’เอกนิติ’ สั่งตั้งคณะกรรมการฯ สืบสาเหตุค่าเงินบาทป่วน

’เอกนิติ’ สั่งตั้งคณะกรรมการฯ สืบสาเหตุค่าเงินบาทป่วน

รัฐบาลเตรียมหาช่องทางสกัดตัวการป่วนค่าเงินบาท หลังเกิดกรณีตัวเลข NEO ในบัญชีดุลการชำระเงินไทยเพิ่มขึ้นผิดปกติ ‘เอกนิติ’ ชง ครม.เศรษฐกิจ หาทางดูแล ตั้งปลัดคลังมือประสานหน่วยงาน

วันนี้ (6 ต.ค.) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ เร็ว ๆ นี้ กระทรวงการคลัง จะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาแนวทางการดูแลความผิดปกติของตลาดการเงินไทย ภายหลังเกิดกรณีตัวเลขค่าความคลาดเคลื่อนสุทธิ (Net Errors and Omissions : NEO) ในบัญชีดุลการชำระเงิน (Balance of Payments : BOP) ของไทยเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ

“ในการประชุมครม.วันที่ 7 ตุลาคม นี้ จะมีการตั้งครม.เศรษฐกิจขึ้นมา จากนั้น กระทรวงการคลัง จะเสนอเรื่องนี้เข้าไปยัง ครม.เศรษฐกิจ รับทราบแนวทางการกำกับดูแล ซึ่งล่าสุดได้คุยกับปลัดกระทรวงการคลัง ไปเมื่อวันก่อนและมอบหมายให้ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานไปหารือกับหน่วยงานต่างๆ เกี่ยวกับเม็ดเงินซึ่งอาจดูผิดปกติ ปรากฏอยู่ในส่วนของความคลาดเคลื่อนทางสถิติ หรือ NEO ซึ่งที่ผ่านมาตัวเลขดังกล่าวมีมูลค่าสูงเป็นพิเศษ” นายเอกนิติ ระบุ

นายเอกนิติ กล่าวว่า การกำกับดูแลเรื่องดังกล่าว จำเป็นต้องร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน โดยมอบหมายให้ปลัดกระทรวงการคลัง หารือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อติดตามเส้นทางเงินว่าเงินเหล่านั้นอยู่ตรงไหน อีกส่วนคือหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เนื่องจากมีข้อสงสัยว่าเม็ดเงินเหล่านี้อาจจะเข้ามาในช่องทางที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอเรนซีหรือช่องทางอื่นที่ผิดปกติหรือไม่

รองนายกฯ กล่าวว่า การดำเนินการทั้งหมดนี้เกิดจากการที่ได้รับข้อมูลและข้อเสนอแนะมาจาก สมาคมธนาคารไทย รวมถึง สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ซึ่งสะท้อนข้อมูลให้เห็น ขณะเดียวกันยังมีข้อมูลที่ต้องเชื่อมโยงจากหลายแหล่ง ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย, กลต., ปปง., และกรมศุลกากร 

“เรื่องนี้เป็นภารกิจสำคัญที่จะต้องเชื่อมโยง และนำข้อมูลเหล่านี้มาบูรณาการร่วมกัน เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนที่สุด โดยมีเป้าหมายที่ตั้งใจไว้คือการนำเรื่องนี้เข้ารายงานต่อครม.เศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นการคุยกันในรูปแบบของชุดย่อย และจะทำงานอย่างเข้มข้นมากขึ้น เนื่องจากนายกฯ ได้มอบนโยบายและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ จากนั้นจึงจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป” รองนายกฯ กล่าว