WHA เต็มคาราเบล |ออฟเรคคอร์ด

๐๐๐ WHA เต็มคาราเบล 

       หุ้นไทย “ปลายปีนี้ ” ทำเอารายย่อยชื่นมื่นกันเป็นแถวเพราะได้เวลา “ไล่เก็บไล่ซื้อหุ้น”  โดยไม่มีกองทุน - ต่างชาติมาคอยไล่ขึ้นตบลงให้ใจสั่น 

     ต้อนรับ “จีนเปิดประเทศ ” เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ จนเตรียมซ้อม “หนี่หาว” กันแทบไม่ทัน  เพราะหุ้นอิงจีนพาเหรดขึ้นมาแบบยกแผง 

     หุ้นท่องเที่ยวถือว่าราคาขึ้นมารอตั้งแต่เนิ่น ส่วนที่ยังมีแรงส่ง และแรงรอบนี้ยกให้ นิคมฯ อย่าง WHA  ขอ บอกเลยว่ามาเต็มคาราเบลแบบสุดๆ 

     แค่มีสัญญาณว่าจีนผ่อนคลายมาตรการ Zero Covid บรรดา “นักธุรกิจจีน” หิ้วกระเป๋าหอบเอกสารมาเจรจาตั้งโรงงาน และซื้อที่ดิน กันอุตลุดจนแม้แต่ช่วงปลายปีหยุดยาวแต่คิวงานเร่งปิดดีลซื้อที่ดินยาวแบบข้ามปี 

     ก่อนหน้านี้ WHA ปิดดีลใหญ่กับ BYD  ไปได้เรียบร้อย    ส่วนช่วงนี้กำลังง่วนกับรายใหญ่ออนไลน์ AMAZON  ถ้าปิดดีลได้อีกข่าวใหญ่รับปี 2566 เลยทีเดียว  

๐๐๐

กระแส “จีน” ฟีเวอร์!! ทันที หลังมีข่าวว่าพญามังกรเตรียมเปิดประเทศในวันที่ 8 ม.ค. นี้ เร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ แม้ขณะนี้จะยังไม่มีรายละเอียดอย่างเป็นทางการออกมา แต่ตลาดหุ้นย่อมรับข่าวไปก่อน ทั้งภูมิภาคบวกกันคึกคัก เขียวสดใสตลอดทั้งวัน

ส่วนบ้านเราก็ไม่น้อยหน้า โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับคนจีน วิ่งรับข่าวดีถ้วนหน้า ดันดัชนีฯ พุ่งแรงกว่า 10 จุด ปิดการซื้อขายที่ 1,643.16 จุด เพิ่มขึ้น 16.36 จุด หรือ 1.01% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,645.76 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,631.14 จุด มูลค่าการซื้อขาย  53,259.98 ล้านบาท 

นักลงทุนต่างชาติซื้อ 4,576.14 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ ขาย 44.15 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขาย 5,216.28 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อ 684.29 ล้านบาท

๐๐๐

“หุ้นท่องเที่ยว” เฮลั่น! หลังจีนประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ถือเป็นปัจจัยบวกต่อภาคการท่องเที่ยวไทยเต็มๆ เพราะจีนถือเป็นตลาดอันดับ 1 ย้อนกลับไปเมื่อปี 2562 มีคนจีนเข้ามาท่องเที่ยวไทยมากที่สุดเกือบ 11 ล้านคน

โดยหุ้นสนามบิน บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) นำทีมรับข่าวดี วอลุ่มการซื้อขายเยอะที่สุดของวัน ในฐานะประตูบานแรกในการรับนักท่องเที่ยว ปิด 75.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 2.37% ซึ่งในช่วงสถานการณ์ปกติ AOT มีสัดส่วนรายได้จากคนจีนราวๆ 15%

๐๐๐

ส่วนบมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) เทคออฟได้อย่างสวยงาม พุ่งฝ่าแนวต้าน 3 บาทได้อีกครั้ง ทำจุดสูงสุด 3.08 บาท ก่อนปิดซื้อขาย 3.02 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท หรือ 4.86% โดยในช่วงก่อนเกิดโควิด คนจีนถือเป็นตลาดต่างชาติที่ทำรายได้ให้กับ AAV มากที่สุด

แต่ถ้าไปดูความเคลื่อนไหวของผู้บริหารพบว่า “โจ” ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ แบ่งขายหุ้นออกมา 8 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 2.92 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 23.36 ล้านบาท

๐๐๐

ด้านบมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) ได้จังหวะใช้ข่าวดีจากจีน ไล่ราคาขึ้นมาอย่างร้อนแรง ทำนิวไฮในรอบ 3 เดือน ปิดการซื้อขาย 1.39 บาท เพราะตลาดจีนถือเป็นตลาดหลักที่ส่งสินค้าไปขาย ขณะเดียวกันเมื่อคนจีนมาเมืองไทยก็มักช้อปเครื่องสำอางติดไม้ติดมือกลับไปด้วย

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์