8 หุ้นอสังหาฯ-ก่อสร้าง เตรียมขายหุ้นกู้กว่า 2.1 หมื่นล้าน ลุยคืนหนี้-ตุนสภาพคล่อง ล็อคต้นทุน รับดอกเบี้ยขาขึ้น

ในปัจจุบันที่การลงทุนอยู่ใกล้ตัวใกล้แค่ปลายนิ้ว เราสามารถหาข้อมูลและเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสมแก่ตัวเองได้อย่างง่ายดาย ทำให้เรื่องการลงทุนเป็นเทรนด์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สมัยใหม่และเข้าถึงได้ไม่อยาก 

ที่ผ่านมาหลายอุตสาหกรรมเริ่มออกสินทรัพย์ให้เลือกกันมากขึ้น ที่มีกระแสในช่วงนี้เห็นจะเป็นหุ้นกู้ โดยเฉพาะในวงการอสังหาฯ เพื่อสอดรับกับดีมานด์โครงการก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชนที่กำลังจะมีการประมูลอย่างหนาแน่นในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 ซึ่งแต่ละตัวก็มีผลตอบแทนที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับการลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯที่ดูเหมือนจะเป็นช่วงขาลงและมีความผันผวนไม่น้อย 

• หมวดวัสดุฯ SCC เสนอขายหุ้นกู้สูงสุด 1.5 หมื่นล้านบาท

บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ซึ่งอยู่ในหมวดธุรกิจวัสดุก่อสร้าง เตรียมขายหุ้นกู้มูลค่าสูงสุดรอบนี้ ข้อมูลในไฟลิ่งระบุไม่เกิน 1.5 หมื่นล้านบาท อายุ 3 ปี 11 เดือน 28 วัน ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน แต่ยังไม่กำหนดอัตราดอกเบี้ยจ่าย โดยจะขายให้นักลงทุน 3 กลุ่ม คือ 1.ผู้ถือหุ้นกู้ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) วันที่ 1-7 ก.ย.นี้ 2.ผู้ถือหุ้นกู้ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) และ/หรือ บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) และ/หรือ บมจ.เอสซีจี เคมิคอลส์  (SCGC) วันที่ 26-28 ก.ย.นี้ และ 3.นักลงทุนทั่วไป ขายวันที่ 29-30 ก.ย.นี้

สำหรับวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ จะนำไปชำระคืนหุ้นกู้ชุดเดิม (SCC220A) ที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดย SCC ถูกจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating)โดย บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่ง เครดิตเรทติ้งองค์กรและหุ้นกู้ อยู่ที่ A+ (tha)

• หมวดรับเหมา RT-TPOLY เสนอขายหุ้นกู้รวม 2,360 ล้านบาท 

ด้านหมวดธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง บมจ.ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง (RT) เสนอขาย 2 ชุด ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.25% ต่อปี และ ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี ดอกเบี้ย 5.75% ต่อปี รวมมูลค่าหุ้นกู้ทั้งสิ้นไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน 

หุ้นกู้ RT จะเสนอขายให้กับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่วันที่ 8 - 10 ส.ค.นี้ โดยได้รับการจัดอันดับเครดิตเรทติ้งจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ซึ่งมีเรทติ้งองค์กรอยู่ที่ระดับ BBB- 

สำหรับวัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้จะนำเงินไปลงทุนโครงการใหม่, ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และ ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน

โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ และผู้ร่วมจัดจำหน่ายฯ ทั้งหมด 8 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)

อีกบริษัทในหมวดธุรกิจนี้คือ บมจ.ไทยโพลีคอนส์ (TPOLY) เสนอขายหุ้นกู้ 360 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 5.25% ต่อปี อายุ 2 ปี 7 เดือน จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยเสนอขาย 8 - 10 ส.ค.นี้เช่นกัน ซึ่ง TPOLY มีเครดิตเรทติ้งองค์กรจาก "ทริส" ระดับ BBB- 

• 5 ผู้พัฒนาอสังหาฯ เสนอขายหุ้นกู้รวม 3,700 ล้านบาท

สำหรับหมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เตรียมขายหุ้นกุ้รวม 5 บริษัท มูลค่ารวม 3,700 ล้านบาท โดย บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) มูลค่าระดมทุนสูงสุด 2,100 ล้านบาท อายุ 2 ปี 6 เดือน จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ซึ่งจ่ายดอกเบี้ยเป็นขั้นบันใดคือ ปีที่ 1 จ่าย 6.8%, ปีที่ 2 จ่าย 7% และหลังจากปีที่ 2 จนครบอายุหุ้นกู้จ่าย 7.25% การระดมทุนครั้งนี้ส่วนใหญ่นำไปชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ชุดเดิม (PF229A,PF220A)

