เต็ดตรา แพ้ค มุ่งเป้า Unlocking Growth ให้ลูกค้า ร่วม THAIFEX Anuga Asia 27-31 พ.ค. 68

การผลิตสินค้าออกสู่ตลาดเพื่อตอบสนองผู้บริโภค นอกจาก "คุณภาพ" ของสินค้าที่ดี กลยุทธ์ที่โดดเด่น ราคาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ "บรรจุภัณฑ์" ถือเป็นอีกหมัดฮุกสำคัญ เพราะเปรียบเป็นสิ่งที่สื่อสารด่านแรก ที่กวักมือ ดึงดูดผู้บริโภคให้ตัดสินใจซื้อ และลองบริโภค

บรรจุภัณฑ์มีหลากหลายประเภทในท้องตลาด ทว่า หากจับ "เทรนด์แห่งอนาคต" กระแสรักษ์โลก ผู้ผลิต ผู้บริโภค มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน "บรรจุภัณฑ์กระดาษ" เข้ามาตอบโจทย์ดังกล่าวมากขึ้น

เต็ดตรา แพ้ค ผู้เล่นสำคัญในด้านเทคโนโลยีด้านกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์ ที่ยืนหยัดในตลาดโลกยาวนาน 7 ทศวรรษ และยังมีฐานทัพธุรกิจในประเทศไทยกว่า 40 ปี ให้บริการลูกค้าหลากหลาย ในกลุ่ม "อาหารและเครื่องดื่ม"

ปี 2568 "เต็ดตรา แพ้ค" ยังคงมุ่งปลดล็อกศักยภาพธุรกิจสร้างการเติบโตให้กับ "ลูกค้าพันธมิตร" อย่างต่อเนื่อง และปีนี้จะเห็นการกลับไปนำเสนอ "จุดแข็ง" พร้อมบอกเล่า "เทรนด์ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม" เพื่อเป็นเข็มทิศให้ลูกค้า ภายในงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำของเอเชีย หรือ THAIFEX - ANUGA ASIA 2025

นวัตกรรม กุญแจปลดล็อกธุรกิจโต

เต็ดตรา แพ้ค ผู้นำด้านโซลูชันบรรจุภัณฑ์ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ขยายความคือตั้งแต่ processing packaging ไปจนถึงการบรรจุกล่องลัง เพื่อกระจายสินค้า สุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด ฉายภาพองค์กร 70 ปีในระดับโลก การคร่ำหวอดในธุรกิจมายาวนาน ตอบโจทย์ลูกค้าหลายประเทศ รวมถึงไทย จุดแข็งของเต็ดตรา แพ้ค คือการให้ความสำคัญกับนวัตกรรม เพื่อสร้างความสำเร็จให้กับลูกค้า เราเชื่อว่านวัตกรรมคือกุญแจปลดล็อกการเจริญเติบโตธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจของลูกค้า และนวัตกรรมจะไม่มีประโยชน์หากไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ 

อีกจุดเด่นคือการมี โซลูชันครบวงจร หรือ End - to - End provider ชนิดที่ ลูกค้าเดินมาหา เต็ดตรา แพ้ค ด้วยโจทย์ที่มี บริษัทฯ พร้อมช่วยเหลือให้คำปรึกษา ดำเนินการจัดการให้ได้อย่างครบครัน เช่น การพัฒนาสินค้าอาหารและเครื่องดื่มในประเภทต่างๆ (category) ต้องการบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กใหญ่ หรือมีฝาปิดฯ แม้กระทั่งลูกค้าที่ต้องการขยายธุรกิจออกไปยังกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มใหม่ๆ หรือเติมพอร์ตโฟลิโอให้แข็งแกร่ง

"เรามั่นใจว่าเรามีศักยภาพสูง ในการช่วยปลดล็อกการเจริญเติบโตของธุรกิจ หรือ Unlocking Growth ให้กับลูกค้า"

