'MUI Robotics' Deep Tech ไทย ยกระดับ 'จมูก-ลิ้น' ดัน AI ปฏิวัติอุตสาหกรรมเพื่อความยั่งยืน

'MUI Robotics' Deep Tech ไทย ยกระดับ 'จมูก-ลิ้น' ดัน AI ปฏิวัติอุตสาหกรรมเพื่อความยั่งยืน

MUI Robotics บริษัท Deep Tech สัญชาติไทยจากรั้วมหิดล พัฒนา Sensory AI หรือ "AI Nose & AI Tongue" ปัญญาประดิษฐ์ที่เลียนแบบประสาทสัมผัสของมนุษย์ได้อย่างแม่นยำ

KEY

POINTS

  • MUI เป็นบริษัท Deep Tech สัญชาติไทยที่พัฒนาเทคโนโลยี Sensory AI หรือ "จมูกและลิ้น AI" ซึ่งเลียนแบบการรับกลิ่นและรสชาติของมนุษย์เพื่อใช้วิเคราะห์คุณภาพได้อย่างแม่นยำ
  • เทคโนโลยีนี้ถูกนำไปประยุกต์ใช้ในหลายอุตสาหกรรมเพื่อความยั่งยืน เช่น ตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบในห่วงโซ่อาหาร (เช่น เมล็ดกาแฟให้ Nestlé) การแพทย์ (เสื้อดมกลิ่นตรวจหาโรค) และการตรวจสอบคุณภาพอากาศเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม
  • บริษัทกำลังระดมทุน Series A จำนวน 3-10 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อขยายตลาดสู่ระดับโลก พัฒนา "Sensory Foundation Model" และมีเป้าหมายสร้างอุปกรณ์สำหรับผู้บริโภคในอนาคต

MUI Robotics บริษัท Deep Tech สัญชาติไทยจากรั้วมหิดล พัฒนา Sensory AI หรือ "AI Nose & AI Tongue" ปัญญาประดิษฐ์ที่เลียนแบบประสาทสัมผัสของมนุษย์ได้อย่างแม่นยำ พร้อมนำนวัตกรรมสุดล้ำยกระดับมาตรฐานคุณภาพในห่วงโซ่อุปทานอาหาร การแพทย์ และสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่การระดมทุน Series A เพื่อขยายตลาดและสร้างรากฐานเทคโนโลยีระดับโลก

MUI จากงานวิจัยสู่ผู้นำนวัตกรรม Sensory AI ระดับโลก

วันดี วัฒนกฤษฎิ์ CEO บริษัท MUI Robotics (MUI) ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ 'กรุงเทพธุรกิจ' ว่า  MUI Robotics ก่อตั้งขึ้นในปี 2561 โดยมีรากฐานจากการวิจัยเซ็นเซอร์อันยาวนานเกือบ 20 ปี  จากมหาวิทยาลัยมหิดล บริษัทได้นำความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์มาผสานกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสร้าง Sensory AI Technology หรือเทคโนโลยีที่สามารถ "ดมกลิ่น" (AI Nose) และ "ชิมรส" (AI Tongue) ได้เหมือนมนุษย์

นวัตกรรมหลักนี้ใช้เซ็นเซอร์ขั้นสูงหลายชนิด เช่น Metal Oxide และ Polymer Sensor ในการตรวจจับโมเลกุลสารเคมีที่ก่อให้เกิดกลิ่นและรสชาติ จากนั้นจึงใช้ AI สร้างเป็น โมเดลข้อมูลเฉพาะสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม ทำให้สามารถวิเคราะห์คุณภาพและความผิดปกติได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ บริษัทมีความสามารถในการพัฒนาแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิตฮาร์ดแวร์เซ็นเซอร์ การพัฒนาซอฟต์แวร์วิเคราะห์ ไปจนถึงการสร้างรายได้จากข้อมูล (Data Monetization)

การประยุกต์ใช้เพื่อความยั่งยืนและยกระดับคุณภาพชีวิต

เทคโนโลยี Sensory AI ของ MUI ถูกนำไปประยุกต์ใช้ในวงกว้าง โดยมีบทบาทสำคัญในการสร้างความยั่งยืนและการตรวจสอบคุณภาพที่เข้มงวด

