พาณิชย์เร่งสรุป 65 สินค้าสวมสิทธิ์แหล่งกำเนิดสินค้าก่อนชงครม.

กรมการค้าต่างประเทศ เร่งสรุปรายการสินค้าเฝ้าระวังการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า 65 รายการ ชงครม. ก่อนออกประกาศบังคับใช้ เผย ครบรอบกรม 83 ปี ยกระดับงานบริการด้วยนวัตกรรมดิจิทัลสมัยใหม่ เพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทย ลดอุปสรรคทางการค้า ผลักดันการค้าไทยสู่เวทีโลก
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายหลังสหรัฐฯ ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าที่มาจากไทยเป็นอัตรา 36 %ตามประกาศมาตรการภาษีตอบโต้แบบต่างตอบแทน (Reciprocal Tariff) จากสินค้านำเข้าจากทุกประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าไทย ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ศุลกากรสหรัฐฯ คต. ได้มีการประชุมหารือร่วมกับ US Custom and Border Protection (CBP) เพื่อสรุปพิกัดศุลกากรที่สหรัฐเฝ้าระวังหลบเลี่ยงถิ่นกำเนิดสินค้า
โดยได้เพิ่มเติมจำนวนรายการสินค้าเฝ้าระวังการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า เป็น 65 รายการ จำนวน 224 พิกัดภาษีและทางฝ่ายไทย เช่น กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ได้ขอให้ทางสหรัฐมีการแจ้ง ข้อมูลพิกัดภาษีรายการสินค้าให้มีความชัดเจนมากขึ้นแบบspecific แทนการบอกแบบกว้างๆ เพื่อไม่ให้ไทยเสียโอกาสในการส่งออกในภาพรวม ซึ่งในรายการสินค้า ยังสามารถปรับเพิ่มขึ้นหรือลงได้ ซึ่งผลสรุปรายการสินค้าเฝ้าระวังทั้งหมด จะนำเสนอ ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนจะออกเป็นประกาศกรมการค้าต่างประเทศต่อไป
นอกจากนี้ ทางกรมฯได้เพิ่มความเข้มงวดในการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form C/O ทั่วไปของไทย มากขึ้น โดยที่ผ่านมาได้หารือกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานเอกชนที่มีอำนาจในการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form C/O ทั่วไปของไทยด้วย
ล่าสุด 3 หน่วยงานได้มีความเห็นร่วมกันที่จะให้กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นหน่วยงานเดียว ที่สามารถออกหนังสือรับรองฯ Form C/O ทั่วไป สำหรับรายการสินค้าเฝ้าระวังในการส่งออกไปสหรัฐฯ 49 รายการ ในเบื้องต้น เช่น แผงโซลาร์เซลล์ ล้อเหล็กสำหรับรถบรรทุก แผ่นหินเทียม และท่อเหล็ก โดยกำหนดให้ผู้ส่งออกจะต้องยื่นขอตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้าก่อนขอรับหนังสือรับรองฯ Form C/O ทั่วไป จากกรมการค้าต่างประเทศเพื่อป้องกันการหลบเลี่ยงภาษีของสหรัฐฯ จากประเทศอื่นๆ
“การเพิ่มรายการสินค้าเฝ้าระวังฯ ได้มีการติดตามข้อมูลสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงในการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าไทยจากมาตรการ AD และมาตรการ 301 อย่างใกล้ชิดและติดตามรายการสินค้าจากมาตรการ 232 เพิ่มเติมด้วย เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงที่อาจมีสินค้าดังกล่าวมาแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าไทย ”นางอารดา
นางอารดา กล่าวว่า ทั้งนี้ ในโอกาสกรมการค้าต่างประเทศครบรอบ 83 ปี กรมพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนการค้าต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยยกระดับงานบริการด้วยนวัตกรรมดิจิทัลสมัยใหม่ เสริมสร้างขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทย ทั้งนี้กรมฯได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมการค้าต่างประเทศกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เพื่อยกระดับงานบริการออกหนังสือสำคัญการส่งออก-นำเข้าสินค้า
ด้วยการพัฒนาระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ผู้รับบริการสามารถดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายๆ ภายใต้ระบบ DFT SMART – I และ DFT SMART C/O ซึ่งสามารถยื่นคำขอ พิมพ์เอกสาร และชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่ศูนย์บริการ มุ่งสู่เป้าหมายการให้บริการแบบ No Visit อย่างเต็มรูปแบบ ตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการ (Citizen Centric) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ
ฉบับที่ 2 MoUความร่วมมือทางวิชาการะหว่างกรมการค้าต่างประเทศกับกรมสุขภาพจิต ภายใต้โครงการ “สุขภาพใจ เรื่องใกล้ตัวที่ควรตระหนัก” เพื่อดูแลส่งเสริมสุขภาพทางกายและใจของบุคลากรกรมฯพุ่งเป้าเสริมสร้างความแข็งแรงด้านร่างกาย ส่งเสริมและป้องกันปัญหาสุขภาวะทางจิตใจ Happy Workplace
“กรมการค้าต่างประเทศพร้อมก้าวสู่ปีที่ 84 เพื่อบูรณาการและขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศของไทยในทุกมิติ มุ่งเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ประกอบการไทย รองรับความผันผวนและความเปลี่ยนแปลงทางการค้าที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเร่งสร้างขีดความสามารถและพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย เพื่อสร้างแต้มต่อและความได้เปรียบทางการค้าให้เพิ่มมากขึ้น และเดินหน้าผลักดันการค้าไทยให้เติบโตและก้าวสู่เวทีโลกได้อย่างยั่งยืนต่อไป” นางอารดากล่าว







