เกษตรฯส่งความสุขเกษตรกรทั่วประเทศรับ ปี 69 มูลค่ากว่า 27.7 ล้านบาท

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า  โครงการ ส่งความสุขปีใหม่ ให้เกษตรกร พ.ศ. 2569” ในปีนี้มุ่งเน้นวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการ คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากเพื่อเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายให้แก่ประชาชน อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและเป็นการเปิดประสบการณ์ พร้อมสร้างความรู้ให้แก่สาธารณชน โดยได้รับความร่วมมือจาก 22 หน่วยงานในสังกัด ร่วมกันขับเคลื่อนกิจกรรมในช่วงเดือนธันวาคม 2568 ถึงมกราคม 2569 ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ได้รับประโยชน์รวมกว่า 407,564 ราย และคิดเป็นมูลค่ากว่า 27.7 ล้านบาท

ทั้งนี้ โครงการส่งความสุขปีใหม่ มอบให้เกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำปี พ.ศ. 2569 มีรายละเอียดแบ่งออกเป็น 3 มิติหลัก ดังนี้

1) มอบของขวัญเกษตรกรไทย มีกิน มีใช้ มีรายได้พอเพียง เน้นการสนับสนุนปัจจัยการผลิตเพื่อลดต้นทุนและสร้างความมั่นคงในอาชีพ เช่น การมอบพันธุ์สัตว์น้ำให้แก่เกษตรกรใน จำนวน 50 ถุง ถุงละ 1,000 ตัว/ราย ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด จำนวน 37 จังหวัด และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง จำนวน 2 แห่ง รวมทั้งสิ้น 39 แห่ง การยกระดับเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ การบริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ การออกหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทร์ทราบรมราชชนนี เพื่อดูแลสุขภาพสัตว์และฉีดวัคซีนฟรี รวมถึงการส่งมอบโครงการฝายทดน้ำ โครงการพนังกั้นน้ำในจังหวัดชุมพร กำแพงเพชร และนราธิวาส และระบบจัดการน้ำ และให้แก่ประชาชน

2) เพิ่มสุขปีใหม่ เที่ยวทั่วไทย สุขใจไปกับกระทรวงเกษตรฯ โดยเปิดแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและสถานที่ราชการให้ประชาชนเข้าชมฟรีหรือในราคาพิเศษช่วงเทศกาล อาทิ เปิดสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ (อควาเรียม) และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งในความดูแลของกรมประมง จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ พิจิตร พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นครสวรรค์ พะเยา สกลนคร จันทบุรี สมุทรสาคร พังงา และกระบี่ ให้บริการประชาชนได้เข้าชมฟรี ในช่วงระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2568 – 15 มกราคม 2569 

 การจัดกิจกรรม “Silk & Chill ทริปนี้มีไหม” ท่องเที่ยวเส้นทางหม่อนไหมในชุมชน 11 จังหวัด เปิดบ้านฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค จ.สระบุรี จัดเต็มกิจกรรมนั่งรถรางชมฟาร์ม เยี่ยมชมโรงงานผลิตนม ทดลองรีดนมแม่โค ป้อนนมลูกวัว ชมคาวบอยโชว์ ขี่ม้า ขับรถ ATV นั่งพักผ่อนที่ Milk Land Café และพบกับต้นคริสต์มาสยักษ์จากเครื่องจักสานไทย “WISDOM KING CHRISTMAS TREE” พร้อมเปิดเส้นทาง “Wisdom King Farm” เพลิดเพลินกับกิจกรรมและแหล่งเรียนรู้มากมาย อาทิ ร้านกาแฟอินทรีย์ สะพานไม้สีสันสวยงามเดินชมวิวท่ามกลางทุ่งนา การทำนาอินทรีย์โยนกล้า นั่งรถเที่ยวชมแปลง

เกษตรกับกิจกรรมท่องเที่ยววิถีเกษตรไทย ชมนิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์กษัตริย์ เกษตร (Mado Pavilion) และร่วมกิจกรรม Workshop D.I.Y. ภายในพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา ณ สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) จ.ปทุมธานี อีกทั้ง เปิดสถานที่ราชการปรับภูมิทัศน์รองรับนักท่องเที่ยว พร้อมบริการจุดพักรถ อาหารว่างและเครื่องดื่ม ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำปางอุ๋ง (แม่ฮ่องสอน) เขื่อนแม่กลอง (กาญจนบุรี) เขื่อนน้ำอูน (สกลนคร) และอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา (ปราจีนบุรี) เป็นต้น

พร้อมสัมผัสวิถีเกษตรสร้างสรรค์ ชมการแปรรูปเส้นใยจากเฮมพ์ จิบชาดอกกาแฟ การสาธิตกาแฟคั่วมือ และสนับสนุนต้นพันธุ์พืช เมล็ดพันธุ์ผักสวนครัว ในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตรัง นครศรีธรรมราช สุพรรณบุรี อุดรธานี และขอนแก่น รวมถึงการจัดงาน “สานศิลป์ สานสุข สานใจไทย”ถวายพระพันปีหลวง ณ ณ บางไทร ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมชมทัศนียภาพแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงที่กว้างที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ท่าชัยยุทธ นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้เปิดพื้นที่ให้ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในบ้านพักพิงสุนัขจรจัดภูเก็ต ร่วมทำบุญบริจาคอาหาร ทำความสะอาด และจูงสุนัขเดินเล่น รวมถึงบริการรถรางชม Buffalo Factory Farm และฟาร์มผึ้งมิตรภาพ ณ จังหวัดสมุทรสาคร

3) เสริมพลังปีใหม่ จำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ สินค้าเกษตรคุณภาพ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดและส่งมอบสินค้าคุณภาพถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ผ่านช่องทาง Fisherman Shop @ Bang Khen แพลตฟอร์ม Fisheries Shop by Fisherman และร้านค้าสวัสดิการกรมปศุสัตว์ Livestock Farm Outlet จำหน่ายผลิตภัณฑ์ประมงและปศุสัตว์คุณภาพดี
อีกทั้งจัดแคมเปญ “ส่งสุขปีใหม่ By ของขวัญชิ้นเอก” ผ่านเว็บไซต์ ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com ซึ่งรวบรวมสินค้าอัตลักษณ์ท้องถิ่นจากทั่วประเทศมาให้เลือกซื้อเป็นของขวัญในราคาพิเศษ

“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะช่วยส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้กับพี่น้องเกษตรกรและประชาชนไทยทุกคน ไม่เพียงแต่ในมิติของตัวเงินหรือปัจจัยการผลิตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างทัศนคติที่ดีและความร่วมมือที่เข้มแข็งในการพัฒนาภาคการเกษตรของไทยให้ยั่งยืนต่อไป” นายวิณะโรจน์ กล่าว