กระจายเสี่ยง-ตลาดหลากหลาย ทางรอดรับการค้าโลกผันผวนรุนแรง

 ที่ระบุว่า  ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้ากลายเป็นสาเหตุสำคัญของความไม่มั่นคงของโลก การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของภาษีศุลกากร การอุดหนุน หรือข้อจำกัดต่างๆ ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความผันผวน

“การเปลี่ยนแปลงนโยบายในประเทศใดประเทศหนึ่งอาจส่งผลกระทบไปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อซัพพลายเออร์ ผู้ผลิต และตลาด การเปลี่ยนแปลงนโยบายล่าสุดของสหรัฐเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน ในฐานะผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของโลก การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยก็สามารถปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานและเปลี่ยนแปลงกระแสการค้าโลกได้”

ดังนั้นรายงานจึงระบุถึง ต้นทุนของความไม่แน่นอน ไว้ว่าความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกใน 3 ด้านหลัก ต้นทุนที่สูงขึ้น การเติบโตที่ช้าลง บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องจัดเก็บสินค้าคงคลังส่วนเกิน ป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุน และปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งทำให้ต้นทุนสูงขึ้นและการลงทุนลดลง

ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงิน การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันทำให้อัตราแลกเปลี่ยนผันผวน ความเชื่อมั่นของนักลงทุน กระแสเงินทุน และภาวะสินเชื่อลดลง

ความเชื่อมั่นที่ลดลง กฎระเบียบที่อ่อนแอลงและการดำเนินการฝ่ายเดียวกระตุ้นให้เกิดการตอบโต้ ทำให้ความร่วมมือระดับโลกยากขึ้น

 “บริษัทต่างๆ เร่งจัดส่งสินค้าก่อนกำหนดเส้นตายภาษีศุลกากร ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่เรียกว่า “การส่งสินค้าล่วงหน้า” มักจะเปลี่ยนไปใช้การขนส่งที่รวดเร็วและมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า ตัวอย่างเช่น การขนส่งทางอากาศไปยังสหรัฐเพิ่มขึ้นเกือบ 10% ในไตรมาสแรกของปี 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน”

การนำเข้าโดยรวมไปยังสหรัฐ พุ่งสูงขึ้นในไตรมาสแรก เนื่องจากมีการนำเข้าสินค้าจำนวนมาก จากนั้นจึงลดลงอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่สอง เมื่อมีการบังคับใช้ภาษีศุลกากร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความไม่แน่นอนนั้นอาจสร้างความวุ่นวายได้มากกว่าภาษีศุลกากรเสียอีก

รายงานจึงเสนอแนะถึงการกระจายความเสี่ยงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความยืดหยุ่น โดยมีปัจจัยสองประการที่สามารถลดความเปราะบางได้ ได้แก่ ตลาดส่งออกที่หลากหลายและการมีส่วนร่วมในข้อตกลงการค้า โดยบริษัทที่มีตลาดหลายแห่งสามารถเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งได้เมื่อตลาดใดตลาดหนึ่งปิดตัวลง ซึ่งจะช่วยรองรับการขาดทุน

ประเทศที่มีฐานการส่งออกที่กว้างขวางกว่าสามารถชดเชยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในภูมิภาคหนึ่งด้วยผลกำไรในภูมิภาคอื่น

ข้อตกลงการค้ามีกฎเกณฑ์และกลไกการระงับข้อพิพาท ช่วยลดผลกระทบและส่งเสริมการลงทุนระยะยาว

“รูปแบบการค้าของจีนในช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของการกระจายความเสี่ยง ในไตรมาสที่สองของปี 2568 การส่งออกไปยังทั่วโลกเพิ่มขึ้น ขณะที่การส่งออกไปยังสหรัฐลดลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดที่หลากหลายสามารถช่วยบรรเทาผลกระทบจากนโยบายที่คาดเดาไม่ได้” 

อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการคาดการณ์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการค้าระหว่างประเทศ รายงานฉบับนี้เรียกร้องให้มีขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพและเสริมสร้างความยืดหยุ่น: การแจ้งล่วงหน้าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบาย เพื่อให้บริษัทและพันธมิตรสามารถปรับตัวได้ทันท่วงที

มาตรการทางการค้าที่ชัดเจนและขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและธุรกิจ ,การประสานงานระหว่างประเทศผ่าน อังค์ถัด,องค์การการค้าโลก(ดับเบิลยูทีโอ) และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงวงจรการตอบโต้ และข้อตกลงทางการค้าที่แข็งแกร่งขึ้นพร้อมการระงับข้อพิพาทที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน 

นโยบายการค้าที่มั่นคงและคาดการณ์ได้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ไม่เพียงแต่เพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังช่วยให้การพัฒนาดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในประเทศที่เปราะบางที่สุด