'บรรจุภัณฑ์' ใช้แล้วมีมูลค่า แค่แยกขยะก็กลายเป็นเงิน

ด้วยความเชื่อว่าบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วไม่ใช่ขยะ แต่คือวัตถุดิบที่มีมูลค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งขวดพลาสติก PET ใส ไม่มีสี ซึ่งสามารถนำกลับมารีไซเคิลและผลิตเป็นขวดใหม่ได้อย่างปลอดภัย
KEY
POINTS
- โครงการ ‘ข.ขวด หมุนเวียน เป็นขวดใหม่’ ไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะในพื้นที่ แต่ยังสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน ผ่านการปลูกฝังแนวคิดว่าขยะมีมูลค่า
- ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด เปิด “สถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล ในพื้นที่ต. มาบยางพร จ.ระยอง เพื่อผลักดันให้เกิดการจัดการขยะรีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
- พัฒนาสถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล สู่การเป็นวิสาหกิจชุมชน สามารถขายขยะโดยตรงให้กับโรงงานรีไซเคิลขนาดใหญ่ได้ในราคาที่ดีกว่า พร้อมทั้งสามารถยกระดับรายได้ของคนในพื้นที่ไปพร้อมกัน
ด้วยความเชื่อว่าบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วไม่ใช่ขยะ แต่คือวัตถุดิบที่มีมูลค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งขวดพลาสติก PET ใส ไม่มีสี ซึ่งสามารถนำกลับมารีไซเคิลและผลิตเป็นขวดใหม่ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ที่เรียกว่า ‘Bottle-to-Bottle Recycling’ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด จึงเปิด “สถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล ในพื้นที่ต. มาบยางพร จ.ระยอง เพื่อผลักดันให้เกิดการจัดการขยะรีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ปี 2566 ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ใช้ขวดจากพลาสติกรีไซเคิล 100% (ขวด rPET 100%) โดยเป็นรายแรกในตลาดเครื่องดื่ม ผ่านโครงการ ‘ข.ขวด หมุนเวียน เป็นขวดใหม่’การเปิด ‘สถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล’ ในครั้งนี้เป็นการเพื่อส่งเสริมการจัดการบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วและขยะรีไซเคิลอื่น ๆ อย่างยั่งยืน สร้างรายได้หมุนเวียนให้คนในพื้นที่ไปพร้อมกัน เป็น‘การให้ความสำคัญกับผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
'Longevity' สุขภาพยั่งยืนมีคุณภาพ ความมั่นคงแบบใหม่ของทุกวัย
‘ข.ขวด หมุนเวียน เป็นขวดใหม่’ ปี 2566
“วิภาวรรณ ทัศนปรีชาชัย” รองประธานบริหารฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าโครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะในพื้นที่ แต่ยังสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน ผ่านการปลูกฝังแนวคิดว่าขยะมีมูลค่า และการคัดแยกที่ถูกต้องจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงลดภาระการจัดการขยะของภาครัฐได้อีกด้วย จึงได้เริ่มดำเนินโครงการ ‘ข.ขวด หมุนเวียน เป็นขวดใหม่’ ตั้งแต่ปี 2566
"ปีนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนด้านการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน โดยเลือกต.มาบยางพร จ.ระยอง เป็นพื้นที่นำร่อง เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้โรงงานผลิตเครื่องดื่มของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค และเป็นพื้นที่ที่มีองค์ประกอบครบถ้วนในห่วงโซ่บรรจุภัณฑ์ ตั้งแต่ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ผู้บริโภค ผู้คัดแยก ไปจนถึงโรงงานรีไซเคิล จึงร่วมมือกับ อบต.มาบยางพร จัดตั้ง ‘สถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล”
ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลมาบยางพร "อภิชาติ เงินท้วม" ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่มาโดยตลอด โดยเฉพาะเรื่องการจัดการขยะ ผ่านการปลูกฝังแนวคิดว่าขยะมีมูลค่า และการคัดแยกที่ถูกต้องจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงลดภาระการจัดการขยะของภาครัฐได้ การเริ่มต้นด้วยการมีส่วนร่วมของทุกคน จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงและยั่งยืน
เป้า2ปียกระดับเป็นวิสาหกิจชุมชน
“วิภาวรรณ" กล่าวว่า นอกจากความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐแล้ว ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ยังได้รับการสนับสนุนจาก GC YOUเทิร์น แพลตฟอร์มบริหารจัดการพลาสติกใช้แล้วแบบครบวงจร เข้ามารับวัสดุรีไซเคิลที่สถานีซื้อขายขยะ จัดส่งต่อวัสดุรีไซเคิลให้เข้าสู่กระบวนการจัดการอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
