คลังชง ครม.สัปดาห์หน้าต่ออายุลดภาษีน้ำมันดีเซลอีกลิตรละ 3 - 5 บาท

คลังชง ครม.สัปดาห์หน้าต่ออายุลดภาษีน้ำมันดีเซลอีกลิตรละ 3 - 5 บาท

คลังชง ครม.สัปดาห์หน้าต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 3 - 5 บาท เป็นเวลา 2-3 เดือน เพื่อบรรเทาค่าครองชีพแก่ประชาชน คาดสูญรายได้ 2 หมื่นล้านบาท

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 15 พ.ย.นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลออกไปอีก เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชน และภาระของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หลังมาตรการเดิมจะสิ้นสุดลงในวันที่ 20 พ.ย.นี้ โดยเบื้องต้นคาดว่า จะมีการลดภาษีอีกลิตรละ 3-5 บาท เป็นเวลา 2-3 เดือน เริ่มตั้งแต่ 21 พ.ย. ไปถึงต้นปีหน้า ซึ่งจะทำให้กระทรวงการคลัง สูญเสียรายได้การจัดเก็บงบประมาณอีกประมาณ 2 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม การขยายเวลาปรับลดภาษีดีเซลครั้งนี้ จะมีปัจจัยต้องพิจารณาว่า จะปรับลดลงเท่าไร โดยจะปรับลดเหมือนกับครั้งแรกคือ ลิตรละ 3 บาท เป็นเวลา 3 เดือน หรือจะลิตรละ 5 บาท เป็นเวลา 2 เดือน  เนื่องจาก ขณะนี้สถานการณ์ราคาพลังงานได้เริ่มผ่อนคลายลง หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกได้ปรับลดลงมากเหลือไม่ถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าฐานราคาเป้าหมาย 100 ดอลลาร์สหรัฐ ที่กระทรวงการคลังตั้งใจจะเข้าไปช่วยพยุง

อย่างไรก็ตาม ปัญหาขณะนี้คือ ราคาน้ำมันดีเซลที่ไทยใช้ อ้างอิงจากประเทศสิงคโปร์ ยังทรงตัวในระดับสูงเกินบาร์เรลละ 130 ดอลลาร์สหรัฐ จึงต้องดูว่ารัฐบาลจะมีการพิจารณาอย่างไร ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมสูงสุด

นอกจากนี้ ขณะนี้ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีทางเลือกในการบริหารสภาพคล่องได้มากขึ้น หลัง ครม.ได้อนุมัติให้กระทรวงการคลัง เข้าไปค้ำประกันในการกู้ยืมเงินแก่กองทุนน้ำมันถึง 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้กองทุน สามารถกู้เงินกับสถาบันการเงินต่างๆ ให้เข้ามาช่วยเสริมสภาพคล่องดูแลประชาชนได้ แต่ขณะนี้ กระบวนการกู้เงินยังต้องใช้เวลา จึงจำเป็นต้องใช้แนวทางการปรับลดภาษีไปก่อน

รายงานข่าวกล่าวด้วยว่า เนื่องจากการปรับลดภาษีระยะเวลานานจะไม่เป็นผลดีต่อฐานะการคลังของประเทศ โดยเฉพาะการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในช่วงที่ผ่านมา ต้องติดลบไปจำนวนมาก เห็นได้ยอดจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2565  กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บภาษีรวมทั้งปีได้ 5.31 แสนล้านบาท น้อยกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 9.3 หมื่นล้านบาท หรือ 15% ซึ่งส่วนสำคัญมาจากการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นการชั่วคราวจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ หาก ครม.เห็นชอบให้ขยายเวลาลดดีเซลเป็นครั้งที่ 5 จะทำให้กรมสรรพสามิตสูญเสียรายได้ไปเกือบแสนล้านบาท  หลังจากก่อนหน้านี้ลดไปแล้ว 4 ครั้ง  เป็นเงินกว่า 7.8 หมื่นล้านบาท ได้แก่ ครั้งแรก วันที่ 18 ก.พ. - 20 พ.ค.65 ลดภาษีลิตร 3 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รัฐสูญรายได้ 1.8 หมื่นล้านบาท ครั้งที่ 2 ช่วงวันที่ 21 พ.ค.- 20 ก.ค. เป็นเวลา 2 เดือน ครั้งนี้ลดภาษีดีเซลลิตรละ 5 บาท รัฐสูญรายได้ 2 หมื่นล้านบาท ครั้งที่ 3 ช่วงวันที่ 21 ก.ค.- 20 ก.ย. เป็นเวลา 2 เดือน ลดภาษีลิตรละ 5 บาท รัฐสูญรายได้ 2 หมื่นล้านบาท ครั้งที่ 4 ช่วงวันที่ 21 ก.ย.- 20 พ.ย. เป็นเวลา 2 เดือน ลดภาษีลิตรละ 5 บาท รัฐสูญรายได้ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งการลดภาษีดีเซลทุก 1 บาท จะทำให้สูญเสียรายได้ประมาณ 2 พันล้านบาทต่อเดือน  

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์