เมื่อโลกหมุนเร็วเกินกว่าจะรู้คำตอบ โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา

จุดเริ่มต้น ผู้นำที่มี Cultivating Growth พวกเขาไม่ยึดติดกับความสำเร็จในอดีต พวกเขากล้ารับบทบาทที่ยังไม่พร้อม แทนที่จะรอจนกว่าจะพร้อม 100 % พวกเขาเริ่มต้นที่ 70 % และเรียนรู้ไปพร้อมกับทำไป
สิบปีก่อน ภาพของผู้นำที่ดี ดูค่อนข้างชัดเจน เขาคือคนที่เก่งที่สุดในห้อง รู้มากที่สุด ตัดสินใจได้เร็วที่สุด มีประสบการณ์มากที่สุด องค์กรให้คุณค่ากับความเชี่ยวชาญและความสามารถในการควบคุมและสั่งการ
แต่โลกวันนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป เทคโนโลยีใหม่เข้ามา การแข่งขันใหม่ผุดขึ้น พฤติกรรมผู้บริโภคพลิกกลับแบบ 180 องศา ทุกอย่างที่เคยรู้ เคยเชี่ยวชาญ เคยใช้ได้ผล ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้อีกต่อไป
คำตอบอยู่ที่การเปลี่ยนบทบาท จาก “คนที่รู้คำตอบ” ไปเป็น “คนที่สร้างสภาพแวดล้อมให้ทุกคนเรียนรู้และหาคำตอบไปด้วยกัน”
นี่คือจุดกำเนิดของสิ่งที่เราเรียกว่า IMPACT Leadership ซึ่งหนึ่งในบทบาท-สำคัญคือ Transformer - ผู้นำที่ไม่ได้แค่ปรับตัวเอง แต่เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมรอบตัวให้เติบโตไปด้วย หัวใจสำคัญของ Transformer อยู่ที่ความสามารถที่เรียกว่า Cultivating Growth
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
หมดยุคที่ 'ผู้นำ' เก่งคนเดียว โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
บทเรียนการเป็นผู้นำที่กล้าเปลี่ยนโลก โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
ทำให้ตนเอง คนรอบตัว องค์กรเติบโตแท้จริง
ความจริงแล้ว การเติบโตที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากการ “รู้” มากขึ้น แต่เกิดจากการ “เปลี่ยนแปลง” ได้จริง Cultivating Growth ไม่ได้พูดถึงการสะสมความรู้ แต่พูดถึงความสามารถของผู้นำในการแสวงหาและใช้ประสบการณ์ที่เปลี่ยนมุมมอง เพื่อทำให้ตนเอง คนรอบตัว และองค์กรเติบโตอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ยุ่งขึ้นหรือทำงานหนักขึ้น
ลองนึกถึงช่วงเวลาที่คุณเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในชีวิต มันมักไม่ใช่ตอนที่คุณนั่งเรียนในห้องเรียน แต่เป็นตอนที่คุณต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่เคยเจอมาก่อน ตอนที่คุณล้มเหลว ตอนที่คุณต้องก้าวออกจากโซนที่สบาย ตอนที่คุณรับฟังสิ่งที่ไม่อยากได้ยิน
นั่นคือประสบการณ์ที่เปลี่ยนมุมมอง และนั่นคือสิ่งที่ Cultivating Growth พยายามสร้าง
Cultivating Growthไม่ยึดติดความสำเร็จอดีต
เอ๋ อายุสี่สิบห้า เป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายมาสิบปี ทุกปีทำยอดได้ทุกปี มีทีมที่แข็งแรงและวิธีการที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว
แต่แล้วองค์กรต้องการให้เธอไปดูแลฝ่ายดิจิทัล สิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน สิ่งที่ไม่ถนัด สิ่งที่มีโอกาสล้มเหลวสูง