ห่วงโซ่อุปทานอาหารและเครื่องดื่ม: MUI ช่วยตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เช่น การใช้เทคโนโลยีในโรงงานของลูกค้าระดับโลกอย่าง Nestlé ที่สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อตรวจสอบคุณภาพของเมล็ดกาแฟที่มาจากทั่วโลก ทำให้มั่นใจในมาตรฐานและความสม่ำเสมอของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการลดของเสียและสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหาร

การแพทย์และสุขภาพเชิงป้องกัน (Wellness): ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นคือ "เสื้อดมกลิ่น" ที่สามารถตรวจจับสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ที่บ่งชี้ถึงโรคต่างๆ เช่น เบาหวานและมะเร็ง จากลมหายใจหรือผิวหนัง ในระยะแรกจะมุ่งเน้นตลาด Wellness สำหรับบุคคลทั่วไปที่มีความเสี่ยง หรือนักกีฬาที่ต้องการตรวจวัดความอ่อนล้า (Fatigue) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจสุขภาพเบื้องต้นได้ง่ายขึ้น

สิ่งแวดล้อม: เทคโนโลยี AI Nose ถูกใช้เป็นแพลตฟอร์มในการ ตรวจวัดและตรวจสอบคุณภาพอากาศ (Air Quality) ช่วยให้ทราบถึงแหล่งกำเนิดและชนิดของมลพิษ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

\'MUI Robotics\' Deep Tech ไทย ยกระดับ \'จมูก-ลิ้น\' ดัน AI ปฏิวัติอุตสาหกรรมเพื่อความยั่งยืน

ขยายตลาดผู้บริโภคและก้าวต่อไปด้วย Sensory Foundation Model

แม้จะประสบความสำเร็จกับลูกค้าระดับองค์กรและอุตสาหกรรม แต่ MUI ยังมีวิสัยทัศน์ที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยมีแนวคิดในการย่อส่วนอุปกรณ์ให้เป็นเซ็นเซอร์พกพาที่สามารถ ตรวจสอบหาสารพิษตกค้างในผัก หรือ ความสดใหม่ของเนื้อสัตว์ ในซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภค

ปัจจุบัน MUI กำลังระดมทุนรอบ Series A โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 3-10 ล้านเหรียญสหรัฐ เงินทุนนี้จะถูกนำไปใช้ 2 ส่วนหลัก คือ

  • ขยายตลาด (Scale & Market Expansion): เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและขยายฐานในตลาดโลก
  • พัฒนาผลิตภัณฑ์ S-Curve ใหม่ : คือการสร้าง "Sensory Foundation Model" เพื่อต่อยอดความสามารถของ AI ในการวิเคราะห์ประสาทสัมผัส ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการเติบโตในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายหลักของบริษัท Deep Tech ที่ต้องพึ่งพาฮาร์ดแวร์คือการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในประเทศไทย เนื่องจากนักลงทุนในประเทศส่วนใหญ่มักมุ่งเน้นที่ Traction และการลงทุนในรอบหลังๆ ทำให้ MUI ต้องจัดตั้ง MUI Globalในสิงคโปร์ เพื่อเปิดรับโอกาสในการระดมทุนจากกองทุนสากล ที่มีความเข้าใจในธุรกิจที่ต้องการการลงทุนสูงในระยะเริ่มต้นเพื่อสร้างนวัตกรรมต่อไป

นอกจากนี้ทาง MUI นั้นได้เข้ารอบการแข่ง Lee Kuan Yew Global Business Plan Competition (LKYGBPC) ที่สิงคโปร์ ได้คัดเลือก 60 สุดยอดสตาร์ทอัพดาวรุ่งจากทั่วโลกเข้ารอบชิงชนะเลิศ อีกด้วย

MUI จึงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ Deep Tech สัญชาติไทย ที่นำเอาความเชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์มาสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน โดยการเป็น "จมูก" และ "ลิ้น" เทียมที่คอยเฝ้าระวังคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมให้กับคนได้ทั้งโลก

\'MUI Robotics\' Deep Tech ไทย ยกระดับ \'จมูก-ลิ้น\' ดัน AI ปฏิวัติอุตสาหกรรมเพื่อความยั่งยืน