สมาธิ-สติ หยุดวิกฤติสยบมายาคติ | วุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์

สมาธิ-สติ หยุดวิกฤติสยบมายาคติ | วุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์

ประเทศไทย เคลื่อนเข้าสู่ศักราชใหม่ภายใต้เรื่องราวข่าวเศร้าหมองชวนสลดหดหู่หัวใจเกลื่อนกลาดดาษดาเต็มไปหมด…

แม่ทำร้ายลูกวัยเยาว์ ถึงขั้นฆาตกรรม เพียงเพื่อตัดรำคาญ
    ลูกขออำนาจศาลสั่งไม่ให้แม่ยุ่งเกี่ยวบงการชีวิต
    ภรรยาประชดสามี หอบลูกกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ปล่อยสามีให้ร้องไห้ฟูมฟาย
    กราดยิงกลางงานบวช เป็นเหตุให้คนบาดเจ็บ ล้มตาย…งานบุญกลายเป็นงานบาปไปโดยปริยาย
    อหิวาต์หมูระบาด กระทบห่วงโซ่อุปทานผลิตภัณฑ์หมู เป็นเหตุให้หมูราคาแพงเป็นประวัติการณ์
    โควิดสายพันธุ์โอมิครอน อาละวาดระบาดหนักไปแล้วค่อนโลก และค่อนประเทศไทย…หลายจังหวัดเตียงเต็ม 

สารพัดเรื่องราวข่าวเลวร้ายที่วนเวียนอยู่รอบตัวเราทั้งตอนนี้ และในอนาคตข้างหน้า จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องฝึกฝนตัวเราเองให้ตั้งมั่นอยู่บน “สัมมาสติ” มิเช่นนั้นเรานี่แหละที่อาจถูกดูดเข้าไปอยู่ในวังวนของเรื่องเลวร้ายซะเอง
    สัมมาสติ คือปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสะกิดเตือนตัวเราให้ตระหนักรู้ผิดชอบชั่วดี และกระตุ้นให้เกิดสัมมาสมาธิ และสัมมาปัญญา ซึ่งมีอานุภาพคุ้มครองป้องกันภัยคุกคามทุกรูปแบบไม่ให้กล้ำกราย ราวกับวัคซีนที่มีสรรพคุณป้องกันการติดเชื้อจากโรคระบาด
    กระบวนการบ่มเพาะสัมมาสติ เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ทำได้ แค่ฝึกทำใจให้นิ่ง ไม่ดีใจได้ปลื้ม กับเรื่องราวน่ายินดี และไม่ซึมเซาเศร้าโศก กับเรื่องสลดหดหู่จนเกินไป เหมือนผืนน้ำที่กลับคืนสู่ความสงบราบเรียบอย่างรวดเร็ว เมื่อมีใครก็ตามโยนก้อนอิฐก้อนหินลงไป
    ความนิ่งของใจ คือประตูบานใหญ่ที่เปิดสู่สัมมาสติ 
เมื่อเรามีสัมมาสติอยู่กับตัว จะทำให้เราสยบทุกวิกฤติที่ถาโถมเข้ามาได้สบาย และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข

