SMU สิงคโปร์ เปิดตัว 'นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนในเมือง' ศูนย์เร่ง Deep Tech ดึงสตาร์ทอัพแก้ปัญหาเมือง-ความยั่งยืน

มหาวิทยาลัยการจัดการแห่งสิงคโปร์ (SMU) เปิดตัว "นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนในเมือง" Accelerator รับ 60 ทีม Deep Tech ดันสิงคโปร์สู่ฮับนวัตกรรมยั่งยืนแห่งเอเชีย
KEY
POINTS
- มหาวิทยาลัยการจัดการแห่งสิงคโปร์ (SMU) เปิดตัวโครงการ "นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนในเมือง" (USI) เพื่อเร่งการเติบโตของสตาร์ทอัพสาย Deep Tech ที่มุ่งแก้ปัญหาเมืองและความยั่งยืน
- โครงการจะคัดเลือกสตาร์ทอัพ 60 ทีมจากทั่วโลก เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมในเมือง เช่น การลดคาร์บอน การเปลี่ยนผ่านพลังงาน และการก่อสร้างที่ยั่งยืน
- USI เป็นโปรแกรมระยะ 12 เดือนที่ไม่เก็บค่าธรรมเนียมและไม่ถือหุ้น (zero-equity, zero-fee) พร้อมให้การสนับสนุนและคำปรึกษาจากพันธมิตรชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชน
มหาวิทยาลัยการจัดการแห่งสิงคโปร์ (SMU) เปิดตัว นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนในเมือง (Urban SustaInnovator) รับ 60 ทีม Deep Tech ดันสิงคโปร์สู่ฮับนวัตกรรมยั่งยืนแห่งเอเชีย
USI กุญแจสำคัญสู่การแก้ปัญหาสังคมเมืองและสิ่งแวดล้อม
โครงการ USI เปิดตัวในพิธีเปิดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ LKYGBPC (29 ก.ย. - 2 ต.ค. 2568 ที่ผ่านมา) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาชาติ ชี ฮง แทต มาเป็นประธาน นับเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ SMU ในการเป็นศูนย์กลาง Deep Tech ที่มีพลวัต และเป็นประตูสู่นวัตกรรมและการเป็นผู้ประกอบการในเอเชีย
USI ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับความท้าทายเร่งด่วนที่เมืองต่างๆ ในภูมิภาคกำลังเผชิญ เช่น การลดคาร์บอน, การเปลี่ยนผ่านพลังงาน, การก่อสร้างและการเคลื่อนที่อย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายระดับชาติในแผนงาน Singapore Green Plan 2030
ศาสตราจารย์ลิม ซัน ซัน รองประธาน Partnerships & Engagement ของ SMU กล่าวว่า USI จะเชื่อมโยงความสามารถของสตาร์ทอัพระดับโลกเข้ากับระบบนิเวศของสิงคโปร์ เพื่อกระตุ้นโซลูชันสำหรับอนาคตที่ยั่งยืนและเท่าเทียม รวมถึงเสริมสร้างการถ่ายทอดความรู้และทักษะให้กับบุคลากรในประเทศ
โปรแกรมระดับโลกที่ 'ไม่มีค่าใช้จ่าย-ไม่ถือหุ้น'
Urban SustaInnovator เป็นโปรแกรม hybrid และ non-residential ระยะเวลา 12 เดือน ที่โดดเด่นด้วยโมเดล zero-equity และ zero-free ซึ่งหมายความว่าสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมและไม่ต้องแลกหุ้นให้กับโปรแกรม นอกจากนี้ยังไม่ต้องมีถิ่นที่อยู่ประจำที่สถานที่จัดการ
จุดเด่นของ USI
- พันธมิตรที่แข็งแกร่ง: ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนชั้นนำ เช่น A*STAR, Antler, สำนักงานหน่วยงานก่อสร้าง (BCA), ตลาดพลังงานสิงคโปร์ (EMA), ST Engineering, The GEAR by Kajima, TRIREC และ Wavemaker Partners
- การให้คำปรึกษาเฉพาะบุคคล: แต่ละทีมจะได้รับมอบหมาย Lead Mentor จากกลุ่มพันธมิตรธุรกิจ วิทยาศาสตร์ และรัฐบาล เพื่อให้คำแนะนำที่ต่อเนื่องและตรงจุด
- การสนับสนุนการเติบโต: ครอบคลุมคำแนะนำด้านการระดมทุน, การแนะนำธุรกิจ, การสรรหาบุคลากร, การพิสูจน์ทางห้องปฏิบัติการ (lab-testing), การรับรอง และโอกาสในการขยายเครือข่ายสู่เอเชียผ่านศูนย์ต่างประเทศของ SMU
LKYGBPC แหล่งรวมสุดยอด Deep Tech ระดับโลก
การแข่งขันแผนธุรกิจ LKYGBPC ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกสองปีโดย SMU มานานกว่า 2 ทศวรรษ ได้ทำหน้าที่เป็นแหล่งบ่มเพาะบุคลากรสำคัญให้กับโปรแกรม USI ในปีนี้มีผู้สมัครเข้าร่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 1,572 ทีมจาก 91 ประเทศ
ผู้เข้ารอบสุดท้าย 60 ทีม จะเข้าชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 2.5 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 62 ล้านบาท) ทั้งในรูปเงินสด การสนับสนุน และการให้คำปรึกษาจากพันธมิตรชั้นนำ อย่าง , MUI Robotics จากประเทศไทย , Antler, Indorama Ventures, Sino Group และ The GEAR by Kajima
ความมุ่งมั่นของสิงคโปร์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเห็นได้จากการจัดอันดับที่ 4 ของโลกใน 2025 Global Startup Ecosystem Index (ก้าวกระโดดขึ้น 12 อันดับจากปี 2020) และการครองส่วนแบ่งเกือบ 60% ของการลงทุนทุนร่วมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งการเปิดตัว USI ยิ่งตอกย้ำสถานะของประเทศในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรม Deep Tech ระดับโลกอย่างแท้จริง