ส่วน บมจ.ดีเฮ้าส์พัฒนา (DHOUSE) มูลค่าระดมทุนต่ำสุด เพียง 120 ล้านบาท อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยระดับ 7% จ่ายทุก 3 เดือนเช่นกัน ซึ่งจะขายระหว่างวันที่ 15 - 17 ส.ค.นี้ วัตถุประสงค์การระดมทุนเพื่อนำไปลงทุนโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาและที่เหลือใช้หมุนเวียนในธุรกิจ

 

• วงการชี้ บจ.เร่งออกหุ้นกู้ล็อคต้นทุน รับดอกเบี้ยขาขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ช่วงครึ่งหลังปี 65 จะมีหุ้นกู้ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อล็อกต้นทุนในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย เพื่อให้สมดุลกับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงอย่างมีนัยสำคัญ อีกปัจจัยที่ออกหุ้นกู้มากขึ้นช่วงนี้เนื่องจากต้องเตรียมเงินทุนชำระคืนหนี้หรือหุ้นกู้ที่ใกล้จะครบกำหนดชำระ รวมถึงบางส่วนระดมทุนเพื่อนำมาหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องในบริษัท

ด้าน "ดร.สมจินต์ ศรไพศาล" กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยในงานเสวนาออนไลน์หัวข้อ “จัดทัพลงทุน ฝ่าวิกฤติเงินเฟ้อ” ว่า ปี 65 จะมี "หุ้นกู้" ครบกำหนดอายุราว 734,174 ล้านบาท เป็นหุ้นกู้ครบดีลช่วงครึ่งปีแรก 407,695 ล้านบาท โดยช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย. 65) มีการออกหุ้นกู้ใหม่สูงถึง 660,121 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 27% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) คิดเป็นสัดส่วน 64% ของมูลค่าการออกทั้งปี 64

เช่นเดียวกับ “ดร.วิน อุดมรัชตวณิชย์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เคทีบีเอสที โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานเสวนาเดียวกันนั้นว่า เคทีบีเอสที มีมุมมองช่วงครึ่งปีหลัง 2565 คาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจโลกจะเป็น softlanding สิ้นปีนี้ คาดดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อยู่ที่ 3.5% ดอกเบี้ยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ 1.25% จีดีพีสหรัฐโต 2.33% แม้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิค และจีดีพีไทยโต 2.54% สำหรับการลงทุนครึ่งปีหลัง 65 ต่อเนื่องถึงครึ่งปีแรก 2566 “แนะนำลงทุนในตราสารหนี้” หุ้นตลาดเกิดใหม่ ในเอเชียและอาเซียน (ไทย อินโดนีเซีย มีปัจจัยพื้นฐานดี) และหุ้นดีเฟนซีฟยังน่าสนใจและปลอดภัย รองรับความผันผวนและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากระบบเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ทั้งในและต่างประเทศได้

ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลัง ขณะนี้ยังเห็นบริษัทที่ยื่นไฟลิ่งขอเสนอขายหุ้นกู้อีกไม่ต่ำกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท เฉพาะที่ระบุมูลค่าเสนอขายแล้ว และยังมีอีกหลายบริษัทที่ยื่นไฟลิ่งแล้ว แต่ยังไม่ระบุปริมาณและมูลค่าการออก ฉะนั้น สิ้นปี 65 คาดว่า จะมียอดออกหุ้นกู้ใหม่ทะลุ 1 ล้านล้านบาท เป็นปีที่ 3 และน่าจะทำสถิติสูงกว่าปี'62 และปี'64 ที่ทำไว้ 1.08 ล้านล้านบาท และ 1.03 ล้านล้านบาท โดยคาดว่ามีโอกาสขึ้นไปแตะระดับ 1.2 ล้านล้านบาท

"เชื่อว่าแนวโน้มการระดมทุนหุ้นกู้ช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีทิศทางขยายตัวเป็นบวกได้ดีต่อเนื่อง เพราะการที่ดอกเบี้ยขึ้นมาแรง ภาคธุรกิจก็เห็นช่องทางในการช่วยล็อกต้นทุนทางการเงินได้ดีกว่า เพราะเงินกู้แบงก์เป็นดอกเบี้ยลอยตัว ประกอบกับสภาพคล่องตลาดเงินที่สูง เห็นได้จากเงินออมของครัวเรือน"

สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ สามารถติดต่อผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้แต่ละตัวได้ หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) 02-351-1800 กด 1 กด 0