ตรวจเช็คสุขภาพจิตคนไทย | วรากรณ์ สามโกเศศ

ตรวจเช็คสุขภาพจิตคนไทย | วรากรณ์ สามโกเศศ

เห็นสถิติความป่วยทางจิตของคนไทยแล้วน่าตกใจ หลายคนมีอาการโดยไม่รู้ตัว นำไปสู่โศกนาฏกรรมของตนเองและครอบครัวอย่างน่าเศร้า การมีสุขภาพจิตดีจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องใส่ใจในทางวิชาการคนที่มีสุขภาพจิตดี มีคุณลักษณะร่วมกันอยู่หลายประการ

ในปี 2564 คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปป่วยเป็นโรคซึมเศร้าถึง 1.5 ล้านคน มีอัตราการพยายามฆ่าตัวตาย 6 คนต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นจำนวนประมาณ 53,000 คนต่อปี โดยเสียชีวิตราว 4,000 คน ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามีอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จสูงกว่าคนทั่วไปถึง 20 เท่า และ 70% ของผู้ป่วยเสียชีวิตก่อนวันอันควร

ข่าวการฆ่าตัวตายโดยการรมควันจากเตาอั้งโล่ในรถยนต์ได้ยินกันไม่เว้นแต่ละวัน เช่นเดียวกับฆาตกรรมในครอบครัว ในหมู่เพื่อนและคนรู้จัก เรารู้เห็นการป่วยจากโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคจิตเภท พฤติกรรมการกินอาหารที่ผิดปกติที่มาจากความเครียด พฤติกรรมเสพติดยา เหล้า การพนัน ฯลฯ มากกว่าเมื่อสมัยก่อนมาก 

เรารอดพ้นจากโรคเหล่านี้ได้หากมีสุขภาพจิตดี (mentally healthy) ซึ่งหมายถึง การที่บุคคลหนึ่งสามารถเรียนรู้ มีความรู้สึก สามารถแสดงออกและจัดการกับอารมณ์ที่เป็นบวกและลบของตนเอง อีกทั้งสามารถที่จะมีและรักษาความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ การขาดสุขภาพจิตที่ดีจะนำไปสู่โรค และพฤติกรรมที่มีผลกระทบด้านลบต่อการดำเนินชีวิต และคุณภาพชีวิตอย่างสำคัญ

 

ตรวจเช็คสุขภาพจิตคนไทย | วรากรณ์ สามโกเศศ

(ภาพถ่ายโดย Andrew Neel)

 

Dr. Carla Shuman ให้ข้อคิดที่น่าสนใจใน Psychology Today (โพสต์ 17 มิ.ย. 2565) โดยระบุคุณลักษณะร่วมกันของบรรดาคนที่มีสุขภาพจิตดีดังต่อไปนี้ 

1) ตื่นขึ้นทุกวันและรู้สึกว่าบางสิ่งมีบุญคุณ เวลาที่เรามีวันหรืออาทิตย์หนึ่งที่แย่ๆ อาจมองเห็นสิ่งที่มีบุญคุณได้ยาก ถ้าในแต่ละวันเรายังสามารถนึกถึงสิ่งที่เราควรขอบคุณได้มากกว่าหนึ่งอย่าง ก็เป็นสัญญาณว่าเราเป็นคนที่สามารถฟื้นกลับสู่สภาพเดิมที่เคยมีความสุขได้และซาบซึ้งสิ่งดีๆ ที่ตนเองมีอยู่ การสามารถรับรู้เช่นนี้ได้หมายถึงเรามีนิสัยในการพัฒนาสุขภาพจิต

2) มีบางสิ่งที่มุ่งรอคอยให้มาถึง สิ่งนั้นอาจเป็นวันหยุดพักผ่อน โอกาสดูวีดิโอเรื่องโปรด สังสรรค์กับเพื่อน ฯลฯ การวางแผนสู่การมีความสุขความพอใจคือสัญญาณของการมองหาประสบการณ์ที่เป็นบวก ทำให้ช่วยลดความวิตกกังวลและความรู้สึกหดหู่ 

 

ตรวจเช็คสุขภาพจิตคนไทย | วรากรณ์ สามโกเศศ

(ภาพถ่ายโดย Kindel Media)

 

3) ปล่อยวางอารมณ์โกรธไม่จมปลักอยู่กับความแค้น การจมปลักอยู่กับความรู้สึกที่เป็นลบจะทำให้เราก้าวเดินไปข้างหน้าได้ลำบากเพราะความโกรธและความเศร้าถูกอัดแน่นอยู่ในใจ ถ้าเราปล่อยวางความรู้สึกเหล่านี้ได้ก็จะพบความสงบในชีวิต และมีสุขภาพจิตที่ดี

4) รื่นรมย์กับสิ่งธรรมดาๆ ในชีวิต คนที่มีทางโน้มสู่การมีสุขภาพจิตที่ดีสามารถมีประสบการณ์ที่เป็นบวกได้จากสิ่งที่แสนธรรมดาในชีวิต เช่น เดินเล่นในสวน หัวเราะกับเพื่อนๆ และคนที่รักใคร่ชอบพอกัน สามารถรื่นรมย์ได้กับทุกประสบการณ์ถึงแม้มันจะไม่ตื่นเต้น หรือหรูหราก็ตาม

5) ช่วยเหลือคนอื่นรอบตัว คนมีสุขภาพจิตดีไม่เน้นตนเองเป็นที่ตั้ง ถึงแม้ฐานะตัวเองจะไม่มั่นคงแต่ก็ไม่ย่อท้อที่จะช่วยเหลือคนอื่นเท่าที่จะทำได้ มันอาจไม่ใช่การช่วยเหลือที่สำคัญมาก แต่ก็เป็นความรู้สึกผูกพันกับคนอื่นๆ

6) ดูแลตัวเอง ถึงแม้คนสุขภาพจิตดีดูแลคนอื่น แต่ก็ไม่ละทิ้งที่จะดูแลตนเองอย่างให้แน่ใจว่าตนเองสามารถอยู่ได้และช่วยเหลือคนอื่นได้ 

7) มีขอบเขตที่แน่ชัดของความสัมพันธ์ การรู้ว่าเมื่อใดจะปฏิเสธและเมื่อใดที่จะต้องรักษาพื้นที่ความเป็นส่วนตัวเอาไว้ จะทำให้คนสุขภาพจิตดีดำรงการมีสุขภาพจิตดีไว้ได้

8) ต่อสู้ฝ่าฟันเมื่อสถานการณ์ท้าทายยิ่งขึ้น เมื่อสถานการณ์เลวร้ายลง คนบางส่วนอาจสูญเสียกำลังใจจนรู้สึกท้อ หมดพลังและความหวัง แต่คนมีสุขภาพจิตดีโดยทั่วไปสู้ต่อไปอย่างไม่ท้อถอย 

9) ไม่รู้สึกอิจฉาสิ่งที่คนอื่นมี คนมีสุขภาพจิตดีไม่มัวเสียเวลาเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ชอบที่จะเน้นคิดว่าตนเองต้องการอะไร และอะไรอยู่ในขอบเขตที่ตนเองสามารถหามันมาได้ 

10) รู้สึกยินดีกับการมีความสุขของผู้อื่น ความสามารถที่จะรู้สึกยินดีกับการมีความสุขของคนอื่นในยามที่ตนเองลำบากเป็นคุณลักษณะที่สำคัญยิ่งของการมีสุขภาพจิตดี มันหมายความว่าเรามองไกลข้ามความเจ็บปวดของตัวเราเองและยินดีกับการมีความสุขของคนอื่น โดยไม่กังวลว่าตนเองกำลังเผชิญอะไรในชีวิต

คุณลักษณะเหล่านี้เกิดจาก (ก) การมีอารมณ์ที่มั่นคงอย่างสามารถจัดการอารมณ์ของตนเองได้ (ข) ความสามารถในการจัดการความเครียดจากการดำเนินชีวิตประจำวัน (ค) มีความรู้สึกที่เป็นบวกต่อชีวิตและอนาคต และ (ง) ความรู้สึกที่เป็นบวกกับตัวเองอย่างมองเห็นความสำคัญของตนเอง

ผู้เขียนได้พบนวัตกรรมช่วยผู้สงสัยว่าตนเองมีความเจ็บป่วยทางจิต DMIND Application เป็นผลงานของทีมอาจารย์นักวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อประเมินความเสี่ยงจากอาการซึมเศร้าและเสี่ยงฆ่าตัวตาย ทุกคนสามารถเข้าไปที่ Application นี้เพื่อประเมินตนเองได้ฟรี 

 AI ที่ออกแบบมาจะทำหน้าที่เป็นคุณหมอที่พร้อมเป็นเพื่อนรับฟังทุกความรู้สึก สามารถตอบคำถามและประเมินระดับความซึมเศร้าผ่านการวิเคราะห์น้ำเสียง สีหน้า และคำพูดได้อย่างแม่นยำเสมือนได้พบคุณหมอจริงๆ ทุกอย่างเป็นความลับและจะได้รับความช่วยเหลือหลังจากการประเมินระดับความรุนแรงต่างๆ แล้วด้วย