SVI ราคาหุ้นน่าจะสะท้อนแนวโน้มบวกไปเรียบร้อยแล้ว

SVI ราคาหุ้นน่าจะสะท้อนแนวโน้มบวกไปเรียบร้อยแล้ว

คาดว่ายอดขายจะสูงเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่สี่ เนื่องจากอุปสงค์มีแนวโน้มแข็งแกร่งในอีก 12-18 เดือนข้างหน้า บริษัทจึงคาดว่ายอดขายจะทำสถิติสูงสุดใหม่ (ประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ฯ) ในไตรมาสที่สี่

ซึ่งหมายความว่ายอดขายในปี 2565 จะอยู่ที่ประมาณ 750 ล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานในปัจจุบันของเรา และเป็นไปตามเป้าของบริษัท ถึงแม้บริษัทจะคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน 4Q65 จะอยู่ที่ประมาณ 8.5% แต่เราเชื่อว่าน่าจะอยู่ระดับใกล้ ๆ กับ 9.9% ใน 3Q65 เพราะเงินบาทอ่อนค่าลง ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย QTD อยู่ที่ 37.8 บาท/ดอลลาร์ฯ จาก 33.1 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 4Q64 และ 36.3 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 3Q65

 

คาดว่าแนวโน้มปีหน้าจะแข็งแกร่ง

บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 2566 ที่ 850 ล้านดอลลาร์ฯ (+15% YoY) เนื่องจาก i) คาดว่าอุปสงค์จะแข็งแกร่งในอีก 12-18 เดือนข้างหน้า (อุปสงค์จากลูกค้าเดิมเพิ่มขึ้นปีละ 10-15% และยังมีลูกค้าใหม่จากจีนซึ่งเป็นผลมาจากกรณีพิพาทระหว่างจีนและสหรัฐ รวมถึงการเข้าซื้อ Tohoku) ii) ความพร้อมในการขยายกำลังการผลิต และ iii) สถานการณ์ขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทมี backlog อยู่ประมาณ 600-700 ล้านดอลลาร์ฯ ในอีก 12-18 เดือนข้างหน้า ในขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นปี 2566 เอาไว้ในช่วง 8.5% - 9.0% ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจาก synergy กับ Tohoku solution

 

 

 

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565-2567 ขึ้นอีก 24%, 18% และ 17% ตามลำดับ

ถึงแม้ว่าบริษัทจะตั้งเป้ายอดขายปี 2566 ที่ 850 ล้านดอลลาร์ฯ แต่เรายังคงสมมติฐานยอดขายปีหน้าที่ 748 ล้านดอลลาร์ฯ เนื่องจากเรายังเป็นห่วงภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในยุโรป ทั้งนี้ ยอดขายในยุโรปคิดเป็นสัดส่วนถึงประมาณ 70% ของรายได้รวม และยอดขายของ SVI ลดลงถึง 11% YoY ในช่วงที่เกิดวิกฤติหนี้ EU นอกจากนี้ เรายังปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 2565-2566 ประมาณ 20bps เพื่อสะท้อน synergy จากการเข้าซื้อ Tohoku solution และปรับลดค่าใช้จ่าย SG&A ลงเพื่อสะท้อนถึงการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปี 2565-2567 ขึ้นอีก 24%, 18% และ 17% ตามลำดับ

 

Valuation & action

เราปรับราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 จาก 7.20 บาท เป็น 8.50 บาท อิงจาก PER ที่ 13.0x (เท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีตของ Hana Microelectronics (HANA.BK/HANA TB)* -0.5 S.D.) และยังคงคำแนะนำ “ถือ”

 

Risks

ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2565-66 ที่ 34.50 บาท/ดอลลาร์ฯ) และความล่าช้าในกระบวนการทดสอบสินค้า