รวมทั้งThe Geen ช่วยวางรากฐานและร่วมออกแบบโครงการฯ ตั้งแต่การลงพื้นที่เก็บข้อมูลเชิงลึกชุมชน การทดลองดำเนินกิจกรรมซื้อขายขยะ การพัฒนาศักยภาพตัวแทนชุมชน ไปจนถึงการจัดเวิร์กช็อปให้กับนักเรียน ทำให้“สถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล"รับซื้อขยะหลากหลายประเภท เช่น ขวดพลาสติก PET ขวดแก้ว กระป๋องอะลูมิเนียม กล่องกระดาษ และน้ำมันพืชใช้แล้ว พัฒนาตัวแทนชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการสถานีฯการให้ความรู้ ถ่ายทอดเทคนิคการคัดแยกขยะเพื่อเพิ่มมูลค่าแก่คนในชุมชน จัดกิจกรรมเวิร์กช็อปให้นักเรียนในพื้นที่กว่า 200 คน ปลูกฝังแนวคิดเรื่องการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง สร้างการรับรู้และกระตุ้นการมีส่วนร่วมจากคนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
"สุพิชฌาย์ ไชยสีดา (เกษ) และไสว วุฒิสาร (เต่า)"คือ 2 จิตอาสาตัวแทนชุมชนที่เข้ามามีส่วนร่วมเรียนรู้การคัดแยกขยะเพื่อเพิ่มมูลค่าแก่คนในชุมชน และในอนาคตมีโอกาสพัฒนาเข้ามามีส่วนในการบริหารจัดการสถานีซื้อขายขยะรีไซเคิลด้วย เพราะ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค จะเป็น“พี่เลี้ยง” ให้กับชุมชน เพื่อให้พวกเขาสามารถบริหารจัดการสถานีได้เองในอนาคต ตั้งใจที่จะพัฒนาสถานีซื้อขายขยะรีไซเคิลแห่งนี้ สู่การเป็นวิสาหกิจชุมชน ซึ่งจะทำให้สามารถขายขยะโดยตรงให้กับโรงงานรีไซเคิลขนาดใหญ่ได้ในราคาที่ดีกว่า พร้อมทั้งสามารถยกระดับรายได้ของคนในพื้นที่ไปพร้อมกัน คาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี เพื่อสร้างศักยภาพอาสาสมัครและระบบชุมชนให้เข้มแข็งพอ
สำหรับอนาคต ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย มีความตั้งใจที่จะขยายโมเดลนี้ไปยังพื้นที่อื่น เช่น จังหวัดสระบุรี ที่เป็นที่ตั้งโรงงานอีกแห่งของบริษัทฯ พร้อมย้ำว่าความสำเร็จขึ้นอยู่กับความร่วมมือของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน หากไม่มีการมีส่วนร่วมอย่างจริงจัง โครงการก็ไม่สามารถดำเนินไปได้ หากโมเดลการดำเนินงานที่ระยองพิสูจน์แล้วว่าได้ผลและยั่งยืน การขยายไปยังพื้นที่อื่นก็เป็นไปได้อย่างแน่นอน
อบรมเยาวชนขยายผลในชุมชน
นอกจากนี้ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ยังได้จัดจัดเวิร์กช็อปการคัดแยกขนะที่ถูกวิธีให้กับนักเรียนกว่า 200 คนใน ร.ร.บ้านมาบยางพร ..บ้านห้วยปราบ ,มาบยางพรวิทยาคม และบ้านมาบเตย "อัญญดา กลางโหลน และ ศิรกาญจน์ เมฆพันธ์"ตัวแทนนักเรียนร.รมาบยางพรวิทยาคม กล่าวว่าได้การเรียนรู้การแยกขยะอย่างถูกต้อง หลังจากที่ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย และ The Geen เข้ามาให้ความรู้ นักเรียนทุกคนสามารถเข้าใจขั้นตอนและปฏิบัติตามได้จริง โดยร่วมกันคัดแยกขยะในทุกวันอังคารช่วงหลังเลิกเรียน รวมถึงมีการสอนวิธีการแยกขยะแก่คนที่เข้ามาร่วมใหม่ด้วย
จากนั้นสภานักเรียน ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมขยะและนำไปขาย โดยได้รับการสนับสนุนจากทางอบต.ช่วยขนส่งไปที่สถานีซื้อขายขยะของ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย เพื่อสร้างรายได้กลับมาเป็นของโรงเรียน และนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ได้ทั้งที่บ้านและภายในชุมชน ทำให้พื้นที่ของชุมชนสะอาดขึ้น ขยะลดลง และมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย
รับซื้อขยะ 5 ประเภทหลัก
สำหรับสถานีซื้อขายขยะรีไซเคิลนี้ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ใช้งบประมาณก่อสร้างกว่า 500,000 บาทงบหมุนเวียนรับซื้อขยะ 30,000 บาทเปิดดำเนินการซื้อขายมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568 โดยรับซื้อขยะ 5 ประเภทหลัก ได้แก่ ขวด PET ขวดแก้ว น้ำมันพืชใช้แล้ว กระดาษลัง กระป๋องเดือนละสองครั้ง ทุกอาทิตย์ที่ 2 และ 4 ของเดือน พร้อมทั้งแจกถุงสีน้ำเงินสำหรับคัดแยกขยะให้กับผู้ที่นำขยะมาขาย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการแยกขยะที่มีประสิทธิภาพในชุมชน
การดำเนินโครงการในปีแรก มุ่งเน้นส่งเสริมการเปลี่ยนพฤติกรรมการคัดแยกขยะ ให้คนในชุมชนคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี ก่อนนำมาส่งที่สถานีฯ เพราะการคัดแยกขยะให้สะอาดและถูกต้องจะทำให้ขยะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น เช่น ขวด PET ที่กรีดฉลากออกมีราคาซื้อขายสูงกว่าขวดที่ไม่กรีด หรือขวดเบียร์ที่แยกใส่ลังถูกต้องจะได้ราคามากกว่านำมาแบบปะปนกัน เป็นต้น
การดำเนินงานตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่าชุมชนเริ่มเข้าใจและปรับพฤติกรรมอย่างเป็นรูปธรรม ร้านค้าในตลาด โดยเฉพาะร้านอาหาร เริ่มนำขยะมาขายมีความสะอาดขึ้น ปริมาณเพิ่มขึ้น และเริ่มเห็นผู้คนนำขยะกลับมาขายซ้ำอย่างต่อเนื่อง สำหรับน้ำมันพืชใช้แล้วรับซื้อกิโลกรัมละ 20 บาทนำไปปรับปรุงใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนในอุตสาหกรรมการบินถือเป็นการช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชน พร้อมทั้งยังช่วยลดปัญหาการทิ้งน้ำมันลงท่อที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรง







