'ศุภชัย' เปิดงาน GCNT Expo 2025 ผนึกทุกภาคส่วนเร่งทำเป้า SDGs ก่อนถึงจุดวิกฤติ

สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GCNT) ในฐานะเครือข่ายภาคเอกชนด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้จับมือทุกภาคส่วนจัดงาน “GCNT Expo 2025: Forward SDGs Faster Together – รวมพลังเร่งสร้างโลกที่ยั่งยืน” ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค กรุงเทพฯ โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 6,000 คนจากทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม นักวิชาการ และเยาวชน เพื่อร่วมกันแสดงพลังความร่วมมือในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) อย่างเร่งด่วน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนบทบาทของภาคธุรกิจไทยบนเวทีโลก

“ศุภชัย เจียรวนนท์” นายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กล่าวเปิดงานว่า โลกกำลังเผชิญ "Breaking Point" หรือจุดวิกฤติสำคัญ โดยเหลือเวลาเพียง 5 ปี ในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ทั้ง 17 ข้อ ภายในปี ค.ศ.2030 ขณะที่ปัจจุบันทั้งโลกสามารถดำเนินการได้เพียง 18% เท่านั้น นี่คือเหตุผลของการจัดงาน GCNT Expo 2025 ภายใต้แนวคิด Forward SDGs Faster Together เพื่อเร่งก้าวไปข้างหน้าให้เร็วขึ้น

“รายงานของนิตยสาร Forbes ระบุว่า AI อาจส่งผลกระทบต่อมากกว่า 300 ล้านตำแหน่งงานภายในปี 2045 และกว่าครึ่งของตำแหน่งงานทั้งหมดอาจถูกทดแทนด้วยระบบอัตโนมัติ ขณะเดียวกัน ผู้บริหารของ BlackRock คาดการณ์ว่า AI จะเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรในภาคการเงิน และกฎหมายภายในปี 2035 ดังนั้น การบริหารจัดการ AI อย่างมีธรรมาภิบาล พัฒนาระบบนิเวศพลังงานสะอาดรองรับความต้องการ และยกระดับทักษะแรงงานรุ่นใหม่ให้สามารถใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อประโยชน์ของสังคม”

กลยุทธ์ “3Ds” และ 7Ts พาภาคธุรกิจเปลี่ยนผ่าน

“ศุภชัย” ได้เสนอกรอบแนวคิด “3Ds” ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ภาคธุรกิจควรนำมาใช้ในการเปลี่ยนผ่านองค์กร โดยประกอบด้วย 1. Digitalization การปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และ AI อย่างมีจริยธรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดผลกระทบทางลบ 2. Deglobalization การตอบรับกับโลกที่กำลังลดความเชื่อมโยงในบางมิติ แต่ยังคงยึดมั่นในความร่วมมือข้ามพรมแดนเพื่อเป้าหมายร่วมกัน 3. Decarbonization การเร่งลดคาร์บอน และขับเคลื่อนสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง เพื่อความอยู่รอดของมนุษย์ และระบบนิเวศ

นอกจากนั้น “ศุภชัย” กล่าวว่า ภาวะวิกฤติมักมาพร้อมกับโอกาสที่ยิ่งใหญ่เสมอ เพราะเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้เรียนรู้ และปรับตัวมากที่สุด นี่คือเหตุผลที่ GCNT Expo 2025 จัดงานภายใต้กรอบ “7 Transformations” หรือ “7T” เพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่อนาคตที่ยั่งยืน ประกอบด้วย

• Table : อาหารและเกษตรกรรมแห่งอนาคต
• Tourism : การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
• Tech : เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน
• Trade : ระบบการค้า การบริการ การเงิน และการขนส่ง
• Talent : การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม
• Transition : การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจพลังงานสะอาดอย่างเป็นธรรม  สู่เศรษฐกิจที่พึ่งพาพลังงานทดแทน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนา SMEs
• Trust : การสร้างความไว้วางใจในระบบเศรษฐกิจด้วยความโปร่งใส

กลไกตลาดแข่งขันด้านความดี

ในมิติของความเชื่อมั่น (Trust) และธรรมาภิบาลในภาคเอกชน "ศุภชัย" กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยข้อมูล จัดทำรายงาน และวางเป้าหมายด้านความยั่งยืนอย่างเป็นระบบและรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

"GCNT รู้สึกยินดีที่ขณะนี้มีบริษัทจดทะเบียนกว่า 200 แห่งเข้าร่วมจัดทำ ESG Rating กับทางตลาดหลักทรัพย์ และจำนวนนั้นก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีของการใช้กลไกตลาดเป็นแรงขับเคลื่อนการแข่งขันด้านความดีและความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน สมาคมหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยกระตุ้นให้บริษัทจดทะเบียนทั้งหมดเข้าร่วม และขยายผลไปยังบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ทั่วประเทศต่อไป"

การศึกษาต้องเท่าเทียม

การพัฒนาทุนมนุษย์หรือ "คน" (Talent) ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่สุดของประเทศ และเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาอย่างต่อเนื่อง ทุกคนควรได้รับโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ข้อ 4 และควรได้รับการส่งเสริมให้มี Growth Mindset ผ่านการเรียนรู้ตลอดชีวิต

สมาคม GCNT ขอขอบคุณองค์กร UNICEF ที่ได้จัดทำรายงานการพัฒนาทุนมนุษย์ในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยส่งเสริมความร่วมมือและการลงทุนในคน โดยเฉพาะเยาวชน ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่มีคุณค่าและให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน เพราะเยาวชนคือ "ผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง"

