'สตาร์ทอัพดาวรุ่งโลก' ตบเท้าเข้าชิง LKYGBPC สิงคโปร์ โชว์โซลูชันเมืองยั่งยืน

มหาวิทยาลัยการจัดการแห่งสิงคโปร์ (SMU) ประกาศรายชื่อ 60 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศของการแข่งขัน Lee Kuan Yew Global Business Plan Competition ครั้งที่ 12
KEY
POINTS
- การแข่งขัน Lee Kuan Yew Global Business Plan Competition (LKYGBPC) ที่สิงคโปร์ ได้คัดเลือก 60 สุดยอดสตาร์ทอัพดาวรุ่งจากทั่วโลกเข้ารอบชิงชนะเลิศ จากผู้สมัครกว่า 1,500 ทีมใน 91 ประเทศ
- นวัตกรรมของทีมที่เข้ารอบ
มหาวิทยาลัยการจัดการแห่งสิงคโปร์ (SMU) ประกาศรายชื่อ 60 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศของการแข่งขัน Lee Kuan Yew Global Business Plan Competition (LKYGBPC) ครั้งที่ 12 ซึ่งนับเป็นหมุดหมายสำคัญที่เกิดขึ้นพร้อมกับการที่สิงคโปร์ฉลองครบรอบ 60 ปีของการเป็นอิสระ การแข่งขันที่จัดขึ้นทุกสองปีนี้ ถือเป็นหนึ่งในการแข่งขันสตาร์ทอัพระดับมหาวิทยาลัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย และในปีนี้ได้สร้างสถิติใหม่ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ความมุ่งมั่นสู่โลกที่ยั่งยืน
จุดเด่นของการแข่งขัน LKYGBPC ในปีนี้คือการให้ความสำคัญกับสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมด้าน
Urban Solutions and Sustainability หรือโซลูชันเพื่อเมืองและความยั่งยืน ที่สามารถแก้ไขปัญหาความท้าทายระดับโลกได้อย่างแท้จริง โดยผลงานที่ผ่านเข้ารอบล้วนเป็นนวัตกรรมที่น่าจับตามองและสามารถทลายขีดจำกัดเดิมๆ ได้ ตัวอย่างเช่น:
- ยางรถยนต์ประสิทธิภาพสูงแบบไม่ใช้ลม ที่พัฒนาจากเทคโนโลยีของ NASA
- ทรานซิสเตอร์ที่ช่วยลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูลได้ถึง 30%
- พลาสติกชีวภาพที่มีความแข็งแกร่งจนเทียบเคียงได้กับพลาสติกที่ทำจากปิโตรเลียม
- เทคโนโลยีการผลิตไฮโดรเจนแบบออนดีมานด์ในทะเล
- คอนกรีตที่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้
เชอร์ลี่ย์ หว่อง ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาการแข่งขัน LKYGBPC ครั้งที่ 12 และ Entrepreneur-in-Residence ที่ SMU IIE เปิดเผยว่าการแข่งขันในปีนี้มีผู้สมัครมากถึง 1,500 กว่าทีม จากมหาวิทยาลัยมากกว่า 1,200 แห่งใน 91 ประเทศ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 57% จากการแข่งขันครั้งก่อน จำนวนที่เพิ่มขึ้นนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจากสตาร์ทอัพทั่วโลก ในการใช้สิงคโปร์เป็นประตูทางธุรกิจและเทคโนโลยีสู่ตลาดเอเชีย
เทคโนโลยี AI ยกระดับการคัดเลือกสตาร์ทอัพ
เพื่อเสริมประสิทธิภาพและความเป็นกลางในการประเมินผลสตาร์ทอัพ LKYGBPC ได้นำนวัตกรรมใหม่เข้ามาใช้ในปีนี้ นั่นคือ
DueAI™ Challenge ซึ่งเป็นโครงการที่ใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อปรับปรุงกระบวนการคัดกรองสตาร์ทอัพให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมยิ่งขึ้น การประเมินด้วย AI นี้ดำเนินไปพร้อมกับการประเมินของกรรมการผู้เชี่ยวชาญกว่า 220 คนจาก 46 ประเทศ ก่อนจะนำผลมาเปรียบเทียบกันเพื่อคัดเลือกทีมที่เข้ารอบ ดร. Sze Tiam Lin ที่ปรึกษาอาวุโสด้านการออกใบอนุญาตของ SMU IIE กล่าวว่า DueAI™ Challenge แสดงให้เห็นว่า AI สามารถพลิกโฉมการประเมินผู้ประกอบการได้อย่างไร โดยเพิ่มความสามารถในการขยายขนาดและความเที่ยงตรง ในขณะเดียวกันก็เสริมพลังการตัดสินใจของมนุษย์
กิจกรรมเชื่อมโยงโอกาสในสัปดาห์รอบชิงชนะเลิศ
ระหว่างสัปดาห์แกรนด์ไฟนอล ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 ก.ย. ถึง 2 ต.ค. 2568 ที่วิทยาเขตของ SMU สตาร์ทอัพ 60 ทีมสุดท้ายจะได้เข้าร่วมกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อเชื่อมต่อกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคนสำคัญ
- การประชุมโต๊ะกลมแบบปิด: สตาร์ทอัพจะได้พบกับตระกูลธุรกิจที่มีอิทธิพลในภูมิภาค เพื่อรับคำแนะนำและโอกาสในการลงทุน
- Talent Exchange: เป็นกิจกรรมใหม่ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาในสิงคโปร์ได้นำเสนอความสามารถของตนเองให้กับทีมสตาร์ทอัพที่เข้ารอบ เพื่อสร้างโอกาสในการร่วมงานกับทีมจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น มหาวิทยาลัยโตเกียว, ETH Zurich, มหาวิทยาลัยชิงหวา และมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
- Blaze Mixer Night: เป็นงานเปิดที่เชิญชวนคนรุ่นใหม่ของสิงคโปร์ให้มาสร้างเครือข่ายและรับแรงบันดาลใจจากผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพทั้ง 60 ทีม
- การแข่งขันครั้งนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น Agency for Science, Technology and Research (A∗STAR) ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และยังมีรางวัลพิเศษต่างๆ เช่น Zhang Fan Global AI Initiative Award สำหรับสตาร์ทอัพด้าน AI รวมถึงรางวัลจากบริษัทร่วมลงทุนชั้นนำอย่าง และAntler, TRIREC และ Wavemaker Partners ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนผู้ประกอบการเพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนและยืดหยุ่นมากขึ้น
โครงการที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และครอบคลุมเช่นนี้ ไม่เพียงแต่เป็นเวทีให้นวัตกรรมและสตาร์ทอัพดาวรุ่งได้แสดงศักยภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าสิงคโปร์กำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรมของเอเชีย การแข่งขัน LKYGBPC ครั้งที่ 12 นี้จึงเป็นมากกว่าการประกวด แต่คือการสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งและยั่งยืนสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่จะร่วมกันสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าให้กับโลกใบนี้ต่อไป







