ดันท่องเที่ยวภาคเหนือบูมเศรษฐกิจชุมชน ‘ททท.’ พร้อมปรับแผนรับ ‘วิกฤติฝุ่น’

ดันท่องเที่ยวภาคเหนือบูมเศรษฐกิจชุมชน ‘ททท.’ พร้อมปรับแผนรับ ‘วิกฤติฝุ่น’

"ททท." เผยพร้อมปรับแผนหนุนท่องเที่ยวภาคเหนือสู้วิกฤติฝุ่น PM2.5 ดึงงบฯ 67ที่กำลังออกมาทำกิจกรรมร่วมสายการบิน ขยับเวลาให้เที่ยวได้เร็วขึ้นในช่วงต้นหน้าฝน ผู้ว่าฯททท.ขอบคุณ ครม.หนุนท่องเที่ยวพะเยา - ภาคเหนือตอนบน2 ชี้อนุมัติ ททท.เชื่อมโยงท่องเที่ยว สปป.ลาว

พื้นที่ภาคเหนือของไทยถือว่าเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางไปเป็นจำนวนมาก โดยในปี 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปกลุ่มจังหวัดในภูมิภาคภาคเหนือกว่า 39.48 ล้านคน โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 34.87 ล้านคนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4.61 ล้านคน ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2567 การท่องเที่ยวในภาคเหนือจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนรวมทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 45 ล้านคน

อย่างไรก็ตามในช่วงปลายเดือน ก.พ. – เม.ย.ในทุกๆปีภาคเหนือประสบปัญหาเรื่องฝุ่นพิษ PM2.5 จนทำให้กระทบการท่องเที่ยวในพื้นที่ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องมีการแก้ไข

เอกชนชี้ฝุ่นกระทบท่องเที่ยว 30% 

นางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ นายกสมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวภาคเหนือโดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย ในช่วงเดือนมี.ค.ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ได้รับผลกระทบจาก PM2.5 ยอดนักท่องเที่ยวปรับตัวลงอย่างมากและจะลดลงต่อเนื่องไปถึงเม.ย.จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่มีความรุนแรง ซึ่งปกติในช่วงนี้ต้องมียอดจองห้องพัก 70-80%ของจำนวนห้องพักในจังหวัดที่มี 18,000 ห้องจากโรงแรมประมาณ 600 แห่ง แต่กลับพบว่าลดลงประมาณ 37.5% เหลือยอดการจองห้องพักเพียง 50% จึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหานี้อย่างจริงจังเพื่อไม่ให้กระทบกับภาคการท่องเที่ยวในพื้นที่

ดันท่องเที่ยวภาคเหนือบูมเศรษฐกิจชุมชน ‘ททท.’ พร้อมปรับแผนรับ ‘วิกฤติฝุ่น’

ททท.ปรับกลยุทธ์สู้ฝุ่น

น.ส.สมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้เปลี่ยนกลยุทธ์ในการส่งเสริมตลาดในประเทศใหม่ เพื่อช่วยกลุ่มจังหวัดในภาคเหนือประสบปัญหาสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จนนักท่องเที่ยวชะลอการเดินทาง

โดย ททท.มีแผนนำงบประมาณประจำปี 2567 ที่เริ่มใช้ได้ในเดือนพ.ค.มาทำการตลาดในรูปแบบของโปรโมชั่นร่วมกับสายการบินในประเทศ จะช่วยให้ราคาค่าโดยสารถูกลง และเพื่อให้เกิดไฮซีซั่นในฤดูฝน ช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย. รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการเที่ยววันธรรมดาเพิ่มขึ้น โดยร่วมกับอโกด้าจัดราคาที่พักมีส่วนลดพิเศษ เริ่มในเดือนพ.ค.นี้เช่นกันและทำให้ปี 2567 เป็นปีที่เดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

ดันท่องเที่ยวภาคเหนือบูมเศรษฐกิจชุมชน ‘ททท.’ พร้อมปรับแผนรับ ‘วิกฤติฝุ่น’

 นอกจากนั้นที่ประชุม ครม.สัญจร จ.พะเยา เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมฯให้ความสำคัญกับการพัฒนาการท่องเที่ยวในจ.พะเยาและในพื้นที่เป็นอย่างมากด้วยความมุ่งหวังให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการพัฒนาการท่องเที่ยว  

ตั้ง ททท.พะเยา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  เปิดเผย​ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ตั้งสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จังหวัดพะเยา ภายในไตรมาส 4 ปี 2567 ตลอดจนให้มีการศึกษาเพื่อประกาศให้จังหวัดพะเยาเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวให้เข้าสู่จังหวัดพะเยามากขึ้น และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ ตลอดจนพัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่ายให้มีการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

นอกจากนั้นในการอนุมัติโครงการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดจำนวน 9 โครงการรวมวงเงิน 155 ล้านบาทและโครงการภาคเอกชนอีกจำนวน 4 โครงการ วงเงินรวม 145 ล้านบาท รวม 300 ล้านบาท ตามที่ กรอ.กลุ่มจังหวัดเสนอ โดยเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวหลายโครงการ

