อัตราเร่งอุตฯอวกาศ-การบินโตเด่น ไทย-แคนาดาร่วมพัฒนาคนรับโอกาส

ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ระบุว่า มูลค่าของอุตสหกรรมอวกาศ ปี 2023 อยู่ที่ 660,000 ล้านดอลลาร์และคาดการณ์ว่ามูลค่าจะทะยานไปแตะ 1,800,000 ล้านดอลลาร์ หรือ ราว 576,000,000 ล้านบาท) ในปี 2035 หากเทียบอัตราเติบโตเฉลี่ยที่ ปีละ 9% ตามการคาดการณ์ของสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum)

     ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่เร่งให้อุตสาหกรรมอวกาศเติบโตอย่างรวดเร็วนั้นคือการพัฒนาจรวดที่สามารถนำกลับมาใหม่ได้สำเร็จ นำโดยบริษัทเอกชนสัญชาติสหรัฐฯอย่างสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ในปี 2015 ซึ่งได้ทำให้ต้นทุนการขนส่งสัมภาระและดาวเทียมไปอวกาศลดลงอย่างมหาศาล  นอกจากนี้ยังมีปัจจัยธุรกิจอินเตอร์เน็ตดาวเทียมความเร็วสูงนั้นเป็นภาคธุรกิจที่เข้ามากินสัดส่วนมากที่สุดในอุตสาหกรรมอวกาศในปัจจุบัน ตามความต้องการอินเตอร์เน็ตที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศกำลังพัฒนาทั่วทุกมุมโลก 

ประกอบกับความนิยมของบริการอินเตอร์เน็ตแบบอันลิมิตบนเครื่องบินโดยสาร ซึ่งประเทศไทยนั้นก็มีบริษัทมิวสเปซ (Mu Space) ที่ได้สิทธิ์จัดจำหน่ายสัญญาณอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมภายใต้เครือข่ายดาวเทียมวันเว็บ (One Web) ของสหราชอาณาจักร การขยายตัวของภาคธุรกิจนี้จึงได้ส่งผลให้ในปี 2023 นั้นมีดาวเทียมมากถึง 7,560 ดวง ประจำการอยู่บนวงโคจรโลก ในขณะที่ในปี 2010 กลับมีดาวเทียมเพียงแค่ 958 ดวงเท่านั้น

       โดยประเทศไทยนั้นเริ่มเข้าไปเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักของวงการอวกาศโลกผ่านความร่วมมือพัฒนาโครงการสร้างสถานีวิจัยบนดวงจันทร์ที่เรียกว่า International Lunar Research Station หรือ ILRS กับประเทศจีนและชาติพันธมิตรอื่น ๆ ตั้งแต่เดือนเม.ย. ปี 2024 ที่ผ่านมาเพื่อศึกษาพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมใหม่ ๆ เกี่ยวกับการสำรวจอวกาศ

       เมื่อเร็วๆนี้ นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) เข้าร่วมงาน Canada – Thailand Dialogue: A Pathway to Promote Cooperation in the Aerospace Sector โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือแลกเปลี่ยนความร่วมมือในการพัฒนาแรงงาน การฝึกอบรมด้านเทคนิค และการสร้างความร่วมมือในอุตสาหกรรมการบินที่แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศในอนาคต 

โดย AOT มีความพร้อมร่วมมือกับพันธมิตรระหว่างประเทศ รวมทั้งเตรียมความพร้อมในการจัดงาน “Canada-Thailand Aerospace Mission” ในเดือนม.ค. 2569 ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการบินและอวกาศจากประเทศไทยและแคนาดา ตลอดจนหน่วยงานเข้าร่วม เช่น สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย the Eastern Economic Corridor Office of Thailand (EECO) the Investissement Québec International (IQI) และ Aero PMD

ทั้งนี้ การเข้าร่วมงานดังกล่าวช่วยเปิดโอกาสให้ AOT ได้เชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญและองค์กรระดับโลก ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการฝึกอบรมบุคลากร โดยเฉพาะในด้านการยกระดับศักยภาพสนามบินไทย 

นอกจากนี้ บริษัทจัดการฝึกอบรมชั้นนำจากประเทศแคนาดาได้แลกเปลี่ยนมุมมองด้านการบริหารจัดการอุตสาหกรรมฯ การนำเสนอความเชี่ยวชาญการให้บริการฝึกอบรมขั้นสูง ตลอดจนโครงการให้บริการการซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO : Maintenance Repair and Overhaul) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญของ AOT ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ศูนย์กลางการบินภูมิภาค

ด้าน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) นำโดย พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการ  ระบุว่า  การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์และข้อมูลเชิงนโยบายในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการบิน เช่น การยกระดับสมรรถนะบุคลากร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการบิน และโอกาสความร่วมมือทางวิชาการและการค้า รวมถึงบทบาทของบริษัท Aero PMD ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมสำหรับภาคอุตสาหกรรมการบินและซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ที่มีความพร้อมในการดำเนินความร่วมมือกับประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของแรงงานด้านการบิน รองรับการเติบโตของ MRO และสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค (Aviation Hub) ต่อไป

สอดคล้องกับความร่วมมือก่อนหน้านี้ ที่นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี ได้นำคณะเดินทางเยือนประเทศแคนาดา เมื่อต.ค.2567 ที่ผ่านมาได้มีการประชุมหารือกับกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ ร่วมกับ Investissement Quebec International โดยมีผู้ประกอบการแคนาดาด้านการบิน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการบินและโลจิสติกส์ จำนวน 8 บริษัท/หน่วยงาน 

ทั้งนี้ สกพอ. ได้นำเสนอโอกาสทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายในประเทศไทยด้วย และผู้ประกอบการแคนาดามีความสนใจในการขยายโอกาสในการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น และตลาดเอเชียถือเป็นพื้นที่เป้าหมายที่สำคัญ จึงถือเป็นโอกาสของพื้นที่อีอีซี ในการรองรับการลงทุนในอนาคต และ Trade Commissioner Services และ Investissement Quebec International เห็นพ้องในการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์โอกาสการลงทุนในพื้นที่อีอีซีกับสมาชิกในอนาคตด้วย

ความพยายามเพื่อส่งให้ภาคการบินของไทยเติบโตไปถึงระดับเทคโนโลยีอวกาศจะเป็นอีกโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ที่จะหนุนนำให้การพัฒนาประเทศไทยเป็นไปอย่างต่อเนื่องและสดใส แต่ความพยายามทั้งหมดนี้จะไม่ประสบผลสำเร็จเลยหากขาดบุคลกรคุณภาพที่จะร่วมขับเคลื่อนฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึงได้