10 ปี ขาดดุลพุ่ง – ทุนสีเทาเติบโต เผยข้อมูลศก.ไทยพึ่งจีนเกินพอดี

แม้การค้าระหว่างไทยกับจีนจะเติบโตต่อเนื่อง แต่ตัวเลขขาดดุลกลับสูงเป็นประวัติการณ์กว่า 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2567 ขาดดุลต่อเนื่องกว่า 10 ปี บั่นทอนอุตสาหกรรมไทย
KEY
POINTS
- แม้การค้าระหว่างไทยกับจีนจะเติบโตต่อเนื่อง แต่ตัวเลขไทยขาดดุลกลับสูงเป็นประวัติการณ์กว่า 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2567
- สินค้าราคาถูกจากจีนกำลังบั่นทอนอุตสาหกรรมภายในประเทศ และ “ทุนจีนสีเทา” กลายเป็นระเบิดเวลาเสถียรภาพเศรษฐกิจไทย
- ผู้บริโภคอาจได้สินค้าถูกลง แต่ผู้ประกอบการไทยกลับสู้ไม่ไหว สินค้าจีนราคาต่ำ-ทุนสีเทาทะลักทำธุรกิจไทยปิดกิจการนับไม่ถ้วน
- ข้อมูล PBO ชี้ชัด รัฐต้องเร่งปรับเกมการค้า ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป เสนอกระจายตลาดลดพึ่งสินค้าจีน
การค้าระหว่างไทยกับจีนถือว่ามีบทบาทและความสำคัญทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศมาโดยตลอด โดยจีนถือว่าเป็นเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลกที่มีสัดส่วนต่อปริมาณการค้าโลกถึง 30% ขณะที่ไทยเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีความร่วมมือกับจีนในหลายด้าน
อย่างไรก็ตามในหลายปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยเผชิญความท้าทาย โดยเฉพาะปัญหาการขาดดุลการค้า การหลั่งไหลของสินค้าจีนที่อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในประเทศ และปัญหาการลงทุนของทุนจีนสีเทาที่อาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว
จากข้อมูลของสำนักงบประมาณของรัฐสภา (PBO) เปิดเผยถึงปัญหาการขาดดุลการค้าที่ไทยขาดดุลการค้าจีนมาอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นทุกปี จากข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 2556 ที่ไทยขาดดุลการค้าจีนอยู่ที่ 10,494 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมาเป็นขาดดุลกว่า45,364.7 ล้านดอลลาร์ในปี 2567 ที่ผ่านมา
โดยข้อมูลในปี 2567 มูลค่าการค้าไทย - จีน อยู่ที่ 115,851 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10.3% จากปีก่อน แต่ไทยกลับมีการขาดดุลการค้ากับจีนสูงถึง 45,364.7 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 23.8% จากปีก่อน โดยสินค้าหลักที่ไทยขาดดุลการค้ากับจีน ได้แก่ เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง ในขณะที่สินค้าส่งออกของไทยที่สำคัญกับจีน เป็นสินค้าที่มีราคาต่ำ เช่น สินค้าเกษตร
แม้ว่าการหลั่งไหลของสินค้าจีนจำนวนมากเข้าสู่ตลาดไทย ส่งผลให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการซื้อ สินค้าที่หลากหลายและราคาย่อมเยามากขึ้น แต่ก็สร้างความเสียหาย ต่อผู้ประกอบการไทยทุกขั้นตอนของห่วงโซ่การผลิตและการค้า (Supply Chain) เนื่องจากไม่สามารถแข่งขัน ด้านราคากับสินค้าจีนได้จนทำให้ผู้ประกอบการไทยหลายรายต้องปิดกิจการลงไปในที่สุด
5 เหตุผลสินค้าจีนตีตลาดสินค้าไทย
PBO ยังวิเคราะห์ถึงความได้เปรียบ ของสินค้าจีนที่เข้ามาตีตลาดในไทยเกิดจากหลายปัจจัยสำคัญ ได้แก่
1.การสนับสนุนจากรัฐบาลจีนที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการส่งออก