เจาะเทรนด์ - ขุมทรัพย์แห่งโอกาส

โลกธุรกิจเต็มไปด้วย "ขุมทรัพย์แห่งโอกาส" แต่ก็มาพร้อมความท้าทาย เพื่อเป็น "เข็มทิศ" นำทางเคลื่อนธุรกิจ เจาะกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ "คลังข้อมูล" หรือ Big Data ถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่ง "เต็ดตรา แพ้ค" มีบริการดังกล่าวให้กับลูกค้าด้วย เช่น การวิจัยตลาดและผู้บริโภคไปสู่ "เทรนด์ดิพีเดีย" รายงานเทรนด์ผู้บริโภคทั่วโลกที่นำเสนอทุก 2 ปี 

ในระยะอันใกล้ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่มาแรง ยกให้ 3 กลุ่ม ได้แก่ 

1. กลุ่มกาแฟพร้อมดื่ม (Ready to Drink : RTD Coffee) ที่กำลังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะเซกเมนต์ "พรีเมียม" แต่ต้องมาพร้อมความสะดวกสบาย รับไลฟ์สไตล์ On The Go ด้วย ทว่า ตลาดดังกล่าวยังไม่เห็น กาแฟพร้อมดื่มในบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษ ที่สร้างความแตกต่างบนชั้นวาง หรือตู้แช่ในร้านค้าต่างๆ เลย ต่างจากในประเทศอื่นๆ เช่น เกาหลี หรือฝั่งยุโรป แบรนด์ "TINE" สร้างยอดขายเติบโตสู่การเป็นผู้นำในตลาดนอร์เวย์และขยายไปยังประเทศแถบสแกนดิเนเวียด้วยบรรจุภัณฑ์ที่แตกต่าง

 2. เครื่องดื่มโปรตีนสูง (High Protein) ขานรับกระแสสุขภาพ การบริโภคโปรตีนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งตลาดนี้ สหรัฐและยุโรปเกิดมานาน ส่วนไทยกำลังเป็น "ขาขึ้น" จึงกระตุ้นให้ผู้ประกอบการคว้าโอกาส

3. อาหารพร้อมทาน (Ready - to - eat Food) ไม่เพียงสอดรับครัวไทยคือครัวของโลก แต่การผลิตอาหารยังป้อนกลุ่มเป้าหมายในประเทศและส่งออกสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วย

ส่วนเทรนด์ที่เด่นชัดจาก "เทรนด์ดิพีเดีย" ที่อื่นยังทรงอิทธิพลต่อตลาดและผู้บริโภค คือการใส่ใจสุขภาพที่ยังคงไปต่อ รวมทั้ง "การดูแลสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบต่อโลก" ที่จะส่งเสียงดังขึ้น และอีกเทรนด์ที่จะทำ New High ต่อเนื่องขึ้นเรื่อยๆ คือผู้บริโภครักความสะดวกสบายสูงสุด

"ความสะดวกสบายวันนี้ทำให้ผู้คนใช้ชีวิตง่ายแล้ว แต่อีก 3 เดือน หรือ 1 ปีข้างหน้า ต้องง่ายขึ้นยิ่งกว่า เพราะความต้องการของผู้บริโภคมีการพัฒนาตลอด"  

ส่องไฮไลต์บรรจุภัณฑ์เต็ดตรา แพ้ค ในงาน THAIFEX 

เต็ดตรา แพ้ค มองเห็นศักยภาพเทรนด์ตลาดอาหารและเครื่องดื่มมีแนวโน้มโต และงานใหญ่ THAIFEX - ANUGA ASIA 2025 จะมาถึงวันที่ 27 - 31 พฤษภาคม 2568 นี้ "เต็ดตรา แพ้ค" จึงได้จัดทัพนวัตกรรมเทรนด์ตัวอย่างพอร์ตโฟลิโอบรรจุภัณฑ์ไปเปิดบ้านย่อมๆ ให้ลูกค้าได้เห็นของจริง สำหรับไฮไลต์ที่นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์จากเต็ดตรา แพ้ค ที่จะอวดโฉมในงาน เช่น 

