จับตา ครม.เศรษฐกิจนัดแรก รัฐบาลอนุทิน ตั้งทีมไทยแลนด์เดินต่อเจรจาภาษีสหรัฐ

จับตา ครม.เศรษฐกิจนัดแรก รัฐบาลอนุทิน ตั้งทีมไทยแลนด์เดินต่อเจรจาภาษีสหรัฐ

อนุทิน เตรียมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) นัดแรก วาระสำคัญคือการแต่งตั้ง "ทีมไทยแลนด์" ชุดใหม่ เพื่อเดินหน้าเจรจาประเด็นภาษีกับสหรัฐอเมริกา คาดว่านางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าทีมเจรจานอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้เร่งรัดการเจรจา FTA และบีโอไอจะเสนอมาตรการอำนวยความสะดวกการลงทุน

KEY

POINTS

  • นายกฯ อนุทิน เตรียมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) นัดแรก
  • วาระสำคัญคือการแต่งตั้ง "ทีมไทยแลนด์" ชุดใหม่ เพื่อเดินหน้าเจรจาประเด็นภาษีกับสหรัฐอเมริกา
  • คาดว่านางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าทีมเจรจา
  • นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้เร่งรัดการเจรจา FTA และบีโอไอจะเสนอมาตรการอำนวยความสะดวกการลงทุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันพุธที่ 15 ต.ค.นี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) นัดแรกของรัฐบาลชุดนี้ ภายหลังจากที่ประชุม ครม. เมื่อสัปดาห์ก่อนได้เห็นชอบการแต่งตั้ง ครม.เศรษฐกิจที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีกรรมการจากรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ และหัวหน้าส่วนราชการในกระทรวงและหน่วยงานเศรษฐกิจเป็นกรรมการรวมกว่า 25 คน โดยการประชุมครั้งแรกของ ครม.เศรษฐกิจจะมีการประชุมที่อาคารรัฐสภา

สำหรับวาระที่จะเข้าสู่การประชุม ครม.เศรษฐกิจครั้งแรกที่น่าติดตามคือการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายการค้าสหรัฐชุดใหม่ เพื่อทำหน้าที่แทนคณะกรรมการชุดเดิมที่ยุติการทำงานลงพร้อมกับรัฐบาลชุดที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการชุดนี้จะทำหน้าที่เป็น “ทีมไทยแลนด์” ทำหน้าที่ในการเจรจารายละเอียดที่เกี่ยวข้องในเรื่องภาษีร ะหว่าง ไทย-สหรัฐฯ ทั้งนี้คาดว่านายอนุทินจะมอบหมายให้นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าทีม

"ศุภจี" จ่อนั่งหัวหน้าทีมเจรจาสหรัฐ

ก่อนหน้านี้นางศุภจีกล่าวว่าในการประชุม ครม.เศรษฐกิจนัดแรกในสัปดาห์หน้านี้ ทางฝั่งกระทรวงพาณิชย์จะมีการพูดคุย 2 เรื่อง คือ 1. เรื่องการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ  และ 2.เรื่องเจรจา FTA  โดยการเจรจาภาษีกับทางสหรัฐ ปัจจุบันในขั้นตอนการพูดคุยทางเทคนิค โดยมีรายละเอียดที่ต้องพูดคุยกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะในเรื่องของถิ่นกำเนิดสินค้า และสัดส่วนมูลค่าที่ผลิตในภูมิภาค (RVC) โดยพยายามจะเจรจาให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 

โดยในส่วนของการเป็นหัวหน้าทีมไทยแลนด์เจรจาภาษีกับสหรัฐนั้นจะต้องมีการหารือกันและให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบอย่างเป็นทางการ เพราะในมุมของประเทศมีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ต้องนำภาคเอกชน และกระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้องไปพูดคุยด้วย  

กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของไทย โดยตั้งเป้าหมายให้การเจรจารายละเอียดมีข้อยุติภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศได้รับความชัดเจนและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น พร้อมเน้นให้ทุกภาคส่วนทำการบ้านล่วงหน้า รวมทั้งเตรียมตลาดทดแทน และวางกลยุทธ์สินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลก

เสนอเร่งเดินหน้า FTA 

นอกจากนี้ในที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจกระทรวงพาณิชย์จะหารือในเรื่องการเร่งรัดเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) โดยปัจจุบันไทยมีการเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) ไว้แล้ว 14 ฉบับ ขณะเดียวกันไทยจะมีการดำเนินการเจรจา FTA เพิ่มเติมอีก 2 ฉบับให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 คือ ไทย-อียู และไทย-เกาหลีใต้ 

ขณะที่ในส่วนของการเร่งรัดการลงทุนโดยอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการมาลงทุนในประเทศไทยนั้นสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ก็มีวาระที่จะเสนอให้ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจพิจารณาเช่นกัน เพื่อเร่งรัดโครงการลงทุนที่สำคัญๆ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ และโครงการเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศที่มีวงเงินลงทุนกว่า 3 แสนล้านบาท

ลุ้นเคาะ Fast Pass เร่งลงทุนเอกชน

เมื่อเร็วๆนี้นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการบีโอไอเปิดเผยว่าในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการลงทุนรัฐบาลมีแผนจะนำเอากลไกที่เรียกว่า  “Fast Pass”  ซึ่งเป็นกลไกใหม่ตามนโยบายรัฐบาล โดยจะมอบสถานะโครงการที่เป็น Fast Pass ให้กับโครงการสำคัญที่เป็นเชิงยุทธศาสตร์ และระดับประเทศ โครงการที่ได้รับสถานะนี้จะได้รับการอำนวยความสะดวกในการลงทุนให้เป็นแบบ “Fast Track” ทั้งในการติดต่อขอใบอนุญาตจากหน่วยงานต่าง ๆ

โดยมาตรการชุดนี้จะถูกนำเสนอต่อบอร์ดบีโอไอ และจะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. เศรษฐกิจด้วย เพื่อขอความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเพราะเป็นการทำงานแบบข้ามหน่วยงาน และข้ามกระทรวงเพื่อผลักดันให้การลงทุนเกิดขึ้นโดยเร็ว