ราคาน้ำมันดิบทรงตัว หลังพุ่งขึ้นในสัปดาห์ก่อน จับตาเจรจาการค้า

ราคาน้ำมันดิบทรงตัว หลังพุ่งขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผานมา ผู้ค้าจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ซึ่งอาจจะหนุนตลาดน้ำมันหากทั้งสองฝ่ายเจรจาลดภาษีกันสำเร็จ

บลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (9 มิ.ย.)ว่า ราคาน้ำมันดิบทรงตัวหลังพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนรอบใหม่ทำให้ความตึงเครียดทั่วโลกลดลง

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ซื้อขายสูงกว่า 66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้น 4% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) อยู่ที่ใกล้ 65 ดอลลาร์ ผู้แทนเจรจาค้าจากสหรัฐฯ และจีนเตรียมจัดการเจรจากันที่กรุงลอนดอนในวันจันทร์นี้ โดยเพิ่มความเป็นไปได้ที่ทั้งสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดจะสามารถบรรลุความคืบหน้าในข้อพิพาทที่ทำให้ตลาดสั่นคลอนในปีนี้ได้

ราคาน้ำมันดิบในลอนดอนลดลง 11% ในปีนี้ เนื่องด้วยความกังวลว่าความตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นอาจขัดขวางการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ด้านพลังงาน ในขณะเดียวกัน กลุ่มพันธมิตรโอเปกพลัส ได้เร่งการผลิตในอัตราที่เร็วกว่าที่คาดไว้ ทำให้เกิดความกลัวว่าจะมีน้ำมันล้นตลาดในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน

แม้ว่าราคาน้ำมันจะถูกดึงให้ลดลงในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ราคาน้ำมันได้ปรับตัวลดลงตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม เนื่องจากผู้ค้ากำลังจับตาสัญญาณความคืบหน้าในการเจรจาการค้า การบริโภคที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูขับรถช่วงฤดูร้อนในซีกโลกเหนือ รวมถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ในอิหร่านและรัสเซีย

เกา หมิงหยู หัวหน้านักวิเคราะห์พลังงานของโบรกเกอร์ SDIC Essence Futures ซึ่งประจำกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า “หากการประชุมกันที่สหราชอาณาจักรยังคงส่งสัญญาณในแง่ดี ผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจจากสงครามการค้าอาจลดลงได้” “หลังจากที่ผลกระทบเชิงลบในระยะสั้นจากการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นของโอเปกพลัส ในเดือนกรกฎาคมถูกคลี่คลายลงแล้ว ความเชื่อมั่นในระดับมหภาคที่ปรับตัวดีขึ้น ความต้องการตามฤดูกาลที่แข็งแกร่งขึ้น และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่ ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดน้ำมัน” เธอกล่าวเสริม

ความผันผวนขึ้นลงของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าซื้อขายกันในระดับต่ำกว่า 4 ดอลลาร์ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม โดยมีค่าความผันผวนใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ในขณะเดียวกัน สเปรดของน้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งเป็นส่วนต่างระหว่างสัญญา 2 ฉบับที่ใกล้หมดอายุที่สุดนั้น ถ่างกันมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนตลาดขาขึ้น