ผู้นำหลายคนจะหาทางปฏิเสธ จะยึดติดกับความสำเร็จในอดีต จะบอกว่า “ฉันทำดีอยู่แล้วที่นี่ ทำไมต้องไปเสี่ยง”แต่ผู้นำที่มี Cultivating Growth จะเห็นอีกมุม
เอ๋ เห็นโอกาสที่จะเรียนรู้ เห็นโอกาสที่จะเติบโต เห็นว่าถ้าองค์กรกำลังเปลี่ยน ตัวเธอเองก็ต้องเปลี่ยนด้วย
นี่คือจุดเริ่มต้น ผู้นำที่มี Cultivating Growth จะมีลักษณะร่วมกันบางอย่างที่สังเกตได้ชัด เช่น
พวกเขาไม่ยึดติดกับความสำเร็จในอดีต ความภูมิใจในสิ่งที่ทำได้มาไม่ได้หมายความว่าต้องทำแบบนั้นตลอดไป
พวกเขากล้ารับบทบาทที่ยังไม่พร้อม แทนที่จะรอจนกว่าจะพร้อม 100 % พวกเขาเริ่มต้นที่ 70 % และเรียนรู้ไปพร้อมกับทำไป
พวกเขาเปิดรับ feedback อย่างจริงใจ แม้จะเจ็บปวด แม้จะไม่อยากได้ยิน เพราะรู้ว่านั่นคือทางเดียวที่จะรู้จุดบอดของตัวเอง
พวกเขามองความผิดพลาดเป็นข้อมูล ไม่ใช่ความอับอาย เมื่อล้มเหลว พวกเขาถามว่า “เราเรียนรู้อะไร” ไม่ใช่ “ใครควรโดนโทษ”
และที่สำคัญที่สุด พวกเขาไม่ได้แค่พัฒนาตัวเอง แต่สร้างวัฒนธรรมให้การเรียนรู้กลายเป็นเรื่องปกติของทีม
หัวหน้าต้องเรียนรู้ทุกอย่าง(learn-it-all)
ปี 2014 Microsoft กำลังอยู่ในภาวะที่คนในวงการเรียกว่า “แข็งแรงแต่เชื่องช้า” บริษัทยังทำกำไรได้ดี แต่ทุกคนรู้สึกว่ามันกำลังสูญเสียความเฉียบคม วัฒนธรรมภายในเต็มไปด้วยการแข่งขันระหว่างทีม ผู้คนพยายามพิสูจน์ว่าตัวเองรู้มากที่สุด แทนที่จะเรียนรู้ร่วมกัน
เมื่อ Satya Nadella ขึ้นมาเป็น CEO เขาเริ่มเปลี่ยนวิธีคิดขององค์กร จาก “หัวหน้าต้องรู้ทุกอย่าง” (know-it-all) ไปเป็น “หัวหน้าต้องเรียนรู้ทุกอย่าง” (learn-it-all)
“ถ้าคุณคิดว่าคุณรู้ทุกอย่างแล้ว คุณก็จะหยุดเรียนรู้” เขาพูดในการประชุมผู้นำครั้งแรก “และเมื่อคุณหยุดเรียนรู้ โลกก็จะทิ้งคุณไว้ข้างหลัง”
แต่สิ่งที่ทรงพลังกว่าคำพูดคือการกระทำของเขาเอง Nadella เริ่มเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ อย่างเปิดเผย เขาเข้าร่วมโปรแกรมที่ตัวเองไม่เชี่ยวชาญ เขาขอ feedback จากคนในระดับต่างๆ ไม่ใช่แค่ผู้บริหารระดับสูง เขาพูดถึงความผิดพลาดของตัวเองและสิ่งที่ได้เรียนรู้จากมัน
ผลที่ตามมาไม่ได้เกิดขึ้นในคืนเดียว แต่เมื่อเวลาผ่านไป คนใน Microsoft เริ่มเปลี่ยน
พวกเขาเริ่มยอมรับว่าไม่รู้ เริ่มขอความช่วยเหลือ เริ่มทดลองสิ่งใหม่ๆ โดยไม่กลัวว่าจะดูโง่ เริ่มแบ่งปันบทเรียนจากความล้มเหลว
ทีมต่างๆ เริ่มร่วมมือแทนที่จะแข่งขัน นวัตกรรมใหม่ๆ เริ่มเกิดขึ้น องค์กรเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น
และผลลัพธ์ไม่ได้อยู่แค่ในเรื่องวัฒนธรรม ราคาหุ้นของ Microsoft พุ่งขึ้นจากประมาณ 40 เหรียญเป็นมากกว่า 300 เหรียญในเวลาไม่ถึงสิบปี บริษัทกลับมาเป็นหนึ่งในบริษัทที่ทรงคุณค่าที่สุดในโลก
นี่คือภาพของ Cultivating Growth ที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่แค่แนวคิดสวยงามบนหนังสือหรือสไลด์งานนำเสนอ
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ มันเริ่มต้นจากผู้นำคนเดียวที่เลือกที่จะเติบโต
ข่าวดีคือ คุณไม่จำเป็นต้องเป็น CEO ของบริษัทระดับโลกก่อนถึงจะสร้าง Cultivating Growth ได้ เพราะมันเริ่มจากพฤติกรรมเล็กๆ แต่สม่ำเสมอเท่านั้น







