ผู้เลี้ยงหมูอีสานวอนรัฐ ถอดหมู ออกจากบัญชีสินค้านำเข้าสหรัฐฯ

ผู้เลี้ยงหมูอีสานวอนรัฐ ถอดหมู ออกจากบัญชีสินค้านำเข้าสหรัฐฯ

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้องให้รัฐทบทวนและถอดเนื้อหมูออกจากบัญชีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ หวั่น สร้างกระทบเศรษฐกิจเกษตรไทยมากกว่า 1.2 แสนล้านบาท เกษตรกรรายย่อยอาจสูญเสียอาชีพอย่างถาวร

“การนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯ แม้เพียง 1% ของการบริโภคในประเทศ หรือประมาณ 10,000 ตัน เท่ากับ 10 ล้านกิโลกรัม จะกลายเป็นตัวเร่งให้ราคาหมูในประเทศตกต่ำทันที และกระทบต่อผู้เลี้ยงรายย่อยกว่า 145,000 รายทั่วประเทศ”

ผู้เลี้ยงหมูอีสานวอนรัฐ ถอดหมู ออกจากบัญชีสินค้านำเข้าสหรัฐฯ

นายชยุต รุ่ง-พัฒนาชัยกุล นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าว สหรัฐฯ มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเป็นผู้ผลิตข้าวโพดและถั่วเหลืองรายใหญ่ของโลก และยังได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลกลางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอยู่บนพื้นฐานการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม ทำให้สามารถ “ดั๊มพ์” ราคาหมูส่งออกได้ต่ำกว่าต้นทุนจริงโดยเฉพาะชิ้นส่วนที่คนอเมริกันไม่กิน หากไทยยอมให้สหรัฐฯ และสหรัฐได้สิทธิพิเศษทางภาษีที่ 0% เท่ากับเปิดทางให้หมูราคาถูกจากต่างประเทศเข้ามาทำลายอุตสาหกรรมภายในประเทศโดยตรง

นอกจากนี้ การนำเข้าหมูจากสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบแบบลูกโซ่ต่อห่วงโซ่การผลิตทั้งหมด ได้แก่

• เกษตรกรผู้ปลูกพืชอาหารสัตว์ กว่า 5 ล้านครัวเรือน

• โรงฆ่าสัตว์และโรงแปรรูป ที่พึ่งพาหมูไทยเป็นวัตถุดิบหลัก

• แรงงานในฟาร์มและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง กว่า 800,000 คน

• ผู้ค้าปลีกและผู้บริโภค ที่อาจเผชิญกับความเสี่ยงด้านสุขภาพจากสารเร่งเนื้อแดง

ประเทศไทยมีจุดยืนชัดเจนในการห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดง (Ractopamine) เพื่อปกป้องสุขภาพประชาชน ขณะที่สหรัฐฯ ยังอนุญาตให้ใช้สารดังกล่าวในอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมู การเปิดทางให้นำเข้าหมูจากสหรัฐฯ จึงเท่ากับ ย้อนแย้งกับนโยบายสาธารณสุขและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย และอาจสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภคในระยะยาว

“รัฐบาลไทยและผู้เลี้ยงหมูร่วมกันต่อสู้เพื่อเลิกใช้สารเร่งเนื้อแดงมานานหลายสิบปี แต่วันนี้กลับกำลังจะเปิดประตูให้สารอันตรายนี้กลับเข้ามาในครัวเรือนคนไทย” นายชยุต กล่าวย้ำ

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทย ยกเลิกการเจรจานำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯ โดยชี้ว่าหากห่วงโซ่การผลิตสุกรล่มสลาย จะเกิดความสูญเสียต่อเศรษฐกิจประเทศในวงกว้าง จะมีคนว่างงานนับล้านคน และจะทำลายความมั่นคงทางอาหารด้านโปรตีนหลักอย่างเนื้อหมู ซึ่งเป็นอาหารยอดนิยมของคนไทย