ปรับขึ้น ซื้อเก็งกำไร GPSC LH SAWAD (11 พ.ย. 65)

ปรับขึ้น ซื้อเก็งกำไร GPSC LH SAWAD (11 พ.ย. 65)

คาดดัชนีฯ ปรับขึ้น แนวต้าน 1,630/1,649 จุด แนวรับ 1,612 (EMA 200 วัน)/1,607 (EMA 50 วัน) จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร GPSC LH SAWAD ทางเทคนิค ดัชนีฯ มีแนวโน้มฟื้นตัว หลังจากลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1,612 จุด

ซึ่งถือเป็นการชะลอความร้อนแรงของดัชนีฯ ซึ่งเริ่มเข้าใกล้โซน Overbought โดยจะมีสัญญาณซื้อเพิ่ม หากดัชนีฯ ปิดเหนือ 1,630 จุด และมีเป้าหมายที่ 1,649 จุด ส่วนโมเมนตัมลงทุนวันนี้เป็น Positive หลังสหรัฐฯ รายงาน เงินเฟ้อเดือน ต.ค. ที่ 7.7% YoY ต่ำกว่าที่ Consensus คาดการณ์ที่ 7.9% YoY รวมถึงพรรครีพับลิกันมีแนวโน้มได้รับชัยชนะในสภาล่าง ไฮไลท์วันนี้ คือ 3Q22E Earnings Results: Thailand: BEC BEM BGRIM CKP CBG CPALL GULF ONEE WHA; US: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ เนื่องจาก Veterans Day, Michigan Consumer Sentiment เดือน พ.ย. คาด 60 (Vs เดือน ต.ค. 59.9); UK: 3Q22E GDP Growth คาด -0.1% QoQ +2.3% YoY (Vs 2Q22 GDP +0.2% QoQ +4.4% YoY)

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ CRC AWC CK TCAP BH BEM AOT EA KKP CPN MINT KTB TTB BDMS (ซื้อ BBL)

+ Daily Recommendations: GPSC LH SAWAD (หุ้นกลุ่ม Big Cap ซึ่งได้ประโยชน์จาก Bond Yields ที่ปรับตัวลดลง และ Fund Flows ไหลเข้าหลังจากที่ค่าเงินดอลลำร์สหรัฐฯ อ่อนตัวอย่างต่อเนื่อง)

- MSCI Rebalance: ปรับ BAM ออก 1 หลักทรัพย์

+ World Cup 2022: รัฐบาลเตรียมอนุมัติการเป็นเจ้าภาพถ่ายทอดสดที่กาตาร์ระหว่างวันที่ 21 พ.ย.-18 ธ.ค. (+กลุ่มพาณิชย์ อาหาร บันเทิง: BEC RS CPALL MAKRO)

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังน้าท่วม: GLOBAL HMPRO DOHOME

+ หุ้นได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น: CENTEL ERW AOT BAFS AAV SPA

 

ปัจจัยบวก

+ US: รายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ต.ค. ขยายตัว +7.7% YoY ลดลงจาก 8.2% YoY ในเดือน ก.ย. และต่ำกว่า Consensus คาดที่ 7.9% YoY ส่งผลบวกแรงต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากความกังวลต่อการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟดปรับลดลง โดย Fed Watch Tools ล่าสุด บ่งชี้ว่า นักลงทุน 80.6% คาดเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเหลือเพียง 50bps ในการประชุมเดือน ธ.ค.

 

 

+ US Midterm Elections: ผลเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ พบว่าพรรครีพับลิกันได้ครองเสียงข้างมากในสภาล่าง อิง NBC News โดยพรรครีพับลิกันจะได้ 221 ที่นั่ง (เกินกึ่งหนึ่งที่ 218 ที่นั่ง) และพรรคเดโมแครตได้ 214 ที่นั่ง แต่ยังมีโอกาสพลิกผัน 7 ที่นั่ง ส่วนผลเลือกตั้งวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯ อาจต้องลุ้นไปจนถึงวันที่ 6 ธ.ค. โดยพรรครีพับลิกันนำอยู่ 49 ที่นั่ง และพรรคเดโมแครต 48 ที่นั่ง โดยรอลุ้น 3 รัฐ ได้แก่ Nevada (นับแล้ว 84% พรรครีพับลิกัน นำ), Arizona (นับแล้ว 76% พรรค เดโมแครต นำ) ส่วนรัฐ Georgia ต้องมีการเลือกตั้งใหม่วันที่ 6 ธ.ค. โดยสถิติ 2 ครั้งล่าสุดพบว่า พรรคเดโมแครตได้รับชัยชนะในการแข่งขันรอบตัดสิน

