‘เมดพาร์ค’ ชูออกแบบอาคารเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืนกับธุรกิจ

‘เมดพาร์ค’ ชูออกแบบอาคารเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืนกับธุรกิจ

‘ความยั่งยืน’ กลายเป็นอีกหนึ่งโอกาสของธุรกิจ และเทรนด์ที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ ESG (Environmental:สิ่งแวดล้อม ,Social:สังคม และ Governance:ธรรมาภิบาล) เข้าไปเป็นหนึ่งในการตัดสินใจลงทุน  

Keypoint:

  • จุดมุ่งหมายหลักของเมดพาร์คคือ เป็นโรงพยาบาลที่สามารถดูแลรักษาโรคยากซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การออกแบบ และก่อสร้างอาคารจึงต้องมีคอนเซปต์ในการดูแลบริหารจัดการอาคาร และคำนึงถึงปัญหาของผู้ป่วย
  • ธุรกิจโรงพยาบาลจำเป็นต้องมุ่งเน้นเรื่องของ ESG คุณภาพอากาศ และความสะอาดในอาคารยังมีความปลอดภัยต่อสุขภาพของบุคลากรของโรงพยาบาลทุกคน
  • การออกแบบอาคารที่ต้องมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีความปลอดภัยต่อผู้เข้าใช้บริการ 

กลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ของโลกที่ได้ทำการศึกษาในการที่จะลงทุนเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าด้วยการใช้ ESG frameworks ประกอบการตัดสินใจ Blackrock ได้ปล่อยโปรเจกต์ที่ระบุว่าในปี 2025 กว่า 40% ของกลุ่ม Global Equity จะลงทุน โดยมีการประเมินจาก ESG เรียกง่ายๆ ว่าใน 40 ดอลลาร์จากทุก 100 ดอลลาร์จะมีการเอาไปลงทุนในบริษัทที่มีผลประกอบการ ESG ถ้าแบ่งออกตามภูมิภาคจะเห็นความแตกต่าง ถึงแม้ในเอเชีย ESG จะใหม่มากๆ แต่มีการลงทุนใน 1 ในทุก 5 บริษัทที่มีการใช้ ESG และคาดว่าจะมีการลงทุนในด้านนี้เพิ่มมากขึ้นสองเท่าในไม่กี่ปีข้างหน้า

วันนี้ (12 กุมภาพันธ์ ) Post Today และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ได้จัดสัมมนา ‘PostToday Thailand Economic Drive 2024 ฝ่ามรสุมเศรษฐกิจ 2567’ โดยมี นพ.พงษ์พัฒน์  ปธานวนิช กรรมการผู้จัดการโรงพยาบาลเมดพาร์ค กล่าวในช่วงเสวนา ‘ความยั่งยืนกับโอกาสทางธุรกิจ’ ตอนหนึ่งว่า โรงพยาบาลเป็นหนึ่งอุตสาหกรรมที่หลีกเลี่ยงของเสียไม่ได้ เพราะโรงพยาบาลต้องดูแลผู้ป่วย โดยมีของเสียทั้งแบบติดเชื้อ และไม่ติดเชื้อ ซึ่งช่วงโควิด-19 มีของเสียจำนวนมาก และการจัดการเรื่องของเสียเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก ดังนั้น จะทำอย่างไรให้ของเสียเกิดขึ้นน้อยที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

"รพ.เมดพาร์ค" เส้นทางสู่ "ความยั่งยืน" ด้วยนวัตกรรมทางความคิด

 

รพ.เมดพาร์ค สร้างธุรกิจ รพ.ยั่งยืนเริ่มที่ออกแบบอาคารรักษ์โลก

นพ.พงษ์พัฒน์ กล่าวต่อว่า จากการดำเนินอุตสาหกรรมโรงพยาบาลมาเกิน 35 ปี ทำให้ได้เห็นจุดบกพร่องของการออกแบบอาคาร ระบบแอร์ และการจัดการของเสีย เมื่อมีการสร้างโรงพยาบาลใหม่ อย่าง รพ.เมดพาร์ค จึงได้นำประสบการณ์มาบริหารจัดการ โดยเฉพาะการออกแบบอาคารที่ต้องมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีความปลอดภัยต่อผู้เข้าใช้บริการ 

