DTAC เผยไตรมาส 3/65 ‘กำไรสุทธิ’ ลดลงเหลือ 487.96 ล้าน

DTAC เผยไตรมาส 3/65 ‘กำไรสุทธิ’ ลดลงเหลือ 487.96 ล้าน

“โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น” เผยกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 65 ลดลง 41.4% เหลือ 487.96 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากผลกระทบเชิงลบจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ ส่วนเงินลงทุนอยู่ที่ 1.1-1.3 หมื่นล้าน

บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC แจ้งผลประกอบการ งวดไตรมาส 3 ปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 487.96 ล้านบาท ลดลง 41.4% เทียบกับไตรมาส 3 ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 832.02 ล้านบาท เป็นผลมาจากผลกระทบเชิงลบจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการในไตรมาส 3 ปี 65 และผลประโยชน์จากต้นทุนค่าธรรมเนียมในไตรมาส 3 ปี 64

ขณะที่ กำไรสุทธิ ลดลง 51.4% จากไตรมาสก่อน เป็นผลมาจากผลกระทบเชิงบวกจากการปรับปรุงรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในไตรมาส 2 ปี 65 และค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่สูงขึ้นในไตรมาส 3 ปี 65 ซึ่งถูกชดเชยบางส่วนด้วยค่าสินไหมทดแทนระหว่างกาลประมาณ 170 ล้านบาทจากการเคลมเงินประกัน

สำหรับไตรมาส 3 ปี 65 เศรษฐกิจระดับมหภาคของประเทศไทยยังคงฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ จากปัจจัยภายนอก ทั้งนี้ ประเทศไทยเห็นการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวและแรงงานต่างด้าวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการยกเลิกมาตรการทางด้านการเดินทางระหว่างประเทศตั้งแต่เดือนมิ.ย.

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเผชิญกับความท้าทายจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนสินค้าและบริการเพิ่มสูงขึ้นและทำให้ความสามารถในการใช้จ่ายของลูกค้าลดลง รวมทั้งการแข่งขันในธุรกิจโทรคมนาคมในไตรมาสนี้ยังคงมีความเข้มข้น แม้มีความท้าทายจากปัจจัยภายนอก ซึ่งดีแทคยังคงยึดมั่นให้ความสำคัญและเดินหน้าตามกลยุทธ์ของบริษัท และส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องจากการที่ดีแทคบรรลุเป้าหมายในการขยายเครือข่าย 5G ให้ครอบคลุมทั้งหมด 77 จังหวัดภายในครึ่งปีแรก

รวมทั้งบริษัทยังคงมุ่งเน้นการ เร่งขยายเครือข่าย 5G อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของลูกค้า โดยมีการติดตั้งสถานีฐานบนเครือข่าย 5G เพิ่มขึ้นประมาณ 600 สถานีฐานในไตรมาสนี้ และมีการติดตั้งสถานีฐานบนคลื่นย่านความถี่ตาเพิ่มขึ้นประมาณ 1,000สถานีฐาน ทำให้มีสถานีฐานบนเครือข่าย 700 MHz ที่ได้รับการติดตั้งแล้วจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 18,800 สถานีฐาน ซึ่งผลจากการเพิ่มประสบการณ์การใช้งานและความครอบคลุมของเครือข่ายทำให้คะแนนความพึงพอใจที่มีต่อเครือข่ายสุทธิของดีแทคมีการปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน รวมทั้งมีการร้องเรียนเกี่ยวกับเครือข่ายที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

            สำหรับ แนวโน้มปี 2565 บริษัทยังคงแนวโน้มตามที่ได้เคยแจ้งไว้ ดังนี้ มีรายได้จากการให้บริการไม่รวม IC คงที่จนถึงลดลงในอัตราร้อยละที่เป็นเลขหลักเดียวในระดับต่ำ ส่วน EBITDA คงที่จนถึงเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละที่เป็นเลขหลักเดียวในระดับต่ำ (ไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ) และจำนวนเงินลงทุนอยู่ที่11,000 13,000 ล้านบาท