ดันท่องเที่ยวภาคเหนือสร้างรายได้ชุมชน

น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่าต้องขอบคุณที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการจังหวัดพะเยา ที่มีมติอนุมัติหลายโครงการที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว ตามข้อเสนอของกรอ.กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ตอนบน 2 ประกอบด้วย พะเยา เชียงราย แพร่ น่าน ซึ่งในกลุ่มจังหวัดนี้ได้มีการหารือกันก่อนว่าจะมุ่งเน้นเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) หรือแม้แต่เรื่องการเกษตรที่ได้รับอนุมัติก็เกี่ยวโยงกับการเกษตรอินทรีย์ที่จะนำมาส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ซึ่งเป็นการสร้างจุดเด่นการท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยโครงการที่เกี่ยวกับท่องเที่ยว ที่ ครม.อนุมัติ ประกอบด้วย

 1.โครงการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงอาหาร Gastronomy tourism สู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างสร้างสรรค์ และยั่งยืน วงเงิน 20 ล้านบาท

 2.โครงการ A Cup to Village เพิ่มขีดความสามารถการเป็นนวัตกรด้านชาและกาแฟเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน วงเงิน 15 ล้านบาท

3.โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ วงเงิน 26.12 ล้านบาท

4.โครงการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันและยกระดับการท่องเที่ยวน่านสู่ท่องเที่ยวคุณภาพสูง วงเงิน 14 ล้านบาท

และ5.โครงการน่านเมืองเก่ามีชีวิต สร้างสรรค์ เมืองแห่งวัฒนธรรมสู่มรดกโลก วงเงิน 21 ล้านบาท เป็นต้น

ดันท่องเที่ยวภาคเหนือบูมเศรษฐกิจชุมชน ‘ททท.’ พร้อมปรับแผนรับ ‘วิกฤติฝุ่น’

“การส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีความจำเป็นต้องบูรณาการทำงานหลายกระทรวงร่วมกัน ลำพังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไม่สามารถทำงานเองได้ เมื่อหน่วยงานเจ้าของเรื่องได้รับงบประมาณไปดำเนินโครงการต่างๆที่เกี่ยวกับเรื่องการท่องเที่ยวแล้ว ทาง ททท.ก็สามารถช่วยต่อยอดในเรื่องของการส่งเเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้ได้ และไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ที่ ครม.ไปจัดประชุม แต่รวมถึงทุกพื้นที่ด้วย เพราะ ททท.ต้องการให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว 365 วัน”

ส่วนการที่ ครม.อนุมัติให้มีการจัดตั้งสำนักงาน ททท.จ.พะเยา จะทำให้เกิดการประสานงาน และร่วมทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้อย่าง ใกล้ชิด ในการให้คำปรึกษาต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวที่พร้อมขาย และการดำเนินงานด้านส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวของ จังหวัดพะเยาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเกิดการคล่องตัวในการปฏิบัติงาน และบูรณาการร่วมกัน เนื่องจากในปัจจุบันทุกภาคส่วนให้ความสำคัญต่อการ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ตลอดจนกลุ่มนักธุรกิจ YEC ได้เข้ามามีบทบาทในการร่วมผลักดัน และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดมากยิ่งขึ้น

ททท.พะเยาช่วยส่งเสริมการตลาดเชื่อมโยง สปป.ลาว

นอกจากนี้ จะเป็นหน่วยงานทำหน้าที่หลักประจำจังหวัดพะเยา ในการดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการตลาด การท่องเที่ยวในท้องที่ได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนสามารถกำหนดทิศทางการตลาดการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดได้เป็นอย่างดี และร่วมขับเคลื่อนโครงการ หรือกิจกรรมกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวสู่จังหวัดพะเยาได้อย่างต่อเนื่อง และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวเข้าสู่จังหวัดพะเยาเพิ่มมากขึ้น

ดัน  Wellness การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 มีหลายโครงการที่ต้องการการผลักดันและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Wellness และการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ให้จังหวัดเชียงรายเป็นเมืองสุขภาพดี เมืองแห่งชาและกาแฟ และ เมืองแห่งกีฬา

ดันท่องเที่ยวภาคเหนือบูมเศรษฐกิจชุมชน ‘ททท.’ พร้อมปรับแผนรับ ‘วิกฤติฝุ่น’

ขณะที่จังหวัดพะเยาจะส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนโดยร่วมมือกับเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวและภาคเอกชนผลักดันกิจกรรมการท่องเที่ยวสีขาวที่มีองค์ประกอบของความสะดวก สะอาด ปลอดภัย เป็นธรรม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้ BCG Economy Model ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและอาหาร รวมถึงนำการแข่งขันกีฬาในระดับประเทศมาจัดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้น

สำหรับจังหวัดน่านจะขับเคลื่อนสู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก และพัฒนาชุมชนในจังหวัดน่านให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน ขณะที่จังหวัดแพร่จะมีการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ให้สนองตอบต่อการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดและระหว่างจังหวัด ตลอดจนส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาคผ่านด่านบ้านฮวก จังหวัดพะเยาเพื่อการเดินทางสู่เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว ที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลให้ขยายวันพักในจังหวัดพะเยาให้มากขึ้น

ทั้งนี้สถานการณ์ท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เมื่อเทียบกับช่วงปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากการเติบโตของการท่องเที่ยวในเมืองรองจากการดำเนินมาตรการส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศของกระทรวงการท่องเที่ยว โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รวมถึงกระแสความนิยมในสังคมออนไลน์ (Social media) และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดที่กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี