เริ่มต้นประกาศงบบริษัทไตรมาส 3 ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด เป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น

แม้ตลาดอาจจะยังถูกกดดันด้วยปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามการประกาศงบในไตรมาส 3/2022 ของบริษัทจดทะเบียนใน S&P 500 ซึ่งกำลังทยอยประกาศผลการดำเนินงานในขณะนี้ โดยผลสำรวจจาก Factset ได้คาดการณ์ว่า กำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตได้อยู่ที่ 1.6% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดตั้งแต่ไตรมาส 3/2020 แม้อัตราการเติบโตของกำไรจะไม่สูง อย่างไรก็ตาม หากดูข้อมูลในอดีตในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าหากบริษัทยังมีการประกาศผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าคาด ตลาดมักจะตอบรับในด้านบวกและเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นได้ ซึ่งจากข้อมูล Factset ณ วันที่ 14 ต.ค. มีบริษัทราว 7% ใน S&P 500 ได้ประกาศผลการดำเนินงานออกมา โดยมีบริษัทรายงานกำไรและรายได้ดีกว่าคาดถึง 69% และ 67% ตามลำดับ

สำหรับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีหลายบริษัทที่สำคัญ อย่าง Tesla, Netflix, ASML, Johnson & Johnson และ Procter & Gamble รายงานงบในไตรมาส 3/22 ออกมาซึ่งภาพรวมถือว่ามีการรายงานกำไรที่ดีกว่าคาด โดยมีรายละเอียดดังนี้

ตัวอย่างบริษัทประกาศกำไรไตรมาส 3 ดีกว่าคาด

• Netflix

Netflix ประกาศผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าที่คาด โดยมีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $3.10 เหรียญ ดีกว่าคาดที่ $2.13 เหรียญ ขณะที่รายงานรายได้อยู่ $7.93 billion ดีกว่าคาดที่ $7.83 billion ด้านจำนวนสมาชิกยังมีการปรับเพิ่มขึ้นถึง 2.41 ล้านราย ดีกว่าคาดที่ 1.09 ล้านราย โดยสมาชิกที่เพิ่มขึ้นนี้ส่วนใหญ่มาจากกลุ่ม Asia Pacific ที่มีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นถึง 1.43 ล้านราย ขณะที่สมาชิกในสหรัฐฯ และแคนาดามีจำนวนสมาชิกปรับเพิ่มขึ้นที่ 100,000 รายเท่านั้น

• Tesla

Tesla ประกาศผลการดำเนินงาน กำไรออกมาดีกว่าคาด โดยมีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $1.05 มากกว่าที่ตลาดคาด 99 cents ขณะที่รายได้อยู่ที่ $21.45 billion ต่ำกว่าตลาดคาดที่ $21.96 billion โดยบริษัทมีรายได้จากธุรกิจ รถยนต์ไฟฟ้า อยู่ที่ $18.69 billion เพิ่มขึ้น 55% จากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทเชื่อว่าธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าจะยังสามารถเติบโตได้ดีในระยะยาว

• ASML

ASML บริษัท Semiconductor ประกาศผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าคาด โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ €1.70 billion มากกว่าที่ตลาดคาดที่ €1.42 billion ลดลงราว 2% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ด้านรายได้อยู่ที่ €5.77 billion มากกว่าที่ตลาดคาดที่ €5.41 billion เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน โดยผู้บริหารระบุความต้องการสินค้าของบริษัทยังคงแข็งแกร่งขณะที่ผลกระทบที่สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกสินค้าไปจีนจำกัด

• Johnson & Johnson

Johnson & Johnson ประกาศผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าตลาดคาด โดยมีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $2.55 ดีกว่าตลาดคาดที่ $2.49 แต่ปรับลดลงจากปีก่อนราว 3% อย่างไรก็ดี บริษัทมีกำไรมากกว่าตลาดคาดเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่ด้านรายได้อยู่ที่ $23.79 billion ดีกว่าที่ตลาดคาด โดยธุรกิจยาที่เป็นธุรกิจหลัก รายได้เติบโต 9%, ธุรกิจ MedTech รายได้เติบโต 8% และธุรกิจ Consumer Health รายได้เติบโต 5%

• Procter & Gamble

Procter & Gamble ประกาศรายได้ผลการดำเนินงานไตรมาสล่าสุดออกมาดีกว่าตลาดคาด โดยมีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $1.57 มากกว่าที่ตลาดคาดที่ $1.54 ขณะที่มีรายได้ $20.61 billion ดีกว่าตลาดคาดที่ $20.28 billion จากการเพิ่มราคาสินค้า อย่างไรก็ตาม บริษัทถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า รวมถึงต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น

บริษัทในสหรัฐฯ ถูกปรับลดประมาณการกำไรลงต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางปี

ที่มา : Bloomberg

นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานกลุ่มธนาคารสหรัฐฯ อาทิ Goldman Sachs, Bank of America, JPMorgan Chase และ Morgan Stanley ก็ได้มีการประกาศผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าตลาดคาดเช่นกัน จะเห็นได้ว่าท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง หลายบริษัทยังก็ยังคงสามารถประกาศผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าคาดได้ ถึงแม้ส่วนหนึ่งมาจากที่นักวิเคราะห์มีการปรับลดประมาณการกำไรลดลงต่อเนื่องระหว่างปี แต่การที่ผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าคาดนี้ ก็ส่งผลทำให้ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก Sentiment เชิงบวก

ที่มา : Bloomberg, CNBC, BARRON’S, Reuters, Factset

ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมา และพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสม และรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยง และเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 -2633-6000 กด 4 0-2080-6000 กด 4 และ tiscoasset หรือแอปพลิเคชัน TISCO My Funds