ครม. ไฟเขียว แผนแก้ฝุ่นพิษ PM2.5 ฉบับที่ 2 มุ่งลดมลพิษระยะยาว

ครม. ไฟเขียว แผนแก้ฝุ่นพิษ PM2.5 ฉบับที่ 2 มุ่งลดมลพิษระยะยาว

ครม. อนุมัติแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ "การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง" ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2568-2570 และระยะ 5 ปี ต่อไป

KEY

POINTS

  • ครม. เห็นชอบแผนปฏิบัติการฉบับใหม่ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2568–2570) และกรอบระยะยาว 5 ปี
  • กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นผู้เสนอแผน
  • ครอบคลุม 4 ภูมิภาคหลัก: เหนือตอนล่าง, เหนือตอนบน, อีสาน, และภาคกลาง
  • ใช้กลไกหลากหลาย เช่น เทคโนโลยี, กฎหมาย, มาตรการจูงใจทางเศรษฐศาสตร์ และการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ

วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม 2568 นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ "การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง" ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2568-2570 และระยะ 5 ปี ต่อไป ตามที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เดิมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 เห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษ ฝุ่นละออง ฝุ่นพิษ PM2.5 (แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองฯ) พร้อมได้มอบหมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำรายละเอียดกิจกรรมโครงการ และดำเนินการตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ การป้องกันและลดมลพิษต้นทาง (แหล่งกำเนิด) และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ

ครม. ไฟเขียว แผนแก้ฝุ่นพิษ PM2.5 ฉบับที่ 2 มุ่งลดมลพิษระยะยาว

ทั้งนี้ ทส. โดยกรมควบคุมมลพิษ ได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองฯ ตั้งแต่ปี 2562-2567 โดยหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาการดำเนินการตามแผนดังกล่าว และได้ดำเนินการถอดบทเรียนการแก้ไขปัญหา โดยได้มีการรับฟังความเห็นของประชาชนใน 4 พื้นที่หลัก ได้แก่ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เพื่อรวบรวมข้อมูลนำไปปรับปรุงแก้ไข ในการจัดทำแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ฉบับที่ 2 

โดยแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองฯ ฉบับที่ 2 ให้ความสำคัญกับการป้องกันและควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิด โดยมีการใช้กลไกต่างๆ เช่น เทคโนโลยี กฎหมาย กฎระเบียบ มาตรการจูงใจ มาตรการทางเศรษฐศาสตร์ และการบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทั้งพื้นที่เมือง พื้นที่ป่า และ พื้นที่เกษตรกรรม และการจัดการมลพิษข้ามแดน