1. กล่อง Tetra Prisma® Aseptic พร้อมฝาปิด DreamCap™

บรรจุภัณฑ์ Tetra Prisma® Aseptic ที่ผสานเทคโนโลยีระดับโลกในการผลิตและบรรจุแบบปลอดเชื้อเข้ากับรูปทรงแปดเหลี่ยมของกล่องที่เป็นเอกลักษณ์ ด้านการออกแบบที่คำนึงถึงความสะดวกสบายในการบริโภค ช่วยยกระดับการสร้างภาพจำของแบรนด์ ให้การปกป้องผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างความแตกต่างในตลาดได้

ท่ามกลางเทรนด์ผู้บริโภครักษ์โลก ผู้ผลิตสินค้า เจ้าของแบรนด์มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน กล่องบรรจุภัณฑ์รุ่น Tetra Prisma® Aseptic ยังผลิตจากวัตถุดิบที่ผ่านการรับรองจากองค์การจัดการป่าไม้ หรือ Forest Stewardship Council™ (FSC™) จึงช่วยตอบโจทย์ด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและการตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคได้อย่างลงตัว

ส่วนฝาปิด DreamCap™ 26 ทำให้การพกพาสะดวกพร้อมการเปิดปิดในขั้นตอนเดียว เพื่อประสบการณ์การยกเครื่องดื่มดื่มได้สะดวกมากขึ้น ยังมีรายละเอียดการออกแบบบริเวณฝาให้มีลักษณะเป็นแอ่งเล็กๆ เพื่อทำให้สะดวกในการยกดื่ม ที่สำคัญตัวฝายังมีวงแหวนแสดงการเปิดใช้งานอย่างชัดเจน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้ายังไม่ถูกเปิดก่อนหน้านี้

2. กล่อง Tetra Recart® 

Tetra Recart® เป็นกล่องบรรจุภัณฑ์กระดาษชนิดแรกในโลกที่สามารถบรรจุอาหารชิ้นผ่านการนึ่งแบบฆ่าเชื้อ หรือแบบ Retort สามารถทนต่อความร้อนและความดันสูงได้ และบรรจุอาหารและเครื่องดื่มได้หลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ ซุป ซอส น้ำจิ้มและน้ำสลัด กะทิ อาหารสำเร็จรูป อาหารสำหรับทารก รวมไปถึงอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งสามารถเก็บรักษาคุณภาพของอาหารได้นานถึง 2 ปี ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภค ผู้ผลิตอาหาร ผู้ค้าปลีก ร้านค้าออนไลน์ หรือ E-Commerce และบริษัทขนส่งครบทุกมิติ ปัจจุบัน Tetra Recart® ได้รับความนิยมในหลายประเทศ หลากหลายหมวดสินค้าด้วย ส่วนไทยเริ่มมีผู้ประกอบการอาหารใช้แล้ว โดยเฉพาะผลิตอาหารเพื่อส่งออก

นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ยังมีกระดาษเป็นส่วนประกอบมากกว่า 2 ใน 3 ซึ่งกระดาษทั้งหมดที่ใช้เป็นกระดาษที่มีการรับรองโดย FSC™ บรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษไม่เพียงตอบโจทย์รักษ์โลก แต่ยังลดข้อจำกัดของบรรจุภัณฑ์บางประเภทที่เปิดฝายาก อาจเสี่ยงต่อการบาดนิ้วในเวลาเปิดหรือหากเปิดทิ้งไว้ เป็นต้น

เป็นคู่คิด สานภารกิจ Unlocking Growth

สุภนัฐ ย้ำว่า ภารกิจสำคัญของ เต็ดตรา แพ้ค ในการร่วมงาน THAIFEX คือการเป็น "คู่คิดที่ดี" เพื่อปลดล็อกการเติบโต หรือ Unlocking Growth ธุรกิจของลูกค้า สิ่งที่บริษัทเป็นกองหนุน หรือ Support ไม่เพียงเครื่องจักร กระดาษ แต่ยังมีส่วนอื่นๆ ที่พร้อมทำงานกับลูกค้าเพื่อเสริมความแกร่งด้วย เช่น บริการด้านการตลาด ที่พร้อมนำข้อมูลต่อยอดการเสาะแสวงหาโอกาสทางการตลาด การหา Demand Space ของผู้บริโภค ที่ 1 คน ยังมี "ช่องว่างการบริโภคไหน" ที่สามารถเติมเต็มให้ได้ เพื่อร่วมกัน "สร้างสรรค์สินค้าใหม่" ตอบสนองอย่างตรงจุด

