ไพ่ใบเดียวของ ‘แพทองธาร’ รับมือเผชิญหน้ากัมพูชา

บริเวณชายแดนที่ตั้งปราสาทตาเมือนธม ต.บ้านตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่รัฐบาลมีท่าทีให้ทหารนิ่งเพื่อดูสถานการณ์ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา จนท้ายที่สุดนำมาสู่การยื่นศาลโลกของกัมพูชาในพื้นที่ที่กัมพูชาอ้างสิทธิ 4 พื้นที่ คือ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควายและสามเหลี่ยมมรกต

หลังเหตุการณ์ที่ช่องบกได้มีการลดเวลาการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเป็นการตอบโต้กัมพูชาต่อท่าทีสถานการณ์ชายแดน และกัมพูชาตอบกลับด้วยการปิดด่าน โดยบางจุดปิดด่านแบบไม่แจ้งล่วงหน้า เช่น อ.กรอมเรียง จ.พระตะบอง พร้อมทั้งจำกัดการพำนักของคนไทยในกัมพูชาได้ไม่เกิน 7 วัน จากเดิม 60 วัน ซึ่งคนไทยจะต้องเดินทางออกจากกัมพูชาแล้วจึงกลับเข้าไปเพื่อตรวจลงตราใหม่ในหนังสือเดินทาง

ในขณะที่การตัดไฟฟ้าและสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่อยู่ในแผนของไทยถูกตอบโต้ด้วยการประกาศจัดหาไฟฟ้าและสัญญาณอินเทอร์เน็ตเอง ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศว่ากัมพูชามีศักยภาพในการจัดหาสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศได้ ในคราวเดียวกันนายกรัฐมนตรีกัมพูชายังสั่งการให้สถานีโทรทัศน์ของกัมพูชาระงับการฉายละครไทย ซึ่งเป็นการตอบโต้ท่าทีของไทยแบบทันควัน

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะเห็นได้ว่ากัมพูชาวางจังหวะการก้าวไว้อย่างดีและเป็นไทยที่เดินตามเกมของกัมพูชา ซึ่งในเรื่องนี้ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้ความเห็นชัดว่าการที่กัมพูชากล้ารุกไทยขนาดนี้เพราะเห็นการเมืองไทยอ่อนแอมีข้อขัดแย้งทั้งการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นมีประเด็นทั้งพรรคที่จะปรับออกและดึงเข้ามาร่วมรัฐบาล ขณะที่ข้าราชการใส่เกียร์ว่างกันมาหลายเดือนแล้วเพื่อรอความชัดเจนทางการเมือง

อีกประเด็นสำคัญ คือ ไทยเปรียบเสมือนไม่มีมิตรในเวทีระหว่างประเทศ ในขณะที่กัมพูชาได้รับการสนับสนุนจากจีน และพร้อมลงไปเล่นในเวทีระหว่างประเทศทั้งอาเซียนและศาลโลก ซึ่งกัมพูชามีไพ่หลายใบที่จะทิ้งลงกลางวงขัดแย้ง 2 ประเทศ ขณะที่ไทยมีจุดยืนใช้เวทีทวิภาคีรวมถึงการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) แต่ก็ถูกกัมพูชาเสนอให้ที่ประชุมรับทราบประเด็นศาลโลกและให้บันทึกในการประชุมแม้จะถูกไทยคัดค้าน รัฐบาลแพทองธาร จะต้องเดินเกมให้อย่าให้ไทยมีไพ่เพียงใบเดียวให้กัมพูชารุกคืบ