โดยงานครั้งนี้ได้ต้อนรับเยาวชนนับพันคนจากมหาวิทยาลัย สถาบันอาชีวศึกษา และเยาวจากโครงการ SDGs Young Creator ที่มาร่วมเรียนรู้ และทำกิจกรรมในหลากหลายเวทีกว่า 100 หัวข้อ

"Digital ID" สู่สังคมไร้เงินสด

พร้อมกันนี้ “ศุภชัย" ให้มุมมองเกี่ยวกับการแก้ไข 'ปัญหาคอร์รัปชัน' โดยระบุว่าเศรษฐกิจใต้ดินของไทยอาจมีขนาดใหญ่ถึง 50% ของ GDP การแก้ไขปัญหานี้ควรกลับไปที่เรื่อง Digitalization โดยเน้นการสร้าง "Digital ID" สำหรับทั้งประชาชนและภาคเอกชน เพื่อนำไปสู่ สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ซึ่งจะทำให้เกิด "ความโปร่งใส (Transparency)" ผ่านการบันทึกและตรวจสอบย้อนกลับของการทำธุรกรรมทั้งหมด

การนำ AI เข้ามาช่วยในการบังคับใช้กฎหมายและกฎระเบียบที่ถูกต้อง โดยยึดหลักความปลอดภัยของประชาชนและความสงบของประเทศ จะช่วยลดการตัดสินใจที่เป็นส่วนตัว และลดคอร์รัปชัน รวมถึงแรงเฉื่อยในระบบได้ ยิ่งระบบโปร่งใสมากเท่าไหร่ ปัญหาคอร์รัปชันก็จะลดลงมากเท่านั้น

MOU ม.ธรรมศาสตร์ เปิดหลักสูตรความยั่งยืน 

ภายในงาน GCNT ยังเปิดตัวความร่วมมือใหม่กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการจัดตั้งหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเพื่อความยั่งยืน และเสนอแนวทางจัดตั้ง “ศูนย์การเรียนรู้ SDGs” ไปยังโรงเรียน และสถานประกอบการทั่วประเทศ เพื่อปลูกฝังเยาวชนให้เติบโตเป็นพลเมืองที่มีความคิดสร้างสรรค์ และรับผิดชอบต่อสังคม

หลักสูตรนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของภาคเอกชน ในการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน และเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านทั้ง 7 ด้าน (7Ts) ภายใต้แนวคิดของการจัดการเพื่ออนาคตอย่างยั่งยืน

หลักสูตรเฉพาะทาง “บูรณาการความรู้และทักษะ” นี้นับเป็นนวัตกรรมใหม่ ไม่เพียงแต่สำหรับ Global Compact Network เท่านั้น แต่ยังถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญสำหรับวงการการศึกษาในประเทศไทยด้วย โดยเป็นหลักสูตรที่ผสมผสานทั้งองค์ความรู้ทางวิชาการและทักษะการปฏิบัติอย่างลงตัว ดังนี้

• มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถ่ายทอดองค์ความรู้ในมิติของวิทยาศาสตร์ สิ่งแวดล้อม และสังคม
• Global Compact Network เสริมสร้างทักษะการทำงานผ่านการฝึกงาน การลงพื้นที่ และการปฏิบัติงานจริง

ผู้เรียนจะได้รับการปลูกฝังให้เข้าใจถึงอุปสรรคและความท้าทายทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนแนวทางแก้ไขที่ใช้ได้จริงในทุกภาคอุตสาหกรรม พวกเขาจะได้รับการส่งเสริมให้เป็นผู้มีความคิดสร้างสรรค์ นำวิทยาศาสตร์มาใช้ในการแก้ปัญหา และเปลี่ยนกรอบความคิดจากการวัดผลเพียงด้านการลงทุนและผลตอบแทน ไปสู่การใช้ตัวชี้วัดด้านความยั่งยืนที่อ้างอิงจาก 17 ตัวชี้วัด (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งสะท้อนปัญหาทางสังคมและสิ่งแวดล้อมทั่วโลก และเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน

SDG16 สังคมสงบสุข

ในช่วงท้ายของการกล่าวสุนทรพจน์ “ศุภชัย” ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหล่าทหารผู้กล้า และครอบครัวที่สูญเสีย ตลอดจนประชาชนผู้ประสบภัยจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดน และชื่นชมรัฐบาลจากกรณีที่กระทรวงการคลัง ได้ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชน และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบตามที่รองนายกรัฐมนตรีพิชัย ได้แถลงเมื่อวานนี้

“เหตุการณ์ความขัดแย้งทั่วโลกพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนถึงผลกระทบของการสู้รบต่อปากท้องของประชาชน ระบบห่วงโซ่อุปทาน ต้นทุน และการดำเนินธุรกิจขององค์กรทุกขณะ ดังนั้น สันติภาพ และความมั่นคงจึงเป็นรากฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจ และการส่งเสริมความยั่งยืน ซึ่งทำให้เป้าหมายความยั่งยืน SDG ข้อ 16 ว่าด้วยสังคมสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันเข้มแข็ง ได้รับความสำคัญมากขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา”

GCNT ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย และประเทศไทยที่จะก้าวข้ามปัญหา อุปสรรค และความท้าทายที่เผชิญอยู่ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้ง 17 ข้อ เราต้องเร่งพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ฟื้นฟูความเชื่อมั่น สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจบนหลักธรรมาภิบาล ขจัดความเหลื่อมล้ำด้วยการสร้างคนที่ตอบโจทย์กับการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน เปลี่ยนผ่านสู่การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และเป็นธรรม โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง บนพื้นฐานของหลัก "ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง"

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์