 

ปัจจัยลบ

- MSCI Rebalance: ประกาศเช้านี้ และมีผลต่อราคาปิดวันที่ 30 พ.ย. โดยดัชนี Global Standard Indexes มี 83 หุ้นถูกเพิ่ม และ 78 หุ้นถูกถอด ส่วนดัชนี Global Small Cap Indexes มี 291 หุ้นถูกเพิ่ม และ 331 หุ้นถูกถอด สำหรับ MSCI Thailand พบว่ำ BAM ถูกถอดออกจากการคำนวณในดัชนี Global Standard Index (แต่ไม่มีเพิ่ม TLI ตามที่ตลาดคาด)

 

ประเด็นสำคัญ

- 3Q22E Earnings Results: BEC BEM BGRIM CKP CBG CPALL GULF ONEE WHA

- Opportunity Day: ADB BTG SUN ICHI OSP SAK DOHOME

- MSCI Rebalance: ประกาศเช้านี้ พบว่า BAM ถูกถอดออกจากการคำนวณ MSCI GLOBAL STANDARD INDEXES

- China: 11-11 วันช้อปปิ้งจีน (วันคนโสด)

- US: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ เนื่องจำก Veterans Day, Michigan Consumer Sentiment เดือน พ.ย. คาด 60 (Vs เดือน ต.ค. 59.9)

- UK: 3Q22E GDP Growth คาด -0.1% QoQ +2.3% YoY (Vs 2Q22 GDP +0.2% QoQ +4.4% YoY)

 

 

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยร่วงต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นไทยทำจุดต่ำสุดในช่วงเปิดตลาดที่ 1,611.17 จุด -11.28 จุด ก่อนปรับตัวสูงขึ้นตลอดช่วงที่เหลือของการซื้อขาย และมาปิดตลาดที่ 1,619.23 จุด -3.22 จุด วอลุ่มซื้อขาย 5.9 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค -1.07% เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร -0.96% ประกันภัยและประกันชีวิต -0.86% พาณิชย์ -0.64% หุ้นบวก >4% BH BCH SPALI TKN AQUA SINGER ICHI NFC หุ้นลบ >4% MORE BJC PSG SABUY WFX TVI TRUBB JTS

+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดบวก: DJIA +3.70% S&P500 +5.54% NASDAQ +7.35% ราคาหุ้นทุกกลุ่มพุ่งขึ้นแรง นำโดยหุ้นกลุ่มเทคฯ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นหุ้นที่เคยถูกกระทบอย่างหนัก จากการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย ขานรับรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ต.ค. ลดลงเร็วกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดชะลอการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดบวกสูงสุดรอบ 11 สัปดาห์ CAC40 +1.96% DAX +3.51% FTSE +1.08% เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ได้สนับสนุนความหวังว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลง

+ ราคาน้ำมันดิบและทองกลับมาปิดบวก: WTI +64 เซนต์ ปิดที่ USD84.67/บาร์เรล Brent +USD1.02 ปิดที่ USD93.67/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่วนทองคำ +USD40 ปิดที่ USD1,753.70/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของสกุล เงินดอลลาร์สหรัฐฯ และ US Bond Yields

 

ประเด็นสำคัญ

+ US: กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือน ต.ค. ในวันนี้ โดยตัวเลข CPI ดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว โดยดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานปรับตัวขึ้น 7.7% ในเดือน ต.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.9% และชะลอตัวจากระดับ 8.2% ในเดือน ก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือน ต.ค. ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.6% จากระดับ 0.4% ในเดือน ก.ย.

+ US: ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 225,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 220,000 ราย ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลงสู่ระดับ 218,750 ราย ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.493 ล้านราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.475 ล้านราย

+ Thailand: ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค. อยู่ที่ ระดับ 46.1 จากเดือน ก.ย. 2022 อยู่ที่ระดับ 44.6 โดยดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และสูงสุดในรอบ 10 เดือน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวมอยู่ที่ 40.0 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 43.6 และ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 54.8

+/- Japan: ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า BOJ ไม่ต้องการที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในตอนนี้ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่ยังคงอยู่ในระหว่างการฟื้นตัวจากผลกระทบของ COVID-19

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BCPG BEM KCE WHA

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: GPSC LH SAWAD

Derivatives: แนะปิด Short S50Z22 ออกไปก่อน