"จุดมุ่งหมายหลักของเมดพาร์คคือ เป็นโรงพยาบาลที่สามารถดูแลรักษาโรคยากซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการออกแบบ และก่อสร้างอาคารจึงต้องมีคอนเซปต์ในการดูแลบริหารจัดการอาคาร และคำนึงถึงปัญหาของผู้ป่วย ลดเวลาการนอนโรงพยาบาลให้สั้นที่สุด อีกทั้ง ธุรกิจโรงพยาบาลจำเป็นต้องมุ่งเน้นเรื่องของ ESG  ต้องออกแบบอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อากาศที่อยู่ในตึกทั้งหมดจะมีการกรองอุณหภูมิ ลดความชื้น ทำให้อากาศในอาคารจะมีฝุ่นละออง PM2.5 อยู่ในปริมาณไม่เกิน 10 % ของนอกอาคาร"

ส่วนเรื่องความยั่งยืน เมดพาร์คไม่ได้ทำเพียงการรักษา แต่มีการทำเรื่องการอบรม วิจัย ซึ่งมีการติดต่อกับโรงพยาบาลในสหรัฐอเมริกา เพื่อทำเป็นแคมปัส หากทำได้จะทำให้แพทย์ของเมดพาร์ค มีลูกศิษย์ มีแพทย์รุ่นใหม่ที่จะทำงานต่อเนื่องได้ ทั้งหมดนี่คือ ความยั่งยืนของคนทำงานจะต่อเนื่อง

 

อาคารประหยัดพลังงาน ลดสะสมของเชื้อโรค

รพ.เมดพาร์ค ให้ความสำคัญด้านรักษ์โลก เริ่มตั้งแต่การสร้างโรงพยาบาลให้เป็นอาคารประหยัดพลังงาน ใช้กระจกนิรภัย 4 ชั้น ลดแสง ลดความร้อนที่จะเข้ามาในอาคาร ได้รับการรับรองอาคารสีเขียว ระดับ Gold จาก LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก และได้รับการรับรองโดยสภาอาคารเขียวแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Green Building Council : USGBC) ปี 2020 รวมถึงได้นำนวัตกรรมต่างๆ มาช่วยกำจัดขยะทางการแพทย์ เลือกใช้อุปกรณ์ที่ย่อยสลายง่าย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการใช้ไอที และแอปพลิเคชันต่างๆ เข้ามาในขั้นตอนการทำงานอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนั้น  30% ของห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาลเป็นห้อง ICU ดังนั้น อาคารจึงถูกออกแบบให้อากาศภายนอกที่เติมเข้ามาในอาคารผ่านการกรองฝุ่นละออง ลดความชื้นและอุณหภูมิ ในปริมาณที่ทำให้แรงดันอากาศภายในอาคารสูงกว่าภายนอก เป็น Positive Pressure Building สามารถป้องกันและลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ที่อาจไหลเข้ามาภายในอาคารได้ดี รวมทั้งยังสามารถลดการสะสมของเชื้อโรคภายในอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้สามารถดูแลผู้ป่วยติดเชื้อต่างๆ ได้ดีโดยไม่รบกวนผู้ป่วยทั่วไปที่เข้ามาใช้บริการ

รวมทั้ง  คุณภาพอากาศ และความสะอาดในอาคารยังมีความปลอดภัยต่อสุขภาพของบุคลากรของโรงพยาบาลทุกคน แม้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโรค Covid-19 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่โรงพยาบาลเริ่มเปิดให้บริการเป็นปีแรก

ตอกย้ำความยั่งยืนของธุรกิจ รพ.เอกชน 

ทั้งนี้  ส่วนของบริษัท โรงพยาบาลมหาชัย จำกัด (มหาชน) หรือ M - CHAI ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ โรงพยาบาลเมดพาร์ค ตอกย้ำความสำเร็จในการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ด้วยการคว้ารางวัล 'หุ้นยั่งยืน SET ESG Rating' ประจำปี 2566 ด้วยเรตติ้งสูงสุดระดับ AAA ประเภทกลุ่มธุรกิจบริการ (Services) นับเป็นโรงพยาบาลแรกในตลาดหลักทรัพย์ที่ได้รับรางวัลนี้ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2562