นอกจากนี้ ยังมี "ศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้า" (Customer Innovation Centre - CIC) แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ หรือ CIC Bangkok เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 จะเป็นพื้นที่สำหรับการทำงานร่วมกันและสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาผลิตภัณฑ์และลดระยะเวลาการออกสู่ตลาด (Time - to - Market) และช่วยให้ธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เปลี่ยนไอเดียให้เป็นผลิตภัณฑ์ด้วยโซลูชันที่ล้ำสมัย

สำหรับศูนย์ CIC Bangkok มีกระบวนการให้บริการแบบครบวงจร 5 ขั้นตอน ได้แก่

1. นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่ตรงจุด (Insight Discovery) ที่จะเชิญลูกค้ามาทำการศึกษาและวิจัยเชิงลึก พูดคุยกันเพื่อทำความเข้าใจความซับซ้อนของตลาดและความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค

2. โปรแกรมเฉพาะเจาะลึกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มาแรง (Category Immersion) เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มระดับโลกและโอกาสทางการตลาดเพื่อพัฒนากลยุทธ์ธุรกิจที่เหมาะสม

3. ห้องแสดงนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ (Innovation Showcase) นำเสนอนวัตกรรมที่โดดเด่นจากทั่วโลก และพอร์ตโฟลิโอบรรจุภัณฑ์ของ "เต็ดตรา แพ้ค" เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์

4. พื้นที่สร้างสรรค์ไอเดีย (Co - creation Space) เพื่อค้นหาโอกาสใหม่ๆ ที่ช่วยให้แบรนด์สามารถคิดค้นและปรับปรุงไอเดียให้ตอบโจทย์ตลาด

5. ห้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวอย่าง (Prototyping) ที่พร้อมเปลี่ยนไอเดียให้กลายเป็นแบบผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่จับต้องได้อย่างรวดเร็วภายใน 1 - 2 วัน พร้อมรับฟีดแบ็กและพัฒนาต่อก่อนออกสู่ตลาดจริง

"เราไม่ได้ขายเพียงเครื่องจักรกับบรรจุภัณฑ์ แต่เรามีบริการด้านการตลาด บริการหลังการขาย พร้อมกับทีมงาน บุคลากรมากประสบการณ์ เพราะเต็ดตรา แพ้คอยู่ในตลาดมากว่า 70 ปี พร้อมจะพัฒนานวัตกรรมให้คำแนะนำแก่ลูกค้า สำหรับตัวบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษเอง ในวันนี้ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์แต่คือข้อพิสูจน์ที่เป็นจริง นอกจากปกป้องคุณภาพผลิตภัณฑ์ในกล่องอย่างดี ยังตอบโจทย์สิ่งแวดล้อมด้วย ที่สำคัญท่ามกลางสินค้าภายใต้บรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย หากสร้างความโดดเด่น สวย แตกต่างในตลาดได้ จะดึงดูดให้ผู้บริโภคอยากลองสินค้า ถ้าดื่มแล้วจับถนัดมือ สะดวก อร่อยด้วย จะทำให้เกิดการซื้อซ้ำ ซึ่งถือเป็นสเต็ปแรกที่เจ้าของแบรนด์ต้องทำให้ผู้บริโภคสะดุดตา เดินมาหน้าเชลฟ์ หยิบ ลอง ที่เหลือสินค้าจะเป็นตัวขับเคลื่อนต่อให้เกิดความต้องการต่อเนื่องต่อไป"

หากสนใจนวัตกรรมจาก "เต็ดตรา แพ้ค" ติดตามได้ คลิกที่นี่ และเยี่ยมชมได้ที่งาน THAIFEX - ANUGA ASIA 2025 พบกันที่บูธ Tetra Pak (UU01) บริเวณทางเข้า Entrance 1 ที่ IMPACT Challenger Hall 1 ในวันที่ 27 - 31 พฤษภาคม 2568