ROJNA - ธุรกิจไฟฟ้าสดใสขึ้น (16 ธ.ค. 2565)

ซึ่งมีนักลงทุนหลายรายระดับโลก และนักลงทุนซาอุฯ ให้ความสนใจ เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 7 บาท ผลตอบแทนรวมน่าสนใจ 18% เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ”

 

ค่า Ft จะปรับขึ้นในม.ค.-เม.ย. 2023

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อนุมัติขึ้นค่า Ft สูงกว่าคาด เป็น 1.9044 บาท/ยูนิต ส่งผลให้ราคาไฟฟ้าที่ขายให้ผู้ใช้ไฟที่ไม่ใช่ที่พักอาศัยเพิ่มขึ้นจาก 4.72 บาท/ยูนิต เป็น 5.69 บาท/ยูนิต มีผลวันที่ 1 ม.ค.-30 เม.ย. 2023 เราคาดค่า Ft จะทรงตัวในปีหน้า แม้ว่าต้นทุนก๊าซจะลดลงเพื่อชดเชยผลขาดทุนที่เกิดขึ้นในปีนี้

 

เป็นปัจจัยบวก

ROJNA มีสัดส่วนยอดขายไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ภาคอุตสาหกรรม (IU) สูงที่สุด เทียบกับบริษัทพัฒนานิคมฯ อื่นๆ ROJNA จึงได้รับผลกระทบจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นเร็วกว่า จากการปรับขึ้นราคาขายไฟฟ้าซึ่งควบคุมโดยกกพ. ยอดขายไฟฟ้าให้ IU ของ ROJNA คิดเป็น 43% ของยอดขายรวม ในขณะที่ AMATA, WHA และ WHAUP คิดเป็นเพียง 20-25% ของรายได้ SPP

 

 

ปรับประมาณการกำไร

เราปรับประมาณการกำไรธุรกิจหลักปี FY23F ขึ้น 49% เป็น 452 ล้านบาท และปี FY24F ขึ้น 33% เป็น 401 ล้านบาท แต่คงประมาณการกำไรปี FY22F เราคาดรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าในปี FY23F และ FY24F จะเติบโตปีละ 13% และอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้น 2.2% เป็น 5.0% และ 1.5% เป็น 5.5% ตามลำดับ

 

หนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด จากการส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตรถ EV

นักลงทุนจากซาอุฯ หลายรายที่เซ็น MOU กับกระทรวงพลังงานเพื่อลงทุนธุรกิจผลิต รถ EV และแบตเตอรี่ EV ในไทย รัฐบาลได้เชิญ Tesla มาผลิตรถ EV ในไทยและธุรกิจที่เกี่ยวข้องด้วย นอกจากนี้ Hyundai ยังแสดงความสนใจที่จะผลิตรถ EV ในไทยด้วย คณะกรรมการ EV จะสรุปสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ลงทุนผลิตแบตเตอรี่ EV ในไทยภายในเดือนม.ค. 2023 ซึ่งประเด็นต่าง ๆ ข้างต้นจะช่วยส่งเสริมยอดขายที่ดินในไทย

 

ปรับขึ้นคำแนะนำเป็น “ซื้อ” (จาก “ถือ”), ราคาเป้าหาย 7 บาท

เราปรับราคาเป้าหมายขึ้น 9% เป็น 7 บาท ผลตอบแทนรวมน่าสนใจที่ 18% เราคาดกำไรของ ROJNA จะสูงขึ้น qoq ใน 4Q สนับสนุนจากกำไรไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และโอนที่ดิน 360 ไร่ (จาก 6 ไร่ใน 3Q) เราคาดยอดขายที่ดินปีนี้ 840 ไร่ สูงที่สุดตั้งแต่ปี 2013