กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมจิตอาสาพัฒนา จ.พระนครศรีอยุธยา

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการ จิตอาสาพัฒนา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ “เราทำความดี ด้วยหัวใจ”เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2568 โดยมี นายกฤษ อุตตมะเวทิน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์โครงการฯพร้อมด้วย นายวรวิทย์ ยอแสง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะผู้บริหาร และบุคลากรหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า

ตลอดระยะเวลา 70 ปี แห่งการครองราชย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงปฏิบัติตามพระราชปณิธาณ ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ ด้วยพระราชวิริยอุตสาหะ เพื่อให้พสกนิกรของพระองค์มีความผาสุกร่มเย็น และ มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงพระกรุณาพระราชทาน “ศาสตร์พระราชา” เพื่อเป็นแนวทางให้ราษฎรพึ่งพาตนเองได้อย่างเข้มแข็ง ยั่งยืน โดยมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากกว่า 5,000 โครงการ

โดยกิจกรรมในวันนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 500 คน ร่วมกันทำความสะอาดปรับปรุงภูมิทัศน์ บริเวณสวนพฤกษศาสตร์และสมุนไพรเพื่อเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ให้กับประชาชน เด็กนักเรียน และผู้ที่สนใจ เพื่อสานต่อแนวพระราชดำริ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อให้พื้นที่มีสภาพแวดล้อมสะอาด สวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมทั้งปล่อยพันธุ์ปลาบริเวณศาลาท่าชัยยุทธ อีกด้วย

ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อสนองตามพระราชปณิธานในการ “สืบสาน รักษา ต่อยอด” ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราโชบาย การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านการขยายผลโครงการจิตอาสาพระราชทานมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการบูรณาการความร่วมมือในทุกภาคส่วน โดยมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นหนึ่งโครงการสำคัญที่ถือกำเนิดขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ของราษฎรไทย สร้างโอกาสทางอาชีพ ทรงมีพระราชดำริให้รวบรวมความรู้ งานหัตถกรรมพื้นบ้าน และยกระดับคุณภาพความเป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น