Sideways เก็งกำไรระยะสั้น SHR ERW AOT (17 ม.ค. 2566)

Sideways เก็งกำไรระยะสั้น SHR ERW AOT (17 ม.ค. 2566)

คาดดัชนีฯ แกว่งตัวในกรอบ Sideways แนวรับ 1,675/1,670 จุด แนวต้าน 1,690/1,700 จุด ทางเทคนิค ดัชนีฯ ยังคงแกว่งตัวในกรอบ ก่อนจะมีการเลือกทิศทางที่ชัดเจน

โดยจะกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น หากดัชนีฯ ปิดเหนือบริเวณ 1,690 จุด ได้ แต่จะเข้าสู่ทิศทางขาลง หากปิด ต่ำกว่า 1,670 จุด เชิงกลยุทธ์ แนะนำ เก็งกำไรระยะสั้น ในหุ้นกลุ่มโรงแรมและกลุ่มสายการบิน รับปัจจัยบวกจากประชุมครม. ซึ่งคาดว่าจะมีการนำมาตรการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5” เข้าพิจารณาในวันนี้ หุ้นแนะนำ SHR ERW AOT

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ

+ KTX Big Cap Portfolio: AWC BGRIM CENTEL BH BEM CPALL AOT BBL HANA CPN TTB BDMS PLANB (ขาย CRC)

+ Daily Recommendations: SHR (แนวรับ 4.28/4.20 บาท แนวต้าน 4.50/4.62 บำท) ERW (แนวรับ 4.46/4.38 บาท แนวต้าน 4.63/4.74 บาท) AOT (แนวรับ 72.50/71.50 บาท แนวต้าน 74.25/76.00 บาท)

+ หุ้นได้ประโยชน์จากโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5: SHR ERW AOT BA ASAP

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากบาทแข็งค่า: กลุ่มนำเข้า (COM7 TOA SYNEX) กลุ่ม หนี้ต่างประเทศสูง สายการบิน (AAV) โรงไฟฟ้า (GPSC GULF BGRIM)

+ หุ้น 4Q22E Earnings Play: COTTO SINGER EPG PTG NEX ESSO BAFS JMT THANI SNNP M PRINC EKH MFEC HUMAN PLANB PTTGC IMPACT SA SC ORI JWD FSMART PJW IIG

 

ปัจจัยบวก

+ Thailand: มาตรการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5” คาดว่าจะมีการนำเข้าประชุมครม. ในวันนี้ โดยงบประมาณตลอดโครงการประมาณ 4,000 ล้านบาท ประกอบด้วยวงเงินโครงการหลัก (สนับสนุนค่าใช้จ่ายห้องพัก และอีวอยเชอร์) 2,016 ล้านบาท และโครงการบูสเตอร์ช็อตกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งตลาดในและต่างประเทศ วงเงิน 1,984 ล้านบาท ซึ่งจะเป็น Sentiment เชิงบวกระยะสั้นต่อหุ้นกลุ่มโรงแรม และกลุ่มสายการบิน

 

 

ปัจจัยลบ

- Thailand: สัญญาณการชะลอการแข็งค่าของสกุลเงินบาท หลังจากวานนี้แข็งค่าสูงสุดที่ 32.71 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนจะกลับมาปิดที่ระดับ 33.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะมีแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ หลังจากมีกำไรสะสมในรอบ 60 วันล่าสุด จากตลาดหุ้น +3.4% และจากอัตราแลกเปลี่ยน +12.6%

 

ประเด็นสำคัญ

- China: 4Q22 GDP (คาด +1.8% YoY vs 3Q22 +3.9% YoY); ยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค. (คาด -8.6% YoY vs เดือน พ.ย. -5.9% YoY)

- UK: อัตราการว่างงานเดือน พ.ย. คาดทรงตัวที่ 3.7%

- US: NY Empire State Manufacturing Index เดือน ม.ค. (คาด -8.7 vs เดือน ธ.ค. -11.2)

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทย ปิดบวก: SET Index วานนี้ มีกรอบการเคลื่อนไหว 1,679-1,691 จุด ก่อนจะปิดไปที่ 1,684.86 จุด +3.13 จุด วอลุ่มซื้อขาย 5.9 หมื่นล้านบาท นำบวกโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +1.33% กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร +0.74% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค +0.43% และกลุ่มธนาคาร +0.14% หุ้นบวก >4% ZIGA TMC SKY MOSHI BCPG JTS WARRIX WICE CPL KAMART TMI หุ้นลบ >4% THCOM KLINIQ WAVE SDC

+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ วันจันทร์ที่ 16 ม.ค. เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ส่วนหุ้นยุโรปปิดบวก CAC40 +0.28% DAX +0.31% FTSE +0.20% แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 9 เดือน แม้การซื้อขายเบาบาง เนื่องจากตลาดสหรัฐฯ ปิดทำการ โดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มค้าปลีกได้ช่วยชดเชยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์

 

 

* ตลาดน้ามันดิบและทองคา ปิดทาการ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

 

ประเด็นสำคัญ

+ China: นักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียของเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ กล่าวว่า การเปิดประเทศของจีนจะเป็นแรงกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยจีนซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลกนั้น การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของยอดการใช้จ่ายในภาคครัวเรือน และการลงทุน จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยพยุงการค้าโลก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อุปสงค์ในกลุ่มชาติตะวันตกเผชิญกับความไม่แน่นอน

+ Japan: ตลาดการเงินทั่วโลก จับตาผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 18 ม.ค. นี้ ขณะที่เทรดเดอร์คาดการณ์ว่าคณะกรรมการ BOJ อาจจะปรับนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield Curve Control-YCC) อีกครั้งในการประชุมครั้งนี้ หรืออาจจะประกาศยกเลิกนโยบำย YCC หลังจาก BOJ เคยปรับนโยบาย YCC ไปแล้วด้วยการขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นในการประชุมเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2022

- ILO: องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตการจ้างงานทั่วโลกจะชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วสู่ระดับ 1% ในปีนี้ เทียบกับ 2% ในปี 2022 เนื่องจากเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากสงครามในยูเครน อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น และนโยบายการเงินรัดกุมยิ่งขึ้น พร้อมคาดว่าจำนวนผู้ว่างงานทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอีก 3 ล้านคน สู่ระดับ 208 ล้านคน ในปีนี้

- WEF: ผลการสำรวจ พบว่าหัวหน้านักวิเคราะห์ถึง 2 ใน 3 ที่เข้าร่วมการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ในสัปดาห์นี้ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะเผชิญภาวะถดถอยในปีนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าอุปสงค์ที่อ่อนแอ และอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง จะส่งผลกระทบต่อภาคเอกชน ทำให้ต้องมีการปรับลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: TIDLOR PTTEP PTTGC / ระยะยาว SAWAD BGRIM

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: SHR ERW AOT

Derivatives: ถือ Long S50H23