2.สินค้าจีนมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าสินค้าไทย
3.การผลิตในปริมาณมากช่วยลดต้นทุนการผลิต (Economy of Scale)
4.ภาคเอกชนจีนและต่างประเทศมีบทบาทสำคัญในการกระจายสินค้าจีนสู่ตลาดไทยโดยใช้ช่องทาง ต่าง ๆ เช่น e-Commerce Platform
5.การเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าจีน เนื่องจากผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีน
ทุนสีเทาสร้างปัญหา 7 ด้าน
สำหรับสถานการณ์ของ “ทุนจีนสีเทา” นั้นมีความรุนแรงมากขึ้นตั้งแต่กลางปี 2565 เป็นต้นมา ทุนจีนสีเทากลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในไทย และสถานการณ์มีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จากการที่รัฐบาลจีนมีมาตรการปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง ส่งผลให้กลุ่มคนจีนที่ทำธุรกิจสีเทาต้องย้ายออกไปดำเนินกิจกรรมในต่างประเทศและบางส่วนเข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในไทย ซึ่งส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ และสังคม เช่น
- การหลีกเลี่ยงภาษี ทำให้รัฐบาลไทยสูญเสียรายได้
- ผู้ประกอบการไทยที่ทำธุรกิจอย่างถูกต้องเสียเปรียบ
- ทุนจีนสีเทามีต้นทุนการผลิตต่ำ ซึ่งส่งผลต่อการแข่งขันด้านราคาสินค้าและบริการของไทย
- การนำเงินจากกิจกรรมที่ผิดกฎหมายมาลงทุนในไทยเพื่อฟอกเงิน
- เศรษฐกิจไทยมีความผันผวนและมีความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากทุนจีนสีเทา
- ปัญหาด้านอาชญากรรมเพิ่มขึ้น เช่น การค้ามนุษย์ การลักพาตัว แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการค้ายาเสพติด
- การทุจริตคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่ภาครัฐไทยที่เอื้อธุรกิจทุนจีนสีเทา
แนะป้องกันสินค้าจีนตีตลาด - ตีกรอบคุมจีนเทา
สำหรับข้อเสนอแนะของ PBO ในการรับมือกับการทะลักของสินค้าจีน รวมทั้งการป้องกันการเข้ามาของ “ทุนจีนสีเทา” ได้แก่
1.การขาดดุลการค้ากับจีนแสดงให้เห็นถึงการพึ่งพาเศรษฐกิจจีนมากเกินไป ซึ่งเสี่ยงต่อความผันผวน ของตลาดและนโยบายการค้าจีน ไทยควรขยายการส่งออกไปยังตลาดอื่น ๆ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง เช่น เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากจีน
2.การหลั่งไหลของสินค้าจีนเข้ามาในตลาดไทยส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมและ อาจกระทบต่อการผลิตในประเทศ เนื่องจากสินค้าจีนราคาถูกและคุณภาพต่ำ ทำให้ผู้ผลิตไทยไม่สามารถ แข่งขันได้ รัฐบาลควรสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการควบคุมคุณภาพสินค้านำเข้าที่เหมาะสม เพื่อป้องกันผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศ และรักษามาตรฐานการผลิตในระยะยาว
3.ทุนจีนสีเทาสะท้อนถึงช่องโหว่ในการบังคับใช้กฎหมายของไทย โดยเฉพาะการใช้คนไทยเป็นนอมินี และการร่วมมือของเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วน ทำให้ธุรกิจผิดกฎหมายสามารถดำเนินการได้โดยไร้การตรวจสอบ
ทั้งนี้ควรแยกระหว่างทุนจีนที่ถูกกฎหมายกับทุนจีนสีเทา เพื่อให้การจัดการปัญหาเป็นไปอย่างตรงจุด และมีประสิทธิภาพ ซึ่งหากไม่ดำเนินการอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระบบเศรษฐกิจไทยได้







