ROJNA - 4Q สูงกว่าคาด (1 มีนาคม 2566)

ROJNA - 4Q สูงกว่าคาด (1 มีนาคม 2566)

4Q สูงกว่าคาดเพราะรายได้ และ margin ของธุรกิจ IE กำไรธุรกิจหลักปี FY22 ลดลง 15% yoy เป็น 385 ลบ.

กำไรธุรกิจหลัก 4Q อยู่ที่ 601 ลบ. เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 367% yoy และพลิกจากขาดทุน 422 ลบ.ใน 3Q ซึ่งสูงกว่าที่เราและ consensus คาด เพราะรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจนิคมฯ และโรงไฟฟ้าสูงกว่าคาด บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 0.30 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 5% กำหนดขึ้น XD วันที่ 3 พ.ค.

 

รายได้จากการโอนที่ดินเพิ่มก้าวกระโดดเป็น 1.5 พันลบ.ใน 4Q จาก 559 ลบ.ใน 4Q21 และ 23 ลบ.ใน 3Q 

รายได้เพิ่มขึ้นจากการโอนที่ดินเพิ่มขึ้นเป็น 365 ไร่ (จาก 147 ไร่ใน 4Q21 และเพียง 6 ไร่ใน 3Q) ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของที่ดินเพิ่มขึ้นเป็น 60.7% จาก 57.1% ใน 4Q21 และเพียง 9.7% ใน 3Q อัตรากำไรขั้นต้นโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 4% จาก -5.6% ใน 3Q เพราะต้นทุนก๊าซธรรมชาติลดลง และปรับขึ้นค่า Ft เป็น 0.9343 บาท/หน่วย

 

คาดกำไรจะฟื้นตัวก้าวกระโดดในปี FY23F

เราปรับเพิ่มประมาณการยอดขายที่ดินปี FY23F/FY24F เป็นปีละ 700 ไร่ จาก 525/600 ไร่ เนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากกลุ่ม EV, แบตเตอรี่ EV และอิเล็กทรอนิกส์  เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรธุรกิจหลักปีนี้ 55% เป็น 703 ลบ. และปีหน้า 101% เป็น 804 ลบ. เพื่อสะท้อนรายได้จากยอดโอนที่ดินเพิ่มขึ้น (+13% ปี FY23 และ +24% ปี FY24F) อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายที่ดินเพิ่มขึ้น (+60bps และ +30bps) และอัตรากำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น (+2% ปีนี้และปีหน้า) เราปรับลดส่วนแบ่งผลขาดทุนจากบริษัท รัชคารโฮลดิ้ง (ปีละ 100 ลบ.) เนื่องจาก ROJNA จะขายหุ้น 50% ให้กับ Gulf Holding (Thailand) Co.,Ltd. ในเดือนมี.ค.นี้

 

 

 

คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 7.40 บาท (ปรับขึ้นจาก 7.00 บาท)

เราคาดกำไร ROJNA ปีนี้จะเติบโตก้าวกระโดด 83% จากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของยอดขายและยอดโอนที่ดิน และธุรกิจโรงไฟฟ้า ราคาหุ้นลดลง 3% YTD สะท้อนว่าตลาดยังไม่ได้รับรู้การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของบริษัท เราเชื่อว่าเป็นโอกาสให้ ซื้อ