'รถไฟฟ้าเมืองทอง' เก็บค่าโดยสารวันแรก ผู้โดยสารลด 68%

รายงานข่าวจาก กรมการขนส่งทางราง เปิดเผยถึงภาพรวมยอดผู้ใช้บริการ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงต่อขยายเมืองทองธานี โดยระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. – 16 มิ.ย. 2568 ซึ่งเป็นช่วงทดลองให้บริการฟรี มีผู้โดยสารใช้บริการรวมกว่า 217,621 คน-เที่ยว หรือเฉลี่ยวันละ 7,772 คน-เที่ยว โดยพบว่าในวันทำงานจะมีผู้โดยสารเฉลี่ย 6,719 คน-เที่ยว และวันหยุดเฉลี่ย 9,668 คน-เที่ยว

ขณะที่ภาพรวมปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางสูงสุด พบว่าในส่วนของวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการสูงสุดอยู่ที่ 23,159 คน-เที่ยว และวันที่ 3 มิ.ย.มีผู้โดยสารน้อยสุดคือ 1,650 คน-เที่ยว

โดยเฉพาะช่วงจัดงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 27-31 พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้โดยสารเฉลี่ยสูงถึง 16,669 คน-เที่ยว/วัน ส่งผลให้ยอดโดยสารเฉลี่ยในช่วงทดลองมีจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่การเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ส่วนต่อขยายเป็นวันแรก เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา จำนวนผู้โดยสารส่วนต่อขยายลดลงเหลือเพียง 2,168 คน-เที่ยว หรือลดลงประมาณ 68% เมื่อเทียบกับยอดเฉลี่ยวันทำงานในช่วงทดลอง ขณะที่จำนวนผู้โดยสารรวมทั้งระบบสายสีชมพูในวันเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์ส่วนต่อขยาย อยู่ที่ 72,976 คน-เที่ยว ลดลงเล็กน้อยราว 3.6% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันทำงานที่ 75,678 คน-เที่ยว

ทั้งนี้หลังเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ช่วงต่อขยายเมืองทองธานี ทางผู้ให้บริการได้ดำเนินมาตรการปรับปรุงบริการ ประกอบด้วย

1. เพิ่มความถี่การเดินรถ จากเดิมทุก 10 นาที เป็น ทุก 5 นาที ในช่วงเวลาเร่งด่วน (จ.-ศ. เวลา 7.00-8.00 น. และ 17.00-18.00 น.) ส่วนวันหยุดยังให้บริการทุก 10 นาที โดยมีขบวนสูงสุด 3 ขบวน และพร้อมความถี่การเดินรถและเพิ่มขบวนหากความต้องการสูงขึ้น

2. ขยายเวลาให้บริการ จากเดิมสิ้นสุดเวลา 22.00 – 23.30 น. เป็นให้บริการถึงเวลา 24.00 น. ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายนเป็นต้นมา ซึ่งพบว่าสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น

3. ระบบค่าโดยสาร ใช้ระบบเดียวกับสายสีชมพูหลัก ผู้โดยสารสามารถเดินทางต่อเนื่องโดยไม่ต้องออกจากระบบหรือซื้อบัตรใหม่ ไม่มีปัญหาในการใช้งาน

4. ปรับปรุงการประชาสัมพันธ์การเปลี่ยนชานชาลา โดยเฉพาะที่สถานีเมืองทองธานี (PK10) ผู้โดยสารที่เดินทางจากมีนบุรีต้องเปลี่ยนจากชานชาลา 2 ไปยังชานชาลา 3 เพื่อเดินทางต่อไปยังสถานี MT01 และ MT02

นอกจากนี้ ผู้ให้บริการได้เพิ่มการประชาสัมพันธ์ผ่านระบบเสียง PA (Public Address System), ติดตั้งป้ายบอกทาง และจัดเจ้าหน้าที่ประจำชานชาลาเพื่อป้องกันการสับสนโดยเฉพาะผู้โดยสารที่มาจากฝั่งสถานีมีนบุรี (PK30) เนื่องจากผู้โดยสารต้องลงจากชานชาลา 2 เพื่อเปลี่ยนถ่ายไปยังชานชาลา 3 ที่จะไปยังสายเมืองทางธานี