BEM - เป็นกังวลกับสายสีส้มเกินกว่าเหตุ

BEM - เป็นกังวลกับสายสีส้มเกินกว่าเหตุ

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และคงราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 11.50 บาท ถึงแม้ว่าเราจะใส่มูลค่าของรถไฟฟ้าสายสีส้มเข้ามาไว้ในราคาเป้าหมายของเรา แต่ก็มีมูลค่าเพียง 1 บาท/หุ้นเท่านั้น

ซึ่งหากถอดมูลค่าของสายสีส้มออกไป ราคาเป้าหมายของเราจะอยู่ที่ 10.50 บาท ซึ่งยังสูงกว่าราคาหุ้นในปัจจุบันอย่างมากอยู่ดี ดังนั้นราคาหุ้นที่ตกลงมาเพราะความกังวลเกี่ยวกับโครงการสายสีส้มจึงเกินกว่าเหตุไป นอกจากนี้ แนวโน้มกำไรของบริษัทยังดูสดใสโดยคาดว่ากำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 3.7 พันล้านบาทในปี 2023

 

แนวโน้มเชิงบวกในปี FY23 โดย guidance

BEM จัด conference call กับนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนเมื่อบ่ายวานนี้ เรามองบวกกับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัท โดยเฉพาะในปี 2023 แต่อย่างไรก็ตาม สัญญาณเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มยังมความไม่แน่นอนอยู่ แม้ว่าบริษัทจะชนะการประมูลมาตั้งแต่เมื่อต้นปีที่แล้ว ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญได้แก่ i) บริษัทให้เป้าหมายทางการเงินปี 2023 โดยมองภาพบวกอย่างที่เราคาดไว้  ซึ่งคาดว่าทั้งรายได้และกำไรน่าจะทำสถิติใหม่ทั้งคู่ โดยรายได้น่าจะขึ้นไปถึง 1.7 หมื่นล้านบาท (+20% yoy) และจาก operational leverage ที่สูง รายได้ที่พุ่งสูงขึ้นจึงน่าจะทำให้กำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ด้วยเช่นกัน เราคิดว่าปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนรายได้และกำไรน่าจะเป็นธุรกิจรถไฟฟ้า ii) กระบวนการอนุมัติโครงการสายสีส้มยังอยู่ที่กระทรวงคมนาคม ซึ่งยังส่งเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ (ขั้นตอนสุดท้าย) ทางบริษัทเชื่อว่าการเปลี่ยนรัฐบาล และการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมในการเลือกตั้งรอบนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับการที่  BEM ชนะประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม

 

 

ของบริษัทสอดคล้องกับประมาณการของเรา

เป้าหมายทางการเงินในปี 2023 ของผู้บริหารเป็นไปตามประมาณการของเรา โดยเราคาดว่ารายได้ในปี 2023 จะอยู่ที่ 1.695 หมื่นล้านบาท (+21% yoy) จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจรถไฟฟ้า เราคาดว่ากำไรก็จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 3.7 พันล้านบาท      (+54% yoy) จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และอัตรากำไรสุทธิ (net margin) ที่เพิ่มขึ้นเพราะได้อานิสงส์จาก operational leverage ทั้งนี้ สำหรับรถไฟฟ้าสายสีส้ม เรามองว่าโครงการนี้ยังมีความเสี่ยง และการเซ็นสัญญาน่าจะต้องถูกเลื่อน เพราะรัฐบาลนี้ไม่น่าจะอนุมัติโครงการใหญ่ ๆ ในช่วงใกล้เลือกตั้ง ซึ่งหมายความว่าโครงการนี้จะเป็นประเด็นค้างคาของ BEM ไปอีกอย่างน้อยสี่ถึงหกเดือน นอกจากนี้ การเปลี่ยนชุดรัฐบาลมักจะทำให้ดีลใหญ่ ๆ โดยเฉพาะการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มมีความยุ่งยากมากขึ้น เราจะติดตามความคืบหน้าในโครงการนี้ต่อไป โดยมองว่าในกรณีเลวร้ายที่สุดที่ BEM ไม่มีโครงการสายสีส้มจะทำให้มูลค่าหุ้นของ BEM ลดลง 1 บาท/หุ้น

 

คงคำแนะนำ ซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 11.50 บาท

เรายังคงคำแนะนำซื้อ BEM และคงราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 11.50 บาท เรามองว่าราคาหุ้นที่ตกลงมาแรงในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาอาจจะเป็นเพราะความไม่แน่นอนของรถไฟฟ้าสายสีส้ม  ถึงแม้ว่าเราจะใส่มูลค่าของรถไฟฟ้าสายสีส้มเข้ามาไว้ในราคาเป้าหมายของเรา แต่ก็มีมูลค่าเพียง 1 บาท/หุ้นเท่านั้น ซึ่งหากถอดมูลค่าของสายสีส้มออกไป ราคาเป้าหมายของเราจะอยู่ที่ 10.50 บาท ซึ่งยังสูงกว่าราคาหุ้นในปัจจุบันอย่างมากอยู่ดี ดังนั้นราคาหุ้นที่ตกลงมาเพราะความกังวลเกี่ยวกับโครงการสายสีส้มจึงเกินกว่าเหตุไป