ความมีสัมมาสติ หากได้มีการรณรงค์ให้ฝึกฝนบ่มเพาะกันอย่างแพร่หลาย จะมีพลานุภาพในการคุ้มครองป้องกันสังคม..ประเทศชาติให้ปลอดภัยจากความเลวร้ายทุกมิติ และพร้อมจะเคลื่อนไปสู่สิ่งที่เป็น “ปกติใหม่” หรือ “ดุลยภาพใหม่”
    พลังแห่งสัมมาสติ หากได้ปลูกให้เกิดขึ้นในหมู่เด็กและเยาวชนผ่านกลไกการศึกษา น่าจะยิ่งยังประโยชน์แก่สันติสุขทั้งในระดับชาติและระดับสากล
    เด็กและเยาวชนที่ได้รับการปลูกพลังแห่งสัมมาสติ จะปลอดภัยจากการถูกคุกคามด้วย “มิจฉาสติ” ซึ่งเป็นพลังด้านลบ ที่อยู่ตรงข้ามกับสัมมาสติ ที่เป็นพลังด้านบวก และยังจะได้รับการยกระดับให้เป็น “พลเมือง” ที่รู้ผิดชอบชั่วดี และมีสำนึกรับผิดชอบต่อบ้านต่อเมือง 
    ใครจะมายุยงปลุกปั่นด้วยข่าวปลอม ข่าวยกเมฆ ข่าวปั้นน้ำเป็นตัวสารพัดเพื่อซ้ำเติมความบอบช้ำของบ้านเมือง ก็จะไม่หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ
    พลานุภาพของขุมพลังแห่งสัมมาสติ ได้รับการพิสูจน์ให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แจ่มชัดมาแล้วในกระบวนการสร้างความมั่นคง-มั่งคั่ง-ยั่งยืนของชาติเยอรมนียุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 
    คอนราด อาเดนาวร์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ระดมทีมนักวิชาการวิเคราะห์มูลเหตุที่เป็นชนวนชักนำประเทศเยอรมนีเข้าสู่หายนะใหญ่หลวง ควบคู่กับการค้นคว้าวิจัยแสวงหาแนวทางปฏิรูปฟื้นฟูประเทศ
    คำตอบที่เป็นกุญแจไขไปสู่การฟื้นฟูชาติเยอรมนีให้แข็งแกร่งเป็นชาติมหาอำนาจในทุกวันนี้คือ การปฏิรูประบบการศึกษา ที่มีเป้าหมายพัฒนาเยาวชนให้มีสัมมาสติ เป็นพลเมืองที่รู้เท่าทันการเมือง มีความกระตือรือร้นในการมีส่วนร่วมทางการเมือง เพื่อแสดงออกถึงความมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อชาติบ้านเมือง โดยไม่ยอมปล่อยให้คณะบุคคลใดรับเหมาผูกขาดความรักชาติ ภายใต้การครอบงำของมิจฉาสติเหมือนยุคสมัยอดอล์ฟ ฮิตเลอร์อีกต่อไป
    ที่นี่ประเทศไทย เจ้าประคุณสมเด็จพระญาณวชิโรดม หรือ “หลวงพ่อวิริยังค์” ได้ก่อตั้งสถาบันพลังจิตตานุภาพ เพื่อสอนการเจริญสัมมาสมาธิ เป็นธรรมทานแก่สาธุชนมาตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งเป็นปีที่ประเทศไทยเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจครั้งรุนแรงที่สุด
    จากบัดนั้นจวบกระทั่งปัจจุบันนี้ แม้หลวงพ่อวิริยังค์ละสังขารไปแล้ว แต่สถาบันพลังจิตตานุภาพยังดำรงอยู่และทำหน้าที่สืบสานปณิธานของท่านในการมุ่งมั่นสร้างสันติสุข ด้วยสัมมาสมาธิอย่างต่อเนื่อง
    การเจริญสัมมาสมาธิตามแนวทางของหลวงพ่อวิริยังค์ จะมีคุณประโยชน์ในการสร้างรากฐานความแข็งแรงมั่นคงของชาติได้เป็นอย่างดีหากเด็กและเยาวชน ได้รับโอกาส ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนให้เข้าถึงการเจริญสัมมาสมาธิอย่างกว้างขวาง ผ่านกลไกระบบการศึกษา
    หัวใจของการปฏิรูปการศึกษา ที่มุ่งสร้างเยาวชนให้มีสัมมาสมาธิ สัมมาสติ ต้องเริ่มจากการละลายชุดความคิดเก่าๆ ของครูผู้สอน ที่เคยชินกับการสั่งนักเรียนให้คิดตามครู ทำตามครู ซึ่งเป็นการสอนแบบชี้นำและครอบงำ โดยมิได้บ่มเพาะให้เกิดสัมมาสมาธิและสัมมาสติ 
    ครูในทัศนะใหม่ต้องสร้างบรรยากาศของการกระตุ้นให้นักเรียนพัฒนากระบวนการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ และกระตุ้นให้นักเรียนคิดอย่างมีเหตุมีผล
    คุณลักษณะพึงประสงค์ของผู้เรียน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ของการจัดการศึกษา ต้องไม่มีแค่การเรียนให้จบๆไป มีงานทำ มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ต้องพิจารณาประเด็นความเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง เพิ่มเติมเข้าไปด้วย
    คุณค่าที่แท้จริงของการศึกษาที่ดี ไม่ใช่อยู่ที่ความรู้อีกต่อไป แต่ต้องมุ่งเน้นการพัฒนาผู้เรียนให้มีสัมมาสติ และสัมมาปัญญา ด้วยกลไกการเจริญสัมมาสมาธิ
    เด็กและเยาวชน ที่ผ่านการฝึกการเจริญสมาธิ จะเกิดมีพุทธิปัญญา จะทำให้เด็กและเยาวชน เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ และคุณธรรม มีขีดความสามารถที่ดีในการใช้ปัญญาแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้อย่างชัดเจน โดยไม่ตกเป็นเหยื่อแห่งมายาคติ
    บ้านเมืองใดก็ตามที่บ่มเพาะเด็กและเยาวชน ด้วยการเจริญสมาธิ และบริบูรณ์ไปได้ผู้ใหญ่ที่ถึงพร้อมด้วยสัมมาสมาธิ…สัมมาสติ..และสัมมาปัญญา ย่อมเป็นบ้านเมืองที่จะมีอนาคตเจริญรุ่งเรือง และสุขสงบ 
    สัมมาสมาธิ..สัมมาสติ  อุปมาเหมือนศาสตราวุธที่ทรงพลานุภาพยิ่งใหญ่ในการทำให้เราตื่นรู้ และรู้เท่าทันทุกสถานการณ์
    คุณาประโยชน์ของสัมมาสมาธิ..สัมมาสติ มีเป็นอเนกประการ สุดที่จะคณานัปได้.

สมาธิ-สติ หยุดวิกฤติสยบมายาคติ | วุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์

คอลัมน์ : เวทีพิจารณ์นโยบายสาธารณะ
วุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์
มูลนิธินโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล