แมริออทฯ ได้รับการรับรองจาก SBTi เข้าใกล้เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

แมริออทฯ ได้รับการรับรองจาก SBTi เข้าใกล้เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

"แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล" ฉลองความสำเร็จอีกขั้นบนเส้นทางความยั่งยืน ล่าสุดได้รับการรับรองจาก Science Based Targets initiative (SBTi) ถึงการเข้าใกล้เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ MAR ได้รับการรับรองถึงการเข้าใกล้เป้าหมายในการ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยโครงการกำหนดเป้าหมายโดยอิงหลักวิทยาศาสตร์ หรือ Science Based Targets initiative หรือ SBTi ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม โดยได้พัฒนาเครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas หรือ GHG) ให้สอดคล้องกับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ โดยแมริออทฯ เป็นบริษัทด้านการต้อนรับและบริการระดับโลกที่ได้รับการรับรอง ทั้งเป้าหมายตามหลักวิทยาศาสตร์ระยะสั้นและระยะยาว

บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งแบบ Scope 1 และ Scope 2 ลง 46.2% ภายในปี 2573 เทียบกับปี 2562 นอกจากนี้ยังมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแบบ Scope 3 จากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงและพลังงาน ขยะที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงาน การเดินทางไปทำงานของพนักงาน และแฟรนไชส์ ลง 27.5% ภายในปี 2573 เทียบกับปี 2562 และภายในปี 2571 คู่ค้าธุรกิจ 22% ของบริษัทฯ จะต้องมีเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยอิงหลักวิทยาศาสตร์ ครอบคลุมสินค้าและบริการที่ซื้อ สินค้าทุนหรือปัจจัยการผลิต การขนส่งและการกระจายสินค้า

แมริออทฯ มุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมาย การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าภายในปี 2593 โดย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แบบ Scope 1 และ Scope 2 ลง 90% ภายในปี 2593 เทียบกับปี 2562 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแบบ Scope 3 ลง 90% ภายในปี 2593 เทียบกับในปี 2562 เป้าหมายดังกล่าวครอบคลุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ประโยชน์ที่ดินและการกำจัดคาร์บอนโดยการใช้วัตถุดิบชีวภาพเป็นสารตั้งต้นเพื่อผลิตพลังงาน 

แอนโทนี่ คาปูอาโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการบริษัท แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ตลอดเกือบหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา แมริออทฯ มุ่งมั่นในหลักการสำคัญของเราในการรับใช้โลกใบนี้ไปพร้อมกับการที่เราพยายามเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ไม่ว่าเราจะดำเนินธุรกิจอยู่ที่ไหน

"ผลกระทบจาก ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กำลังปรากฏและเป็นที่รับรู้ได้ทั่วโลก ขณะที่เรายังคงเชื่อมโยงผู้คนผ่านพลังแห่งการเดินทาง เรามุ่งมั่นที่จะผลักดันการยกระดับด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญ และมีแรงขับเคลื่อนที่จะบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่นี้ให้ได้ การอนุมัติเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวของเรา เป็นผลมาจากการทำงานหนักและความทุ่มเทของทีมงานแมริออทฯ ทั่วโลกที่มุ่งมั่นสานต่อการดำเนินงานเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของเราและการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมการต้อนรับและบริการ"

เอริก้า โรส อเล็กซานเดอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการทั่วโลก แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า แมริออทฯ อยู่ระหว่างการเดินทางไปสู่เป้าหมายเพื่อ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในการปฏิบัติงานและห่วงโซ่อุปทานของเรา ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อธุรกิจและเป็นประโยชน์ต่อโลก

"Decarbonization หรือการลดคาร์บอนออกจากระบบจำหน่ายไฟฟ้าทั่วโลกเป็นองค์ประกอบสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เราร่วมมือกับบริษัทชั้นนำอื่นๆ เพื่อยกระดับความพยายามในการช่วยแก้ไขผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและรับผิดชอบด้วยการฝังความยั่งยืนให้อยู่ในทุกกระบวนการดำเนินงานของเรา"

เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ แมริออทฯ มุ่งเน้นความพยายามใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ การลดการใช้พลังงาน การใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น และการจัดซื้อสินค้าที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ ครอบคลุมโรงแรมในเครือทั้ง 8,800 แห่งใน 139 ประเทศ และอาณาเขตทั่วโลก

นอกจากนี้ ยังได้จัดโครงการและกิจกรรมสำคัญด้านความยั่งยืน ดังนี้

  • เปิดตัว Climate Action Program (CAP) ซึ่งเป็นแนวทางของบริษัทฯ ในการสร้างอนาคตที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการสร้างความรู้ความเข้าใจด้านสภาพภูมิอากาศ การแก้ไขความเสี่ยงด้านภูมิอากาศ และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วทั้งองค์กร
  • กำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและใช้พลังงานแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับโรงแรมที่บริษัทฯ บริหารจัดการเองและโรงแรมแฟรนไชส์ทั่วโลก
  • พัฒนาแพลตฟอร์ม Marriott Environment Sustainability Hub (MESH) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่โรงแรมสามารถบันทึกข้อมูลการใช้ไฟฟ้า น้ำ และการจัดการขยะรายเดือน ช่วยให้โรงแรมสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ปรับแต่งตามความต้องการเฉพาะเพื่อให้ลดการใช้พลังงานและก๊าซเรือนกระจกได้ง่ายขึ้น
  • เปิดตัว Energy Optimization Program โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ช่วยให้โรงแรมแต่ละแห่งสามารถบริหารจัดการต้นทุนด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้น ทั้งยังช่วยให้โรงแรมสามารถดำเนินการตรวจสอบประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (energy audit) เพื่อหาแนวทางในการประหยัดพลังงานมากขึ้น 
  • ร่วมมือกับคู่ค้าธุรกิจในการทำความเข้าใจและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • แบ่งปันข้อมูลด้านความยั่งยืนบนเว็บไซต์ Marriott ซึ่งรวมถึงข้อมูลปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของแต่ละโรงแรม

สำหรับกลยุทธ์ความยั่งยืนของ แมริออทฯ มุ่งเน้นไปที่หลากหลายวิธีการ เช่น การออกแบบโรงแรมที่ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อติดตามและลดการใช้น้ำและพลังงาน รวมถึงการลดขยะและเศษอาหาร การเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการขอใบรับรองความยั่งยืนจากหน่วยงานภายนอก เพื่อรับรองระดับการจัดการเพื่อความยั่งยืนของแต่ละโรงแรม การสนับสนุนโครงการฟื้นฟูระบบนิเวศอย่างยั่งยืน และการจัดซื้อสินค้าและบริการจากแหล่งที่มาที่รับผิดชอบและอยู่ภายในท้องถิ่น

ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals หรือ SDGs) แมริออทฯ ได้สร้างแพลตฟอร์มด้านความยั่งยืนและผลกระทบทางสังคม Serve 360 : Doing Good in Every Direction ซึ่งเป็นแนวทางของบริษัทฯ ในการสร้างผลกระทบเชิงบวกและยั่งยืนต่อปัญหาทางสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจที่สำคัญและเร่งด่วนของโลก ไม่ว่าบริษัทฯ จะดำเนินธุรกิจอยู่ที่ไหนในโลก สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Serve 360 ได้ที่ เว็บไซต์