"เครือซีพี" ติดอันดับ World’s Most Ethical Companies ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

"เครือซีพี" ติดอันดับ World’s Most Ethical Companies ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

"เครือซีพี" ติดอันดับ The 2023 World’s Most Ethical Companies ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

14 มีนาคม 2566 Ethisphere สถาบันชั้นนำด้านการวัดและประเมินมาตรฐานจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ ได้ประกาศผลการพิจารณาบริษัทที่มีจริยธรรมมากสุดในโลก ประจำปี 2566 (The 2023 World’s Most Ethical Companies) โดย เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ เครือซีพี ภาคธุรกิจจากประเทศไทยได้รับการพิจารณาติด 1 ใน 135 องค์กรของ 49 กลุ่มอุตสาหกรรม จาก 19 ประเทศ ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น "บริษัทที่ดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมมากสุดในโลก ประจำปี 2566" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มร่วมกับ 7 บริษัทชั้นนำ ประกอบด้วย Archer Daniels Midland Company, Brown-Forman Corporation, Grupo Bimbo, illycaffè, Kellogg Company, PepsiCo Inc. และ The Hershey Company โดยความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนถึงการได้รับการยอมรับและความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้เสียในระดับสากลต่อการเป็นบริษัทที่มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยหลักจริยธรรมและความรับผิดชอบ พร้อมสร้างคุณค่าเชิงบวกในทุกมิติอย่างครอบคลุมและต่อเนื่อง

นางสาวเอรีก้า ซัลมอน เบิร์น (Erica Salmon Byrne) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สถาบัน Ethisphere กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจโดยยึดมั่นในหลักจริยธรรมด้วยการวางแนวทางปฏิบัติ มีความสำคัญอย่างมากในการบริหารองค์กรให้เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เพียงยกระดับมาตรฐานองค์กร แต่ยังทำให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มเกิดการยอมรับและความไว้วางใจในการดำเนินธุรกิจขององค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมในระยะยาวอีกด้วย ทั้งนี้ขอแสดงความยินดีกับ เครือซีพี ที่ได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีจริยธรรมมากสุดในโลกประจำปี 2566 ถือเป็นผู้นำองค์กรต้นแบบในการสร้างแรงบันดาลใจและสะท้อนความทุ่มเทในการสร้างคุณค่าเชิงบวกให้กับผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่ได้อย่างแท้จริง 

\"เครือซีพี\" ติดอันดับ World’s Most Ethical Companies ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ผู้บริหารและพนักงานใน เครือซีพี มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการคัดเลือกจากสถาบัน Ethisphere ให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมมากสุดในโลก ประจำปี 2566 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 นับตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งในปีนี้เครือซีพี ได้รับการพิจารณาประเมินใน 5 ด้านสำคัญ โดยมีคะแนนโดดเด่นด้านภาวะผู้นำและการรักษาชื่อเสียงขององค์กร (Leadership & Reputation) รวม 93% ซึ่งเป็นสิ่งที่เครือซีพีให้ความสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรจาก Tone at the Top เพราะการทำธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน "ผู้นำ" มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายการกำกับดูแลกิจการ ในขณะเดียวกันยังได้รับการคัดเลือกจากผลการพิจารณาคะแนนในด้านการดำเนินงานทางจริยธรรมและการกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ (Ethics & Compliance Program) ด้านการสร้างวัฒนธรรมทางจริยธรรม (Culture of Ethics) ด้านการปกป้องผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสังคม (Environmental & Societal Impact : ESG) และด้านการกำกับดูแลกิจการ (Corporate Governance)

\"เครือซีพี\" ติดอันดับ World’s Most Ethical Companies ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

"ทั้งนี้ การได้รับการคัดเลือกดังกล่าว จึงเป็นสิ่งสะท้อนการบริหารองค์กรของเครือซีพีในการนำหลักจริยธรรมและการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ไปปรับใช้เป็นรูปธรรมจนสามารถวัดผลและประเมินผลได้ พร้อมกับการยึดมั่นในค่านิยมองค์กร ปรัชญา 3 ประโยชน์ และเป้าหมายยุทธศาสตร์ความยั่งยืนสู่ปี 2573 ที่ให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสียในทุกกลุ่ม ดังนั้น ก้าวต่อไปของเครือซีพีจะมุ่งมั่นพัฒนาการกำกับดูแลกิจการให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อนำไปสู่การเติบโตทั้งในด้านการดำเนินธุรกิจและมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ"

สำหรับ World’s Most Ethical Companies ในปีนี้ ถือเป็นการให้รางวัลครั้งที่ 17 ซึ่งมีการประเมินภายใต้ระบบ Ethics Quotient (EQ) โดยองค์กรต่างๆ จะได้รับคะแนนจากการให้ข้อมูลผ่านคำถามกว่า 200 ข้อ เกี่ยวกับวัฒนธรรม บทบาททางสิ่งแวดล้อมและสังคม บทบาททางจริยธรรม การกำกับดูแลกิจการ และการสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมที่แข็งแกร่ง ปัจจุบันมีบริษัทชั้นนำจากทั่วโลกเป็นเครือข่ายสมาชิกมากกว่า 300 บริษัททั่วโลก

\"เครือซีพี\" ติดอันดับ World’s Most Ethical Companies ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3