คุณเตรียมพร้อมการออกจากโควิดหรือยัง?

คุณเตรียมพร้อมการออกจากโควิดหรือยัง?

แน่นอนว่าสถานการณ์โควิดทำให้ทุกคนหวาดกลัวที่จะหาหนทางให้อยู่รอดในวิกฤตินี้

และถ้าคุณเครียดอยู่ แสดงว่าธุรกิจคุณ ไม่สามารถฝืนวิกฤติได้ เช่น ธุรกิจ โรงแรม เราเข้าใจว่าสถานการณ์แบบนี้มันยากที่จะให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาที่โรงแรมคุณในภาวะ ล็อกดาวน์ ซึ่งต่อให้คุณเสียเงินโปรโมท เสียเงินทำการตลาดทุกอย่าง เพื่อหาเงินหล่อเลี้ยงธุรกิจ แต่รายได้ มันอาจไม่คุ้มรายจ่ายในภาวะเช่นนี้ที่ไม่มีอะไรแน่นอน 

แต่ที่แน่ๆ คือ ทุกวิกฤติย่อมมีจุดจบ และฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ ในช่วงระหว่างนี้ที่ธุรกิจทำอะไรไม่ได้ เรามาเตรียมความพร้อมให้ตัวเองไปอยู่ตรงจุดที่โควิดจบ เพื่อที่จะช่วงชิงโอกาสก่อนคนอื่น มาเริ่มเดินทางออกจากโควิดกันเลยค่ะ

1.เตรียมขาย voucher เวิร์คสุดๆ 

สิ่งแรกหลังโควิดคลี่คลายที่คนโหยหากันคือ ตะลอนออกเที่ยวค่ะ แต่ยังไม่กล้าที่ฟุ้งเฟ้อใช้จ่ายฟุ้มเฟือย ดังนั้น ธุรกิจต้องเตรียมจัดแพคเกจการท่องเที่ยว ไม่ทิพย์ ในราคาทิพย์” กันเลย จากการวิจัยของบริษัทเอ็นไวโรไทยแลนด์ พบว่าหลังโควิดคราวที่แล้ว โรงแรม 4-5 ดาว ที่ยอมลงราคาแบบชีวิตนี้คนไทยไม่เคยจับต้องได้มาก่อน จะขายดีกว่า โรงแรมที่ ยอมลดราคาเพียงเล็กน้อย เพราะกลุ่มที่พร้อมเที่ยวคือกลุ่มที่มีเงิน กลุ่มพนักงานที่ไม่เดือดร้อนมาก หรือ กลุ่มที่ธุรกิจบูมช่วงโควิด แต่อาจจะกล้าๆ กลัวๆ ในการใช้เงิน ซึ่งตัวกระตุ้นให้กล้าใช้เงินในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ในเชิงจิตวิทยาที่ดีที่สุดคือ 

การที่ทำให้เค้ารู้สึกกลัว "เสียโอกาส"  แบบราคานี้ไม่ซื้อ ไม่จอง ตอนนี้ ไม่มีอีกแล้ว ดังนั้นเตรียม เคาะราคาต้นทุน กำไร สิ่งที่จะนำเสนอให้คุ้มที่สุด และ ออกประกาศ ขาย voucher หาเงิน ตอนนี้เลย พอจบโควิด คุณก็มีลูกค้าในมือ อยู่แล้ว แต่ที่ต้องพิจารณาคือเรื่องวันหมดอายุ นักท่องเที่ยวจะตัดสินใจได้ง่าย ถ้า voucher เลื่อนได้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าโควิดจบเมื่อไหร่ ถ้า voucher อายุสั้น หรือ เลื่อนไม่ได้ อันนี้ก็ขายยาก เมื่อคนไปเที่ยวก็มาพร้อมเรื่องกินค่ะ จากที่ผ่านมา คาเฟ่ ร้านอาหารดังๆ ยังไม่ค่อยออก voucher แบบโรงแรม ซึ่งก็สามารถทำได้เช่นกัน

2.อีเวนท์ เก๋ๆ เทรดแฟร์ ถูกๆ พร้อมหรือยัง? 

งานอีเวนท์ เทรดแฟร์ กิจกรรม outdoor เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคโหยหา ไม่แพ้การกิน ดื่ม เที่ยว ผู้ประกอบการ ธุรกิจ นี้ เตรียมหา อีเวนท์ดีๆ พร้อมเปิดตัวทันที หลังโควิด เดินเกมได้เร็ว ก็ฟื้นตัวเร็ว

3.Gen y และ Gen z เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก

เพราะกลุ่มนี้ ไม่ค่อยกลัวโรค แต่กลัวไม่ได้ใช้ชีวิตให้คุ้ม ดังนั้นจึงเป็นกลุ่มที่กล้ากิน กล้าใช้ ก่อนเพื่อนเลย ส่วน gen x/y จะ ยังไม่กล้าใช้เงิน และ มัวยุ่งอยู่กับอาชีพ homemade ที่สร้างมาหารายได้ ช่วงโควิด จึงไม่ใช่กลุ่มแรกๆ ที่เราจะหาเงินได้เร็ว ดังนั้นการทำกิจกรรมการตลาดพุ่งเป้าไปที่คนรุ่นใหม่ก่อนเลย

เอ็นไวโรไทยแลนด์ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกธุรกิจ ขอให้ทุกท่านรักษาตัว รักษาใจให้เข้มแข็ง เตรียมพร้อมออกจากโควิดกันนะคะ