รางวัล SET ESG Ratings เป็นผลการประเมินหุ้นยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดทำขึ้นจากการประเมินข้อมูลผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน มีการนำแนวความคิดที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และสังคมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจ รวมถึงมีการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG)

การประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings เป็นการสะท้อนถึงความเข้มแข็ง และการเติบโตอย่างยั่งยืนกลุ่มธุรกิจประเภทต่างๆ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกซึ่งนักลงทุนนำไปใช้เป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจพิจารณา และวิเคราะห์การลงทุนที่มีคุณภาพ

โดยในปี พ.ศ.2566 นี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้เปลี่ยนชื่อรางวัล 'หุ้นยั่งยืน Thailand Sustainability Investment : THSI' เป็น 'หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings' พร้อมทั้งมีการประกาศผลการประเมินใหม่ในรูปแบบ รายชื่อบริษัทจดทะเบียน และแบ่งระดับการประเมินผลคะแนนแบบ SET ESG Ratings ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ AAA, AA, A และ BBB เป็นปีแรก

ในปีนี้มีบริษัทจดทะเบียนได้รับการคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จำนวน 193 บริษัท โดยมีบริษัทที่ได้เรตติ้งจากการประเมินสูงสุดระดับ AAA (ซึ่งมีผลรวมจากการประเมิน 90 – 100 คะแนน) จำนวน 34 บริษัท เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจด้านการบริการ (Services) จำนวน 5 บริษัท หนึ่งในนั้นคือ บริษัท โรงพยาบาลมหาชัย จำกัด (มหาชน) หรือ M- CHAI ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ โรงพยาบาลเมดพาร์ค 

'หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings' ได้รับเรตติ้งสูงสุด AAA

สำหรับ บริษัท โรงพยาบาลมหาชัย จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจบริการด้านสุขภาพ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 โดยใช้ชื่อ M – CHAI ได้รับคัดเลือกให้รับรางวัล 'หุ้นยั่งยืน Thailand Sustainability Investment : THSI'ครั้งแรกในปี พ.ศ.2562 และได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่องมาตลอดทุกปี ซึ่งในปี พ.ศ.2566 นี้ บริษัท โรงพยาบาลมหาชัย จำกัด (มหาชน) หรือ M – CHAI ยังคงได้รับรางวัลอันทรงคุณค่า 'หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings' โดยได้รับเรตติ้งสูงสุดระดับ AAA ถือเป็นโรงพยาบาลแรกในตลาดหลักทรัพย์ ที่ได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่องมาถึง 5 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2562 สะท้อนถึงการเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ให้ความสำคัญในการสร้างผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง มีความโดดเด่นในการนำแนวคิดและกลยุทธ์มาพัฒนาธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันที่เต็มไปด้วยปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งปัจจัยภายในประเทศ และต่างประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการบริหารจัดการองค์กร พัฒนาการให้บริการผู้ป่วย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากร และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในกลุ่มธุรกิจการให้บริการ ควบคู่ไปกับการมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ซึ่งสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ในพิจารณาประเมินผล 'หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings' นับเป็นรางวัลทรงเกียรติและถือเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้บริษัท มีความมุ่งมั่นพัฒนาความเป็นเลิศทางธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติต่อไป

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน โรงพยาบาลเมดพาร์ค ยังคงมุ่งเน้น และรักษามาตรฐานอาคารสีเขียว ให้ความสำคัญต่อนโยบายความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ไปพร้อมๆ กับการมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานการให้บริการแก่คนไข้ที่เข้ามาใช้บริการต่างๆ ภายในโรงพยาบาลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความปลอดภัย ได้รับความสะดวกสบาย รู้สึกประทับใจ ตลอดจนได้รับการรักษาปัญหาด้านสุขภาพ โดยเฉพาะโรคยากและซับซ้อนอย่างดีที่สุด และเดินทางกลับสู่อ้อมกอดของสมาชิกครอบครัวได้เร็วที่สุด

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์