBMA กล่าวว่า กรณีหุ้นกู้ของ CHO ประกาศผิดนัดชำระหนี้ดอกเบี้ย และเงินต้นหุ้นกู้งวด 22 พ.ค.66 นั้นจำนวน 33.83 ล้านบาท  มองเป็นปัญหาเฉพาะตัวบริษัท เนื่องจากงบการเงินของบริษัทประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง ในช่วงโควิด 3 ปี และหลังโควิดแล้วผลการดำเนินงานยังชะลอตัว ทำให้ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยและเงินต้นได้

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาหุ้นกู้ของ CHO ที่มีปัญหาจะใช้วิธีการขอจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ปรับโครงสร้างหนี้ และยืดชำระหนี้มาโดยตลอด สำหรับครั้งนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์ของบริษัทจะปรับปรุงการดำเนินธุรกิจอย่างไร เพื่อให้มีเงินนำมาชำระหนี้หุ้นกู้ที่จะครบกำหนด

ขณะนี้ยังต้องติดตามหุ้นกู้ปรับโครงสร้างหนี้ 4 บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทางสมาคมฯ ได้ประกาศแจ้งความคืบหน้าการแก้ไขปัญหา และสถานการณ์ต่างๆ ให้กับผู้ถือหุ้นกู้ทราบในเว็บไซด์สมาคมฯ 

 ทั้งนี้การที่บจ.ที่ประกาศผิดนัดชำระหนี้ดอกเบี้ย และเงินต้นหุ้นกู้ มีต่อเนื่องจากต้นปีนี้นั้น  ยอมรับว่าอาจกระทบเซนทิเมนต์นักลงทุนหุ้นกู้ชะลอลงทุน แม้ว่าจะเป็นหุ้นกู้ระดับ BBB+ ซึ่งลงทุนได้ก็ตาม แต่หุ้นกู้ระดับลงทุนได้ ยังได้รับความนิยมมากขึ้นนักลงทุน เพราะนักลงทุนระมัดระวังในการลงทุนหุ้นกู้มากขึ้น ปัจจุบันยอดออกหุ้นกู้ไม่ถึงครึ่งปีแรก มีมูลค่า 4.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี

นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHO แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ตามที่ CHO ได้ออกหุ้นกู้ของบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2562 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2566 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน หรือ หุ้นกู้รุ่น “CHO212A”  ได้ครบกำหนดชำระเงินต้น และดอกเบี้ยงวดที่ 17 จำนวน 34,99 ล้านบาท ในวันที่ 22 พ.ค.66 ซึ่งบริษัทไม่สามารถชำระเงินต้น และดอกเบี้ยให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันครบกำหนดได้เต็มจำนวน  จึงถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อ 11.1 ของข้อกำหนดสิทธิ 

       ทั้งนี้ยังไม่มีผลให้บริษัทต้องชำระหนี้ของหุ้นกู้ทั้งหมดยังไม่ถึงกำหนดชำระ โดยพลัน (Call Default) ทันที   โดย CHO แจ้งว่าสาเหตุของการผิดนัดชำระหนี้เงินต้น และดอกเบี้ยดังกล่าว เนื่องจากการขาดสภาพคล่อง และกระแสเงินสดหมุนเวียนไม่เพียงพอ 

แหล่งข่าวจาก บล.โกลเบล็ก  กล่าวว่า จากกรณีที่ CHO ผิดนัดชำระหุ้นกู้รุ่น CHO212A นั้น บล.โกลเบล็ก จะมีการส่งหนังสือถึงนายทะเบียนคือ ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) เพื่อขอปิดสมุดทะเบียน และวันนี้ (23 พ.ค.) จะออกหนังสือเรียกประชุมจากผู้แทนหุ้นกู้เพื่อสอบถามถึงแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อหาข้อสรุปและกำหนดวันเพื่อเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ต่อไป 

ทั้งนี้ หุ้นกู้ทุกชุดของ CHO ที่ออกและยังไม่ได้ไถ่ถอน ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 4 ชุด ซึ่งจำนวนหุ้นกู้คงค้าง และจำนวนเงินต้นคงค้างของหุ้นกู้ทั้ง 4 ชุด เกือบ 740 ล้านบาท โดยมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้คือ บล.โกลเบล็ก จำนวน 1 ชุดคือ หุ้นกู้ CHO212A (ที่มีปัญหา) จำนวน 408 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่เหลืออีก 3 ชุด มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้คือ บล.เอเซีย พลัส 

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า การผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ของ CHO ถือเป็นสัญญาณไม่ดีต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นกู้ โดยเฉพาะบริษัทขนาดกลาง-เล็ก ที่อนาคตจะออกหุ้นกู้ลำบากมากขึ้น  เพราะ นักลงทุนจะเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน 

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ถือหุ้นกู้ CHO คงต้องติดตามแนวทางแก้ไขของบริษัทว่าจะดำเนินการเช่นไร หากดูตามกระบวนการอาจจะต้องมีการเรียกประชุมผู้แทนหุ้นกู้ดังกล่าว เพื่อเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ขยายระยะเวลาการชำระคืนหนี้หุ้นกู้  

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์